xs
xsm
sm
md
lg

"แซนดี้" ตะลุยยุโรป / เด็กปั๊ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แซนดี
คอลัมน์ ON TRACK โดย เด็กปั๊ม

ความฝันสูงสุดของนักขับรถแข่งทุกคนแน่นอนว่าต้องมองไปที่การได้ลงแข่งฟอร์มูลา วัน ผมจำได้ว่าในช่วงต้นปี 2010 เคยเขียนถึง แซนดี นิโคลัส สตูวิค นักขับสายเลือดไทย-นอร์เวย์ วัยเพียง 15 ปีที่กำลังตามฝันของตัวเองและคุณพ่อ ด้วยการลงแข่งแชมป์เอเชียน ฟอร์มูลา เรโนลต์ 2010 ซึ่งในที่สุดหนุ่มน้อยรายนี้ก็สร้างสถิติเป็นทั้งนักขับอายุน้อยที่สุดและเป็นคนไทยคนแรกที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จเมื่อสิ้นฤดูกาล

จากความเร็วที่แซนดีแสดงให้เห็นในรายการดังกล่าว ทำให้เขาได้รับโอกาสจากทีมแข่งในยุโรปดึงตัวไปทดสอบรถในช่วงปิดฤดูกาล ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเจ้าตัวได้ขยับเข้าสู่เส้นทางฝันสมใจ ด้วยการร่วมทีม คีโอ เรซซิง ลงแข่งขันฟอร์มูลา เรโนลต์ ยูโรคัพ 2011 ที่จะดวลกันทั้งสิ้น 14 สนามบนภาคพื้นยุโรป เริ่มจากสนามแรกที่มอเตอร์แลนด์ ประเทศสเปน วันที่ 16 เม.ย.นี้

พูดถึงการแข่งขันในระดับฟอร์มูลา เรโนลต์ ยูโรคัพ 2011 ก็เปรียบเสมือนเป็นบันไดขั้นต้นๆที่จะก้าวไปสู่ระดับเอฟวัน โดยขั้นตอนการไต่เต้าในระดับต่อๆไป ก็อาจะเป็น การแข่งขันรายการอย่างฟอร์มูลา ทรี ,ฟอร์มูลา เรโนลต์ 3.5 ลิตร รวมถึงระดับจีพี 2 ซึ่งนับเป็นแหล่งขุมทรัพย์ที่ทีมแข่งจากเอฟวันจะมาซุ่มดึงตัวไปร่วมทีม

ซึ่งหากไปย้อนดูประวัติการแข่งขัน ฟอร์มูลา เรโนลต์ ยูโรคัพ 2011 เครื่องยนต์ 2 ลิตร ที่ได้รับการสนับนนุนจากเรโนลต์ ค่ายรถของฝรั่งเศส ก็ถือว่าเป็นรายการที่มาตรฐานสูงพอสมควรครับ เพราะจัดแข่งมาตั้งแต่ปี 1991 เป็นต้นมา ที่สำคัญมีนักขับหลายต่อหลายคนที่แจ้งเกิดจากรายการนี้จนได้เข้าสู่การแข่งขันระดับโลกอย่างฟอร์มูลาวัน

โดยหากไล่ดูนักขับเอฟวันฤดูกาล 2011 มีหลายคนที่ผ่านการแข่งขันรายการนี้ ที่ดังที่สุดเห็นจะเป็นเฟลิเป มาสซาที่คว้าแชมป์ได้ในปี 2000 ขณะเดียวกันคิมี ไรค์โคเนน ก็เคยซิ่งรายการนี้มาแล้ว นอกจากนี้ดาวรุ่งในเอฟวันทั้ง ไฮเม อัลกูอาร์ชัวรี (โตโรรอสโซ) คามูอิ โคบายาชิ(เซาเบอร์) ,ปาสเตอร์ มัลโดนาโด(วิลเลียมส์) และ เจอโรม อัมโบรซิโอ (เวอร์จิน) ก็ล้วนมีประสบการณ์ในรายการนี้เช่นกัน

ขณะที่สนามแข่งก็ล้วนเป็นแทร็กที่ใช้ในฟอร์มูลา วันแทบทั้งสิ้น อาทิ มอเตอร์แลนด์ ในสเปน ,สปา-ฟร็องโคชองส์ ที่เบลเยียม ,นัวบวร์กริง ที่เยอรมนี,ฮังการอริง ในฮังการี ,ซิลเวอร์สโตนที่อังกฤษ รวมไปถึงคาตาลุนญา ที่สเปน

อย่างไรก็ดีการไปแข่งในยุโรปก็ต้องแลกมาด้วยการทุ่มเม็ดเงินครั้งสำคัญโดย "เด็กปั๊ม" สืบทราบมาว่าตลอดฤดูกาล เรโนลต์ ยูโรคัพ 2011 จะต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคุณพ่อของแซนดีเองที่ต้องควักเงินสานฝันให้ลูกชาย งานนี้หากมีสปอรเซอร์ใจดีร่วมหนุนอีก ผมเชื่อว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น