"ยอดคุณพ่อ" ชนะชัย ศรีชาพันธุ์ หวังผลักดันให้ "ซูเปอร์บอล" ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักหวดมือ 9 ของโลก ลงสู่ถนนสายการเมือง หลังรับพระราชทานปริญญาบัตร คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม 2554 ณ ห้องประชุมพ่อขุนรามคำแหง มหาวิทยาลัยรามคำแหง มีพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรให้กับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญา โดยมี "ซูเปอร์บอล" ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักหวดมือ 9 ของโลก เข้าร่วมรับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ สาขาการเมืองและการปกครอง ภาคพิเศษ 2 ปีครึ่ง โดยมีนายชนะชัย และนางอุบล ศรีชาพันธ์ บิดา-มารดาของอดีตมือ 1 ทีมชาติไทยร่วมแสดงความยินดี โดยไร้เงาของ นาตาลี เกลโบวา อดีตภรรยาที่เพิ่งเลิกรากันไปเข้าร่วม
ซึ่ง "ซูเปอร์บอล" กล่าวภายหลังรับปริญญาว่า "ตอนนี้ นาตาลี ติดภาระกิจเดินแฟชั่นที่ต่างประเทศ จึงไม่ได้มาร่วมงาน โดยส่วนตัวแล้วเธออยากมาร่วมงานด้วย แต่ไม่ว่างจริงๆ ขณะที่ผมเองก็รู้สึกยินดี และเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้รับปริญญาในวันนี้ พร้อมกับอยากขอบพระคุณมหาวิทยาลัยรามฯ ที่ให้โอกาสมารับปริญญาโดยที่ไม่ได้เข้าร่วมพิธีซ้อมใหญ่ จากนี้จะนำความรู้ที่ได้ไปใช้ดูแลธุรกิจอาหารเสริมสุขภาพ"
"ตลอดเวลา 2 ปีครึ่งที่ผมพยายามร่ำเรียนมา ยอมรับว่ายากลำบากไม่น้อย เพราะต้องทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ต้องแบ่งเวลาหนักมาก ส่วนเรื่องเรียนต่อระดับปริญญาโทนั้น อยากเรียนต่อแน่นอน แต่ต้องขอพักไว้ก่อนช่วงนี้ หากมีช่วงเวลาที่สะดวกเมื่อไรก็จะกลับมาเรียนต่อ ซึ่งมองไว้ 2 คณะ คือ คณะเดิม หรือคณะบริหารธุรกิจ" อดีตนักหวดวัย 32 ปีกล่าว
ขณะเดียวกันนายชนะชัย ศรีชาพันธุ์ กล่าวถึงแสดงความยินดีกับบุตรชายว่า "รู้สึกดีใจแทนลูกที่ประสบความสำเร็จด้านการเรียน และมั่นใจว่าเขาสามารถเรียนจบได้อยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาตั้งใจเรียนมาก"
นอกจากนี้ "ยอดคุณพ่อ" เผยวางแผนให้บุตรชายลงรับใช้ชาติด้วยการเป็นนักการเมือง"ที่ผ่านมาเขามาปรึกษาผมตลอด โดยเฉพาะเรื่องเรียนว่าควรเรียนคณะใด ผมก็แนะนำให้ลงเรียนคณะรัฐศาสตร์ ถึงตอนนี้หากอยากเรียนต่อก็เรียนได้ แต่อยากให้ทำงานทางการเมืองควบคู่กันไปด้วย อย่างไรก็ตามที่ผ่านมายังไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด และยังไม่มีใครทาบทาม"
ด้าน ภราดร กล่าวยอมรับแบบแบ่งรับแบ่งสู้ถึงการลงสมัครรับเลือกตั้งว่า "เวลานี้คงยังไม่พร้อมสำหรับการเมือง แต่อนาคตก็ไม่แน่ เพียงแต่ยังไม่คาดหวัง หรือคิดจะจริงจังในช่วงนี้"
พร้อมกันนี้ ดร.สุรเดช สำราญจิตร์ ประธานฝึกซ้อมและจัดที่นั่งสำหรับงานพิธีรับพระราชทานปริญญาบัตรครั้งนี้ชี้แจงถึงกรณีอดีตนักเทนนิสมือ 1 ของไทยสามารถเข้าร่วมพิธีทั้งที่ยังไม่ได้เข้าร่วมในวันฝึกซ้อมว่า "ที่ผ่านมาก็มีหลายกรณีที่ผู้สำเร็จการศึกษาไม่สามารถเข้าร่วมพิธีซ้อมได้ อย่างเช่นมีภูมิลำเนาในต่างจังหวัด หรือติดภาระกิจสำคัญไม่สามารถเข้าร่วมได้ คณะกรรมการก็จะพิจารณาเป็นรายไปเท่าเทียมกันทุกคน ส่วนกรณีของคุณภราดรนั้น เรามีการประชุมหารือกันแล้ว และอยากให้ตัวเขาซึ่งเป็นอดีตนักกีฬาผู้มีชื่อเสียงระดับโลกเข้าร่วมเพราะถือว่าเป็นครั้งหนึ่งที่ผู้สำเร็จการศึกษาจะได้ภูมิในผลงานของตัวเอง"
