ปลาทูย้ายวิกเตะราชบุรีเลกสอง

นายสมศักดิ์ ศิริธรรม ประธานสโมสรเอสซีจี สมุทรสงคราม เผยเตรียมย้ายรังเหย้าไปใช้ที่สนามกีฬากลาง จ.ราชบุรี ในเลกสอง พร้อมวิงวอนให้แฟนบอลเข้าใจว่าเกิดจากความจำเป็น และต้องการช่วยให้ไทยพรีเมียร์ลีกผ่านการประเมินของสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) เพื่อจะได้โควตาไปเล่นเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก (เอซีแอล) โดยอัตโนมัติ

สืบเนื่องจาก เอเอฟซี มาประเมินมาตรฐานของ 18 สโมสรในไทยพรีเมียร์ลีก ระหว่างวันที่ 20-30 มีนาคม ที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีเพียง 4 สนาม 5 สโมสรเท่านั้นที่ผ่านการประเมิน ขณะที่อีก 13 สโมสรยังต้องแก้ไขปรับปรุงซึ่งรวมถึง เอสซีจี สมุทรสงคราม ด้วย โดยสนาม อบจ.สมุทรสงคราม ยังไม่ผ่านเกณฑ์ในเรื่องของห้องต่าง ๆ ตลอดจนโครงสร้างอัฒจันทร์ที่ยังเล็กเกินไป ซึ่งทาง เอเอฟซี จะเดินทางมาตรวจอีกครั้งในวันที่ 14 ตุลาคมนี้

นายสมศักดิ์ ศิริธรรม จึงได้หารือร่วมกับผู้บริหารสโมสรฯ ก่อนได้ข้อสรุปว่าจะย้ายไปใช้สนามกีฬากลาง จ.ราชบุรี ตามที่สื่อได้นำเสนอข่าวไปแล้ว ซึ่งล่าสุด “บิ๊กเปี๊ยก” ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า “เราจำเป็นต้องย้ายไปใช้สนามที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบของ เอเอฟซี และไม่ไปฉุดรั้งความก้าวหน้าของไทยพรีเมียร์ลีกที่ต้องการได้โควตาไปเล่น เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก อัตโนมัติโดยไม่ต้องเตะรอบเพลย์ออฟ เพราะหากไม่ผ่านการประเมินในปีนี้จะต้องรอไปอีกถึง 3 ปี คือ ปี 2015 กว่าที่ เอเอฟซี จะมาประเมินใหม่อีกครั้ง”

ประธานสโมสรเอสซีจี สมุทรสงคราม กล่าวถึงแผนการย้ายสนามในเบื้องต้นว่า “เราจะย้ายไปเล่นนัดเหย้าที่ราชบุรีชั่วคราวในเลกสอง เนื่องจากต้องใช้เวลาจัดการสถานที่ต่าง ๆ ให้ได้ตามมาตรฐานของเอเอฟซี ทั้งห้องพักนักกีฬาทีมเหย้าและทีมเยือน ห้องผู้ตัดสิน ที่นั่งสื่อมวลชน มิกซ์โซนสำหรับให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์นักฟุตบอล และร้านขายของที่ระลึก อย่างไรก็ตาม สภาพสนามทั้งเรื่องไฟและพื้นหญ้าถือว่าพร้อมอยู่แล้ว เนื่องจากเคยใช้จัดกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 34 เมื่อปี พ.ศ.2547 ส่วนความจุสนามก็มีถึง 15,000 ที่นั่ง จึงสามารถรองรับการเติบโตของลีกได้สบาย”

เกี่ยวกับเรื่องความสะดวกของแฟนบอลชาวสมุทรสงครามที่จะต้องเดินทางเพื่อตามไปเชียร์ทีม นายสมศักดิ์ กล่าวว่า “ผมเชื่อว่าพี่น้องแฟนบอลของสโมสรเอสซีจี สมุทรสงคราม ต้องการเห็นทีมเติบโตเป็นทีมที่ใหญ่ขึ้น ๆ เช่นเดียวกับ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด, ชลบุรี หรือ บุรีรัมย์ พีอีเอ ซึ่งเรามีโครงสร้างทีมที่ดีอยู่แล้ว เหลือเพียงเรื่องสนามเท่านั้นที่ต้องปฏิบัติให้ได้ตามเกณฑ์ของเอเอฟซี ดังนั้น ผมคิดว่าพวกเขาคงเข้าใจ และผมเองก็ได้ปรึกษากับแกนนำแฟนบอลของเราแล้วว่าจะให้ความช่วยเหลือเรื่องการเดินทางส่วนหนึ่ง”

“สำหรับความช่วยเหลือนั้น สโมสรฯ ก็จะมีการจัดเตรียมรถบัสให้ประมาณ 10 คัน ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถจัดสรรงบประมาณมาช่วยแฟนบอลได้ แต่หากรถบัสรองรับไม่เพียงพอ แฟนบอลบางส่วนก็สามารถเดินทางไปเองได้ เพราะราชบุรีอยู่ติดกับสมุทรสงคราม ใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาทีเท่านั้น ขณะที่ค่าเช่าสนามต่อ 1 นัดอยู่ที่ 15,000 บาท ซึ่งไม่มีผลกระทบต่องบประมาณของสโมสรฯ มากนัก จึงสามารถนำไปใช้พัฒนาสโมสรฯ ในด้านอื่นๆ ได้ต่อไป” บิ๊กเปี๊ยก กล่าวสรุป