xs
xsm
sm
md
lg

“ประยุทธ์” ยันไม่หลงกลโจรใต้ ก่อเหตุถี่หวังยกระดับเข้าโอไอซี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (แฟ้มภาพ)
“ประยุทธ์” ลงใต้ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมกำชับให้เข้มงวดขึ้น ทั้งทหาร ตำรวจ และประชาชน ที่ต้องช่วยดูแลชุมชนของตัวเอง เผยที่เกิดเหตุถี่ เพราะฝ่ายก่อเหตุต้องการยกระดับปัญหาเพื่อให้โอไอซีเข้ามาแทรก แค่ไม่ตกหลุมพราง ยันสถานการณ์โดยรวมดีขึ้น ช่วงชิงประชาชนมาอยู่กับภาครัฐมากกว่า 90% แล้ว เผย งานการข่าวพบมีหลายกลุ่มที่เคลื่อนไหวก่อเหตุ โดยเฉพาะกลุ่มแก๊งนักค้ายาเสพติด

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางลงไปจังหวัดยะลา และ สงขลา เพื่อตรวจเยี่ยมการทำงานของหน่วยปฏิบัติระดับหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ไปตรวจเยี่ยมตามห้วงระยะเวลา โดยลงไปกำกับดูแลตามนโยบาย และกรอบในการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า และช่วงที่ผ่านมาที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายครั้งต้องไปดูในรายละเอียดว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างไร ทุกคนทราบดีว่า ช่วงนี้มักเกิดเหตุบ่อยครั้ง ช่วงจะมีการประชุมองค์การการประชุมอิสลาม (โอไอซี) หรือยกระดับปัญหาต่างๆ ขึ้นมา เพื่อเข้าสู่การเจรจา แต่คงไม่ตกหลุมพราง เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด โดยใช้กฎหมายที่มีอยู่ และแก้ไขปัญหาภายในของเราเอง เหตุการณ์ที่ผ่านมาที่คนร้ายมักก่อเหตุในชุมชน ต่อไปเราคงต้องใช้มาตรการในเชิงรุกมากขึ้น และเข้าพิสูจน์ทราบในพื้นที่ป่าภูเขา และพื้นที่ชนบทรอบๆ เมือง เพราะฝ่ายก่อเหตุพยายามปรับเปลี่ยนสถานการณ์

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ ตนจะไปกำชับกำลังพลให้เข้มงวดมากขึ้น ทั้งกำลังทหาร ตำรวจ ประชาชนที่ต้องดูแลชุมชนของเขาเองด้วย ซึ่งประชาชนต้องเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด ทั้งโครงการวิทยุเครื่องแดง หรือกลุ่มต่างๆ ที่ร่วมมือในการแก้ไขปัญหากับเจ้าหน้าที่ เพื่อการเฝ้าระวัง เราเป็นห่วงประชาชนที่สนับสนุนเจ้าหน้าที่ทหาร เพราะมักถูกทำร้าย จึงอยากให้สื่อช่วยกันทำความเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่ทำงานในหลายมิติทั้งกระบวนการยุติธรรม ยุทธวิธี และการพัฒนา ส่วนการทำความเข้าใจกับประชาชนทั้งประวัติศาสตร์ ชาติพันธ์ และศาสนา เราได้ทำทุกมิติ แต่ปัญหา คือ เมื่อเรารุกมากขึ้น ฝ่ายตรงข้ามพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านั้น ซึ่งเป็นสงครามแย่งชิงประชาชนทั้งสองฝ่าย

“เราต้องการให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 90% ส่วนที่เหลืออยู่ เพราะความหวาดกลัว เขาพยายามสร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นโดยเฉพาะชุมชน เพราะจะทำให้เกิดผลกระทบสูง และเขาต้องการทำให้กระทบต่อส่วนรวม และต้องการยกระดับให้สูงขึ้น ทำให้มีตัวตนมากขึ้น ทั้งนี้ จากการสืบทราบในสายข่าว ยังไม่มีกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ชัดเจน แต่มีหลายกลุ่มเข้ามาร่วมกันทำให้ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด ที่ขณะนี้ต้องเข้มงวดมากขึ้น ส่วนเหตุระเบิดที่ผ่านมา กล้องซีซีทีวีมีประโยชน์สามารถจับคนร้ายได้ ขณะนี้เรากำลังตามจับตัวคนที่เหลืออยู่ จึงอยากเร่งรัดให้กระทรวงที่รับผิดชอบมีการติดกล้องมากขึ้น”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้นำเรือเหาะตรวจการณ์มาใช้ในการปฏิบัติภารกิจหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ก็ใช้อยู่และใช้มานานแล้ว ซึ่งเมื่อใช้ไปแล้วเกิดปัญหาก็เอาไปซ่อม และนำมาใช้ ซึ่งในระหว่างที่เรือเหาะขึ้นไม่ได้ก็ยังมีเครื่องบิน มีเฮลิคอปเตอร์อยู่ ตนเคยเรียนไปหลายครั้งแล้วว่าระบบเฝ้าตรวจการณ์นั้นไม่ได้มีแค่เรือเหาะอย่างเดียว แต่เราก็มัวมามองแต่เรือเหาะ และที่ผ่านมาเราก็ใช้ประโยชน์จากตรงนี้มาโดยตลอด ซึ่งไม่ใช่ตนจะมาแก้ตัว สื่อต้องช่วยเราตรงไหนที่มันไม่ดี ก็เตือนก็บอกมาจะได้นำไปแก้ไข ถ้าโจมตีกันบ่อยๆ เข้ามันก็ทำงานไม่ได้

เมื่อถามว่า ทุกครั้งที่เกิดเหตุขึ้นทุกคนจะมองว่าเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เขาก็ทำอยู่ ที่ในพื้นที่ตรงนี้มันมีผลกระทบสูงกว่าที่อื่น เพราะอยู่ในความสนใจของสังคม และมีประชาชนชาวใต้มาเสียชีวิต ที่อื่นอาจจะไม่เสียชีวิตเท่านี้ ทุกคนก็โทษเจ้าหน้าที่หมด ทำไมผู้ร้ายถึงไม่ถูกกล่าวโทษบ้าง ไปโทษผู้ร้ายบ้างว่าฆ่าคนบริสุทธิ์ได้อย่างไร ฆ่าครู ฆ่าพระ ฆ่าคนอื่นๆ ทำไมไม่ไปสาปแช่งเขาบ้าง ตนก็อธิบายไปหลายครั้งว่า เจ้าหน้าที่ก็ลงไปในปฏิบัติงานในพื้นที่อยู่ ทหารกว่า 2 หมื่นกว่า ตำรวจอีกหมื่นกว่า และพลเรือนอีกจำนวนหนึ่ง มีเจ้าหน้าที่ทั้งหมดกว่า 6 หมื่นคนนั้น ไม่สามารถที่จะไปยืนตามจุดในเมือง หรือพื้นที่ตามป่าเขาได้ทุกจุด แต่เราต้องแบ่งกำลังออกไปเป็น 300 กว่าฐาน เพื่อให้สามารถครอบคลุมพื้นที่ให้กว้างที่สุด แต่ถ้าเราจะแบ่งให้มากกว่า 300 ฐานนั้น ก็สามารถทำได้แต่ต้องมีกำลังมากกว่านี้ ก็ส่งไปเฝ้าตาม 4 แยกทุกจุด แต่ปัญหาคือกำลังพลเราไม่พอ

“ต้องแยกให้ออกว่าการทำงานที่ผ่านมากับวันนี้มันต่างกันอย่างไร ถ้าถามว่ามันดีหรือไม่ดีผมไม่ตอบแล้ว ตอบทีไรก็มีปัญหาทุกที ถ้าไปดูแต่เรื่องที่มันแย่มันก็จะเป็นอยู่อย่างนี้ ต้องไปดูในสิ่งที่มันดีขึ้นมาบ้าง เช่น เรื่องความร่วมมือ เรื่องกิจกรรมของชาวใต้ พูดแต่สิ่งที่แย่มาตลอดและบอกว่าสิ่งที่ดีแล้วไม่ต้องพูด แต่สังคมก็เข้าใจไปแล้วว่ามันแย่ นึกถึงคนที่เขาทำงานในพื้นที่ภาคใต้บ้าง เขาก็เสี่ยงทุกวัน และไม่ใช่เขามาเสียสละ ผมพูดไปก็ไม่ดีอีกเดี๋ยวหาไปทวงบุญคุณ แต่มันเป็นหน้าที่ก็ต้องทำ ดงนั้น ต้องบอกอีกครั้งว่าการทำงานในพื้นที่ภาคใต้นั้นมันไม่เหมือนกับการ ปราบคอมมิวนิสต์ ปราบโจรทั่วไป เพราะโจรทั่วไปมันไม่มีการฆ่าประชาชน แต่ตอนนี้มันมีการฆ่าประชาชน กำลังเจ้าหน้าที่ทั้ง 6 หมื่นคนนี้ ก็ต้องแบ่งไปดูแลชุมชน ตลาดความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งก็ใช้เจ้าหน้าที่ไปกว่าครึ่งแล้ว ถ้าไม่เฝ้าก็จะเกิดการฆ่าประชาชนอีก ดังนั้นเราก็ต้องเสียคนส่วนหนึ่งไปเฝ้าระวังภัยให้ประชาชน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การปฏิบัติแบบนี้ไม่ใช่การทหารนำการเมือง แต่การทหารไปทำให้การเมืองปลอดภัยให้เขาทำงานได้ เราต้องไปวิเคราะห์ตรงนี้ว่าที่ทำงานนั้นทำงานด้วยหลักการด้วยข้อเท็จจริง อะไร ไม่ใช่มาบอกว่าทำอย่างนี้เป็นการทหารนำการเมือง ตนถามว่าการเมืองถ้าไม่มีการทหารไปดูแลความปลอดภัยเขาทำได้ไหม ไม่ใช่การทหารไปสั่งการเมือง สื่อไปตีความกันไม่ถูกเอง เราไปสั่งเขาไม่ได้ แต่เขาเป็นคนสั่งเรา การเมืองคือฝ่ายบริหารกำหนดนโยบาย ตนก็นำสู่การปฏิบัติ
กำลังโหลดความคิดเห็น