xs
xsm
sm
md
lg

GRANDฟื้นโครงการหมื่นล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - "วิชัย ทองแตง" ลั่นสร้างมูลค่า “แกรนด์ แอสเสทฯ” พร้อมลุยธุรกิจอสังหาฯทั้งโรงแรม คอนโดฯและช้อปปิ้งมอลล์ หลังทุนกลุ่มใหม่เข้าถือหุ้น ระบุสิ้นเดือนก.พ. เพิ่มทุนเป็น 2,800 ล้านบาท ประกาศพัฒนาเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ตามแนวรถไฟฟ้า BTS และ MRT ล่าสุดเดินหน้า 2 โครงการย่านสุขุมวิท มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท หลังจากหยุดดำเนินการไปตั้งแต่ปี 50

นายวิชัย ทองแตง ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ "GRAND" เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทมีความพร้อมที่จะกลับมาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจโรงแรมต่อ โดยหลังจากที่ได้ออกจากแผนฟื้นฟูฯและปรับโครงสร้างใหม่ทั้งในส่วนของโครงสร้างองค์กรและคณะกรรมการบริษัท

" โดยส่วนตัวมีความสนใจที่จะเข้าถือหุ้นใน GRAND เพราะมองว่าเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตในอนาคตและสอดคล้องกับธุรกิจโรงแรมที่มีอยู่ และการที่ผมเข้ามานั่งบริหารที่ GRAND เชื่อมั่นว่าจะทำให้แกรนด์พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และพร้อมสร้างมูลค่าของแกรนด์ให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น แต่ช่วงเร่งด่วนนี้จะทำ 2 โครงการคือ โครงการที่พักอาศัยและโรงแรมย่านสุขุมวิทซอย 13 และซอย 27 ให้เสร็จภาย เพื่อให้ออกดอกออกผลก่อน ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพในด้านผลดำเนินงานที่ดีขึ้น "นายวิชัย กล่าว

นายนพดล มิ่งจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแกรนด์ แอสเสทฯกล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทได้ทำการปรับโครงสร้างองค์กรทั้งโครงสร้างด้านการเงินและคณะกรรมการบริหาร เพื่อดึงดูดนักลงทุนและแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ ความพร้อมในการดำเนินการก่อสร้างโครงการต่างๆที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัทให้เสร็จสมบูรณ์ รวมถึงการพัฒนาโครงการใหม่ในอนาคต หลังจากที่หยุดการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2550 เนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ เลห์แมน บราเดอร์ส ประสบปัญหาการเงินจนต้องปิดกิจการส่งผลให้บริษัทขาดสภาพคล่องและชะลอการลงทุนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่บริษัทได้เปลี่ยนผู้ถือหุ้นใหม่ โดยมีบริษัท เมโทร พรีเมียร์ โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ไทย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (TPROP) ถือหุ้นในสัดส่วน 70.48% กลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่รองลงมาเป็นกลุ่มนฤหล้าประมาณ 20% บริษัทได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างใหม่ ได้แก่ 1.การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารใหม่ 2.ลดหนี้ที่จากเดิมมีจำนวนกว่า 6,000 ล้านบาทลดเหลือ 3,000 ล้านบาท 3.แปลงหุ้นเป็นทุน 1,000 ล้านบาท และการเพิ่มทุนใหม่จำนวน 500 ล้านบาท โดยสามารถขายหุ้นได้เพียง 215 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเตรียมนำมาจัดสรรใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะขายแบบเฉพาะเจาะจงหรือขายแก่นักลงทุนทั่วไปคาดว่าจะสามารถเพิ่มทุนได้สำเร็จภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้

ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน 3,000 ล้านบาทชำระแล้ว 2,400 ล้านบาท หากการเพิ่มทุนสำเร็จจะทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนประมาณ 2,800 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้บริษัทจะเดินหน้าลงทุนอยางต่อเนื่องทั้งโครงการที่ได้หยุดดำเนินการไปในช่วงก่อนหน้านี้ให้แล้วเสร็จ และการลงทุนใหม่โดยจะเน้นการลงทุนเฉพาะในกรุงเทพมหานคร ตามแนวรถไฟฟ้า BTS และ MRT ซึ่งจะมีทั้งโครงการประเภทที่อยู่อาศัย เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ โรงแรม และช้อปปิ้งมอลล์ ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและสถานการณ์ในขณะนั้น

ส่วนโครงการที่ได้หยุดงานก่อสร้างไป ได้แก่ 1.โครงการมิกซ์ยูสบนซอยสุขุมวิท 13 ติดรถไฟฟ้า BTS สถานีนานา บนเนื้อที่กว่า 6 ไร่ ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม 2 อาคาร จำนวน 470 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 4,000 ล้านบาท ปัจจุบันงานก่อสร้างไปแล้วกว่า 70% คาดว่าจะต้องใช้เม็ดเงินลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 1,400 ล้านบาท ซึ่งคอนโดฯดังกล่าวได้เสนอขายไปตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ทำการคืนเงินไปให้ลูกค้าแล้ว

2.โครงการบริเวณปากซ.สุขุมวิท 27 เยื้องห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรียม เดิมมีแผนจะพัฒนาเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว จำนวน 343 ห้อง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะพัฒนาเป็นโรงแรมเช่นเดิมหรือเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ทั้งนี้ทั้ง 2 โครงการข้างต้นมีมูลค่าโครงการรวมกว่า 10,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทจะหยุดการก่อสร้างโครงการ แต่ยังมีโครงการโรงแรม 2 แห่งที่เปิดให้บริการ ได้แก่ โรงแรมเดอะเวสทิน แกรนด์ สุขุมวิทและโรงแรมเชอราตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์สปา โดยสร้างรายได้ให้แก่บริษัทปีละประมาณ 500-600 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการหัวหิน บลู ลากูน ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม 3 ชั้น และวิลลาหรู ปัจจุบันมีคอนโดฯเหลือขาย 12 ยูนิต มูลค่า 120 ล้านบาท และวิลลา 2 หลัง ที่สามารถรับรู้รายได้ได้ทันที

อีกทั้ง บริษัทยังมีความสนใจที่จะเข้าเทคโอเวอร์ธุรกิจโรงแรมเพิ่มเติม โดยขณะนี้อยูระหว่างเจรจาหลายดีล คาดว่าจะเห็นได้ในช่วงกลางปีนี้ 1 ดีล มูลค่าโครงการประมาณ 1,500 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น