"แฝดใหญ่" พลตำรวจตรี สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยฯ พร้อมคณะกรรมการบริหารสหพันธ์กรีฑาเอเชีย ร่วมคัดค้านชาติ "ออสซี" ออสเตรเลีย หลังเสนอตัวเข้าร่วมการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์เอเชียในรายการต่างๆ ขณะเดียวกันสนใจส่งนักกีฬาไทยเข้าแคมป์แดน "จิงโจ้" เนื่องจากมีเทคโนโลยีที่พัฒนาไกล
เมื่อเวลา 15.00 น. วันพุธที่ 2 มีนาคม 2554 "แฝดใหญ่" พลตำรวจตรี สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสหพันธ์กรีฑาเอเชีย หลังจากที่ได้รับเกียรติจากสหพันธ์กรีฑาแห่งเอเชีย (AAA) ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ซึ่งครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ลาไมน์ ดิแอ็ก ประธานสหพันธ์กรีฑาโลก พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสหพันธ์กรีฑาเอเชีย ร่วมเข้าประชุมครั้งนี้ ณ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ กรุงเทพฯ
ภายหลังจบการประชุม "แฝดใหญ่" พลตำรวจตรี สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยฯ เผยสาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้ว่า "คณะกรรมการบริหารสหพันธ์กรีฑาเอเชียได้ทำการเลือกตั้งให้ มาลา สาคอนหินหอม อดีตนักวิ่งชาวลาว เป็นกรรมการบริหารสหพันธ์เอเชียหญิง จาก 11 ใน 15 เสียงการเลือกตั้งอย่างเป็นเอกฉันท์ชนะ บาเรนห์ และ ปากีสถาน ร่วมทำงานกับ เคย์ กรรมการบริหารสหพันธ์เอเชียหญิงอีกคนชาวเลบานอน ตามที่ สหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (ไอเอเอเอฟ) กำหนดให้มีกรรมการบริหารสหพันธ์เอเชียฝ่ายสตรี 2 คน"
"ทั้งนี้ผมได้ชี้แจงหลังจากที่ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน "อาเซียน แอนด์ พัทยา มาราธอน แชมป์เปียนชิป" ครั้งที่ 13 ในวันที่ 17 ก.ค. 2554 ณ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และข่าวดีหลังจากที่ทีมชาติไทยจะได้รับการฝึกซ้อมจาก วอลเทอร์ อับมายา ผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมนีอดีตเคยเป็นโค้ชผมในสมัยที่ผมเป็นนักกีฬา"
นอกจากนี้ อุปนายกส.กรีฑา ได้กล่าวเสริมว่า "ที่ประชุมได้ร่วมปรึกษาถึงกรณีที่ประเทศออสเตรเลียขอเสนอตัวเข้าร่วมการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์เอเชียในรายการต่างๆ นั้น ปรากฏว่าที่ประชุมไม่รับเสนอดังกล่าวเนื่องจากให้เหตุผลเป็นไปตามแผนที่โลก อีกทั้งหากออสเตรเลียร่วมแข่งขันในแถบเอเชียจะทำให้ความภาคภูมิใจของนักกีฬาเอเชียจืดจางลงไป ขณะเดียวกันเปรียบเสมือนเหรียญ 2 ด้าน คือ ในข้อดีทำให้มีการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาทางด้านร่างกายเนื่องจากเขามีรูปร่างสูงใหญ่"
"ขณะเดียวกันผมมีความสนใจที่จะส่งนักกีฬา อาทิ กระโดดค้ำ เข้าแคมป์ฝึกซ้อมกับ สมาคมกรีฑาของประเทศออสเตรเลีย เพราะต้องยอมรับว่าในบางประเภทเขามีเทคโนโลยีที่ไปไกลกว่าของเรา ทั้งนี้ สหพันธ์กรีฑาแห่งเอเชีย อนุญาตให้ออสเตรเลียเข้าร่วมการแข่งขัน อาเซียน กรังด์ ปรีซ์ 2011 ในวันที่ 22,26,29 พ.ค.2554 ณ ประเทศจีน และ อาเซียน ออลสตาร์ อย่างไรก็ตามบทสรุปจะเกิดขึ้นในการประชุม "AAA Congress Meeting" ที่ โกเบ ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 6 ก.ค. 2554"
เมื่อเวลา 15.00 น. วันพุธที่ 2 มีนาคม 2554 "แฝดใหญ่" พลตำรวจตรี สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสหพันธ์กรีฑาเอเชีย หลังจากที่ได้รับเกียรติจากสหพันธ์กรีฑาแห่งเอเชีย (AAA) ให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ซึ่งครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ลาไมน์ ดิแอ็ก ประธานสหพันธ์กรีฑาโลก พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสหพันธ์กรีฑาเอเชีย ร่วมเข้าประชุมครั้งนี้ ณ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ กรุงเทพฯ
ภายหลังจบการประชุม "แฝดใหญ่" พลตำรวจตรี สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยฯ เผยสาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้ว่า "คณะกรรมการบริหารสหพันธ์กรีฑาเอเชียได้ทำการเลือกตั้งให้ มาลา สาคอนหินหอม อดีตนักวิ่งชาวลาว เป็นกรรมการบริหารสหพันธ์เอเชียหญิง จาก 11 ใน 15 เสียงการเลือกตั้งอย่างเป็นเอกฉันท์ชนะ บาเรนห์ และ ปากีสถาน ร่วมทำงานกับ เคย์ กรรมการบริหารสหพันธ์เอเชียหญิงอีกคนชาวเลบานอน ตามที่ สหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (ไอเอเอเอฟ) กำหนดให้มีกรรมการบริหารสหพันธ์เอเชียฝ่ายสตรี 2 คน"
"ทั้งนี้ผมได้ชี้แจงหลังจากที่ประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน "อาเซียน แอนด์ พัทยา มาราธอน แชมป์เปียนชิป" ครั้งที่ 13 ในวันที่ 17 ก.ค. 2554 ณ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และข่าวดีหลังจากที่ทีมชาติไทยจะได้รับการฝึกซ้อมจาก วอลเทอร์ อับมายา ผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมนีอดีตเคยเป็นโค้ชผมในสมัยที่ผมเป็นนักกีฬา"
นอกจากนี้ อุปนายกส.กรีฑา ได้กล่าวเสริมว่า "ที่ประชุมได้ร่วมปรึกษาถึงกรณีที่ประเทศออสเตรเลียขอเสนอตัวเข้าร่วมการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์เอเชียในรายการต่างๆ นั้น ปรากฏว่าที่ประชุมไม่รับเสนอดังกล่าวเนื่องจากให้เหตุผลเป็นไปตามแผนที่โลก อีกทั้งหากออสเตรเลียร่วมแข่งขันในแถบเอเชียจะทำให้ความภาคภูมิใจของนักกีฬาเอเชียจืดจางลงไป ขณะเดียวกันเปรียบเสมือนเหรียญ 2 ด้าน คือ ในข้อดีทำให้มีการพัฒนาศักยภาพนักกีฬาทางด้านร่างกายเนื่องจากเขามีรูปร่างสูงใหญ่"
"ขณะเดียวกันผมมีความสนใจที่จะส่งนักกีฬา อาทิ กระโดดค้ำ เข้าแคมป์ฝึกซ้อมกับ สมาคมกรีฑาของประเทศออสเตรเลีย เพราะต้องยอมรับว่าในบางประเภทเขามีเทคโนโลยีที่ไปไกลกว่าของเรา ทั้งนี้ สหพันธ์กรีฑาแห่งเอเชีย อนุญาตให้ออสเตรเลียเข้าร่วมการแข่งขัน อาเซียน กรังด์ ปรีซ์ 2011 ในวันที่ 22,26,29 พ.ค.2554 ณ ประเทศจีน และ อาเซียน ออลสตาร์ อย่างไรก็ตามบทสรุปจะเกิดขึ้นในการประชุม "AAA Congress Meeting" ที่ โกเบ ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 6 ก.ค. 2554"
