คอลัมน์สุดฟากสนาม เรื่อง นกฟินิกซ์
หลังจากสานสัมพันธ์กันด้วยจดหมายโทรสาร บรู๊ค ชีลด์ และ อังเดร ก็ได้พบกันหลังจากที่ฝ่ายหญิงเสร็จสิ้นภารกิจถ่ายทำภาพยนตร์และกลับบ้านที่ลอสเองเจลลิส ขณะที่ฝ่ายชายมีนัดให้สัมภาษณ์ในช่วงเวลาเดียวกัน “เดท” ครั้งแรกของทั้งคู่จึงเกิดขึ้น เป็นการทำความรู้จักตัวตนของแต่ละฝ่ายเป็นครั้งแรก แน่นอนว่าดีกรีบัณฑิตสาขาภาษาฝรั่งเศสจากปรินซ์ตัน และ นางเอกดาวรุ่งจากภาพยนตร์เรื่อง “บลู ลากูน” (Blue Lagoon) ทำให้นักเทนนิสอาชีพที่ไม่มีดีกรี มีแต่ประกาศนียบัตรแกรนด์สแลมอย่างอังเดร ตกประหม่าไม่ใช่น้อย แต่ดูเหมือนปัญหาทั้งหมดจะผ่านไปได้ ด้วยความเป็นกันเองของ บรู๊ค ชีลด์ ที่ทำให้ อังเดร รู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กับเธอ
ต้นรักระหว่าง อังเดร และ บรู๊ค เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่ต่างแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิต รวมไปถึงช่วงเวลาวัยเด็กที่ไม่เหมือนกับคนอื่น ความเหมือนในหลายเรื่องทำให้ทั้งสองสนิทแนบแน่นกันอย่างรวดเร็ว และบรู๊ค ก็เป็นกำลังใจสำคัญสำหรับอังเดร ในช่วงเวลาที่เขากำลังพักฟื้นหลังเข้ารับการผ่าตัดที่ข้อมือ
แต่ อังเดร ยังมีสิ่งที่เขายังค้างคาใจและไม่อยากจะโกหกหญิงสาวที่ได้กลายเป็นคนรู้ใจ เกี่ยวกับผมยาวของเจ้าตัวที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของขบถลูกสักหลาดที่หาใช่ผมที่แท้จริง อังเดร พยายามอยู่หลายครั้งที่จะบอกความจริง แต่ท้ายที่สุดแล้วเจ้าตัวก็ยังไม่กล้าที่จะเอ่ยปาก จนวันหนึ่ง บรู๊ค เป็นฝ่ายถามเองเมื่อเธอได้รับคำตอบดาราสาวชื่อดังของ ฮอลลีวูดส์ กล่าวกับนักเทนนิสที่กลายเป็นแฟนหนุ่มของเธอในปัจจุบันว่า “อันที่จริงแล้วดวงตาและหัวใจของคุณต่างหากที่ทำให้ฉันหลงใหล ไม่ใช่เส้นผม” และในวินาทีนั้น อังเดร ก็บอกกับตนเองว่า “ผู้หญิงคนนี้คือคนที่ใช่สำหรับเขาจริง”
ชีวิตที่โหยหาความรักอยู่ตลอดเวลาของ อังเดร เมื่อได้ความเข้าใจความอบอุ่นจากผู้หญิงที่มองเห็นตัวตนที่แท้จริงทำให้ อังเดร รู้สึกถึงพลังอันทำให้เขามีแรงจะสู้ต่อบนสนามการแข่งขันและไม่กังวลต่อผลที่จะเกิดขึ้นที่ข้อมือข้างที่ได้รับการผ่าตัด ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว อังเดร สามารถกลับคืนสนามได้อย่างสมบูรณ์แบบนับตั้งแต่หยุดพักด้วยผลงานคว้าแชมป์รายการเอทีพีรายการ สก๊อตต์สเดล โดยมี บรู๊ค ชีลด์ ตามมาให้กำลังใจ
เมื่อเติมเต็มให้กับชีวิตส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อย อังเดร เล็งเห็นแล้วว่าความสำคัญของทีมงานจะพาให้เขาไปสู่ความสำเร็จสูงสุดในวงการเทนนิสได้ และนั่นเป็นเหตุที่เขาเลือก เพอร์รี่ย์ เพื่อนสนิทนับตั้งแต่วัยเยาว์ มาทำหน้าที่ผู้จัดการ และ เลือกที่จะใช้อดีตนักเทนนิสอย่าง แบรด กิลเบิร์ตส์ มาทำหน้าที่โค้ช ให้กับตนเอง
หลังจากสานสัมพันธ์กันด้วยจดหมายโทรสาร บรู๊ค ชีลด์ และ อังเดร ก็ได้พบกันหลังจากที่ฝ่ายหญิงเสร็จสิ้นภารกิจถ่ายทำภาพยนตร์และกลับบ้านที่ลอสเองเจลลิส ขณะที่ฝ่ายชายมีนัดให้สัมภาษณ์ในช่วงเวลาเดียวกัน “เดท” ครั้งแรกของทั้งคู่จึงเกิดขึ้น เป็นการทำความรู้จักตัวตนของแต่ละฝ่ายเป็นครั้งแรก แน่นอนว่าดีกรีบัณฑิตสาขาภาษาฝรั่งเศสจากปรินซ์ตัน และ นางเอกดาวรุ่งจากภาพยนตร์เรื่อง “บลู ลากูน” (Blue Lagoon) ทำให้นักเทนนิสอาชีพที่ไม่มีดีกรี มีแต่ประกาศนียบัตรแกรนด์สแลมอย่างอังเดร ตกประหม่าไม่ใช่น้อย แต่ดูเหมือนปัญหาทั้งหมดจะผ่านไปได้ ด้วยความเป็นกันเองของ บรู๊ค ชีลด์ ที่ทำให้ อังเดร รู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้กับเธอ
ต้นรักระหว่าง อังเดร และ บรู๊ค เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่ต่างแลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิต รวมไปถึงช่วงเวลาวัยเด็กที่ไม่เหมือนกับคนอื่น ความเหมือนในหลายเรื่องทำให้ทั้งสองสนิทแนบแน่นกันอย่างรวดเร็ว และบรู๊ค ก็เป็นกำลังใจสำคัญสำหรับอังเดร ในช่วงเวลาที่เขากำลังพักฟื้นหลังเข้ารับการผ่าตัดที่ข้อมือ
แต่ อังเดร ยังมีสิ่งที่เขายังค้างคาใจและไม่อยากจะโกหกหญิงสาวที่ได้กลายเป็นคนรู้ใจ เกี่ยวกับผมยาวของเจ้าตัวที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของขบถลูกสักหลาดที่หาใช่ผมที่แท้จริง อังเดร พยายามอยู่หลายครั้งที่จะบอกความจริง แต่ท้ายที่สุดแล้วเจ้าตัวก็ยังไม่กล้าที่จะเอ่ยปาก จนวันหนึ่ง บรู๊ค เป็นฝ่ายถามเองเมื่อเธอได้รับคำตอบดาราสาวชื่อดังของ ฮอลลีวูดส์ กล่าวกับนักเทนนิสที่กลายเป็นแฟนหนุ่มของเธอในปัจจุบันว่า “อันที่จริงแล้วดวงตาและหัวใจของคุณต่างหากที่ทำให้ฉันหลงใหล ไม่ใช่เส้นผม” และในวินาทีนั้น อังเดร ก็บอกกับตนเองว่า “ผู้หญิงคนนี้คือคนที่ใช่สำหรับเขาจริง”
ชีวิตที่โหยหาความรักอยู่ตลอดเวลาของ อังเดร เมื่อได้ความเข้าใจความอบอุ่นจากผู้หญิงที่มองเห็นตัวตนที่แท้จริงทำให้ อังเดร รู้สึกถึงพลังอันทำให้เขามีแรงจะสู้ต่อบนสนามการแข่งขันและไม่กังวลต่อผลที่จะเกิดขึ้นที่ข้อมือข้างที่ได้รับการผ่าตัด ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว อังเดร สามารถกลับคืนสนามได้อย่างสมบูรณ์แบบนับตั้งแต่หยุดพักด้วยผลงานคว้าแชมป์รายการเอทีพีรายการ สก๊อตต์สเดล โดยมี บรู๊ค ชีลด์ ตามมาให้กำลังใจ
เมื่อเติมเต็มให้กับชีวิตส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อย อังเดร เล็งเห็นแล้วว่าความสำคัญของทีมงานจะพาให้เขาไปสู่ความสำเร็จสูงสุดในวงการเทนนิสได้ และนั่นเป็นเหตุที่เขาเลือก เพอร์รี่ย์ เพื่อนสนิทนับตั้งแต่วัยเยาว์ มาทำหน้าที่ผู้จัดการ และ เลือกที่จะใช้อดีตนักเทนนิสอย่าง แบรด กิลเบิร์ตส์ มาทำหน้าที่โค้ช ให้กับตนเอง
