คอลัมน์ ON TRACK / เด็กปั๊ม
ใกล้ถึงช่วงเปิดฤดูกาลแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ไฮไลท์สำคัญที่แฟนๆความเร็วจับตามองคือการเปิดตัวรถแข่งคันใหม่ของบรรดาทีมแข่งต่างๆ ซึ่งในขณะที่ผมนั่งปั่นต้นฉบับอยู่นี้ เฟอร์รารี ทีมแข่งยักษ์ใหญ่จากอิตาลี เป็นทีมแรกที่เปิดตัวรถแข่งเวอร์ชันปี 2011 ต่อสื่อมวลชนไปเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่มาลาเนลโล ฐานทัพใหญ่ในอิตาลี
โดยในงานเปิดตัวรถ F150 ของทีมม้าลำพอง นำทัพมาโดย 2 นักขับหน้าเดิมอย่าง เฟร์นานโด อลอนโซ อดีตแชมป์โลกปี 2005 และ 2006 ชาวสเปน และเฟลิเป มาสซา อดีตรองแชมป์โลก 2008 ชาวบราซิล ซึ่งนอกจากความน่าสนใจของรถคันใหม่แล้ว สิ่งที่นักข่าวในงานอดสงสัยไม่ได้ คือสไตล์การไว้หนวดเคราแบบเม็กซิกันของ อลอนโซ นักซิ่งมือหนึ่งประจำทีม
จริงๆแล้วหากใครสังเกตกันให้ดี อดีตนักขับเรโนลต์ ,และแม็คลาเรน แกเล่นไว้หนวดเคราจนแทบไม่เหลือพื้นที่ว่างบนใบหน้ามาตั้งแต่งานมอบรางวัลประจำปีของสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) เมื่อช่วงปลายปีก่อน เช่นเดียวกับงานสกีประจำปีของทีมเฟอร์รารีและดูคาติ เมื่อช่วง 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ แกก็ยังคงยึดการไว้หนวดสไตล์เดิม
จนมาถึงงานเปิดตัวรถ F150 ที่มาลาเนลโล เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา อลอนโซ ยังคงไว้หนวดเคราชนิดเข้มเกินร้อย แต่มีการปรับแต่งเป็นแบบเม็กซิกันสไตล์ จนผู้สื่อข่าวต้องขอยิงคำถามว่านักขับจากโอเบียโด จะไว้หนวดเคราแบบนี้ลงแข่งขันตลอดฤดูกาล 2011 หรือไม่ หลังก่อนหน้านี้เจ้าตัวลงแข่งขันด้วยใบหน้าเกลี้ยงเกลามาโดยตลอด
ซึ่งนักขับวัย 29 ปี ตอบแบบไม่ลังเลหลังถูกถามว่ายังคงจะไว้เคราแบบนี้ลงแข่งสนามแรกของปีที่ประเทศบาห์เรน วันที่ 13 มี.ค.นี้หรือไม่ว่า "ผมคงไม่ทำเช่นนั้นแน่นอน เพราะคงมีหลายคนที่รับไม่ได้โดยเฉพาะคุณแม่ของผม" ซึ่งเป็นอันสรุปได้ว่าอลอนโซสัญญากับแฟนๆว่าจะยอมโกนหนวดโกนเคราออกทั้งหมด เพื่อลงไล่ล่าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ในฤดูกาลใหม่
ส่วนเรื่องของรถ F150 รถแข่งเวอร์ชันปี 2011 ที่ทีมม้าลำพองตั้งชื่อในโอกาสครบรอบ 150 ปี การรวมชาติของประเทศอิตาลี อลอนโซ มั่นใจว่าทีมงานที่ร่วมงานกันมา 1 ปีเต็มจะปรับจูนรถให้เข้ากับสไตล์การขับของตัวเองได้อย่างไร้มีปัญหา และตั้งเป้าที่จะคว้าแชมป์โลกให้ได้ หลังพลาดท่าตกม้าตายในสนามสุดท้ายของปี 2010
เอาเป็นว่า "ON TRACK" ในวันนี้ว่ากันด้วยเรื่องหนวดเคราแบบเบาๆกันไปก่อน แล้วรอให้แต่ละทีมเปิดตัวจนครบและผลการทดสอบรถออกช่วงวินเตอร์เทสต์ออกมา ณ เวลานั้น เราจะน่าพอเห็นภาพว่าใครจะขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงอันดับ 1 จากทีมเรดบูลล์ เรซซิง แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ครับ