xs
xsm
sm
md
lg

คุยกับ วรวีร์ / กษิติ กมลนาวิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน

หลังจากที่ คุณวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ออกมาให้ข่าวเรื่องการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ที่จะมีการใช้ธรรมนูญใหม่ซึ่งยึดถือตามข้อบังคับของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทำให้หลายฝ่ายนำไปตีความจนเกิดความสับสน และเข้าใจไปคนละทางสองทาง ผมจึงถือโอกาสถามไถ่กับ คุณวรวีร์ ด้วยตนเอง และก็ได้ข้อสรุปบางประการครับ

คุณวรวีร์ อธิบายว่า ทาง ฟีฟา ต้องการให้ สมาคมฟุตบอลของแต่ละประเทศที่เป็นสมาชิกนั้น มีคณะกรรมการบริหารโดยมีที่มาจากกระบวนการที่เป็นแบบเดียวกันทั่วโลก โดยท่านนายกสมาคมฯ บอกว่า การเลือกผู้นำองค์กรเพียงตำแหน่งเดียว แล้วให้ผู้นั้นไปหาทีมงานมาเองอย่างแต่ก่อน มันทำให้อำนาจไปอยู่ในมือของคนเพียงคนเดียว ค่อนข้างจะเผด็จการ แต่ตามธรรมนูญใหม่นี้ จะมีการเลือกกรรมการทั้ง 19 ตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น นายกสมาคมฯ อุปนายกสมาคมฯ และกรรมการบริหาร โดยตามข้อบังคับของ ฟีฟา ต้องมีอุปนายกสมาคมเป็นสุภาพสตรี 1 คนด้วย ซึ่งกระบวนการแบบใหม่นี้มีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่า ไม่น่าจะมีใครมาแย้ง

สำหรับผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งก็คือ สโมสรจาก ไทยพรีเมียร์ลีก 18 สโมสร จาก ลีกดิวิเชิน 1 อีก 18 สโมสร ผู้แทนจาก ลีกภูมิภาค ดิวิเชิน 2 ทั้ง 5 ภาคๆละ 2 เสียง รวม 10 เสียง ซึ่งอันนี้ คุณวรวีร์ บอกกับผมว่า คงเอามาจากสโมสรที่ได้ 2 อันดับแรกของแต่ละภาค นอกจากนั้น ก็มีผู้แทนจากทีมในถ้วยพระราชทานประเภท ข ค และ ง อีก 6 เสียง ผู้แทนนักฟุตบอล 1 เสียง ผู้แทนผู้ฝึกสอน 1 เสียง ผู้แทนผู้ตัดสิน 1 เสียง ผู้แทนฟุตบอลหญิง 1 เสียง ผู้แทนฟุตซอล และ บีช ซอคเคอร์ 1 เสียง และผู้แทนจากแฟนบอลอีก 1 เสียง รวมเป็น 58 เสียง พวกเขาจะทำหน้าที่ลงคะแนนเลือกทีละตำแหน่งเรียงตัวไปเลย ใครสนใจลงสมัครก็เสนอตัวเข้ามาชนกัน

อย่างไรก็ตาม กว่าจะไปถึงวันเลือกตั้ง ยังมีกระบวนการที่ต้องใช้เวลาอีกยาวไกล ไม่ใช่ในเดือน 2 เดือนนี้แน่นอน เพราะยังต้องมีขั้นตอนในแจ้งให้สโมสรสมาชิกรับทราบ ก่อนกำหนดวันเลือกตั้งซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแถวๆกลางปีนี้

ผมถามท่านว่า ท่านจะเสนอตัวสำหรับสมัยหน้าหรือไม่ คุณวรวีร์ แสดงความมั่นใจว่า ผลงานที่ผ่านมานั้นเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถ โดยท่านพยายามวางรากฐานให้วงการฟุตบอลของไทยอย่างเป็นเรื่องเป็นราว มีลีกอาชีพที่มีความแข็งแกร่งยิ่งๆขึ้น และยังมีอีกหลายโครงการที่จะทำเพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลของไทย ซึ่งขณะนี้ก็กำลังไปได้ดี แต่ผลการแข่งขันของทีมชาติที่พลาดท่าแพ้เพียงนัด 2 นัด จะเอามาตัดสินผลงานของแก ก็จะดูใจจืดใจดำไปหน่อย

สำหรับคำถามที่ว่า ตอนนี้พอจะทราบหรือยังว่า คู่แข่งมีใครบ้าง ท่านบอกว่า ไม่ทราบเลย แต่หากมีใครสนใจจะเสนอตัวเข้ามา แกชอบใจนะ ทั้งนี้ ควรจะแสดงตนออกมา โดยนำเสนอแนวความคิด วิสัยทัศน์ออกมาเลย มาถึงตอนนี้ผมให้ความเห็นว่า เขาคงต้องแอบซุ่มเพื่อประเมินกำลังของตนเองว่า พอมีลุ้นสู้ได้หรือไม่ ท่านนายกฯก็บอกว่า ก็ถ้าจะสู้ไม่ได้เพราะอะไรเล่า

เป็นอันสรุปได้ว่า คุณวรวีร์ ไม่อยากให้มองผลการแข่งขันของทีมชาติที่ล้มเหลวเพียงนัด 2 นัด แต่ให้พิจารณาเรื่องการบริหารงานของคณะกรรมการชุดนี้ที่มีแกเป็นผู้นำ ซึ่งในปัจจุบันประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี จนเกิดเป็นกระแสนิยมไปทั่ว นอกจากนั้น ท่านเองยังได้รับการยอมรับจากนานาชาติ โดยได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งในระดับนานาชาติ อันถือเป็นเกียรติ เป็นศักดิ์ศรีของประเทศชาติอีกด้วย

เอาเป็นว่า ผมเห็นด้วยกับธรรมนูญใหม่ก็แล้วกันครับ อย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่อยากให้คนที่ตะโกนไล่ คุณวรวีร์ ในสนามแข่งขันถูกคุกคามอย่างที่ผ่านมา พวกเขาคาดหวังในผลงานของทีมชาติไทย ซึ่งถ้าล้มเหลว ก็ย่อมเกิดความผิดหวัง ไม่พอใจ และต้องการขับไล่ผู้นำองค์กรเป็นเรื่องธรรมดา และไม่ว่าจะในสนามที่มีการแข่งขันระดับทีมชาติ หรือในระดับสโมสร หรือสนามไหนก็ตาม ผมยังเชื่อมั่นว่า พวกเขาก็ยังทรงสิทธิ์ดังกล่าวครับ มันเป็นหน้าที่ของผู้นำองค์กรที่จะต้องแสดงให้แฟนบอลเชื่อในตัวท่าน ทั้งในแง่การบริหารงาน วางโครงสร้างต่างๆเพื่อให้ฟุตบอลไทยพัฒนาสู่ระดับโลก และในแง่ผลการแข่งขันของทีมชาติไทย เพราะหากทุกอย่างที่ท่านเชื่อว่ามาถูกทางแล้ว แต่ผลงานของทีมชาติยังล้มเหลวอยู่อย่างนี้ มันก็ต้องมีอะไรผิดสักอย่าง
กำลังโหลดความคิดเห็น