สมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย เตรียมแผนสอง หากโค้ช เช ยอง ซอค โอนสัญชาติไทยไม่ได้ตามที่ต้องการ ด้วยการให้ถือ 2 สัญชาติ ไทย-เกาหลีใต้ ล่าสุดทุกฝ่ายกำลังตามเรื่องนี้ให้เต็มที่ คาดรู้เรื่องภายในปีนี้
ความคืบหน้ากรณี เช ยอง ซอค เฮดโค้ชเทควันโดทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้ ที่ออกมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนให้ผู้ใหญ่ในสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ช่วยติดต่อประสานงานการโอนสัญชาติไทยให้ หลังครอบครัว ภรรยาและลูกชายมีความประสงค์จะอยู่เมืองไทยตลอดชีวิต ซึ่ง "โค้ชเช" รับใช้วงการเทควันโดไทยมายาวนานกว่า 8 ปี นับตั้งแต่เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 14 ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อพ.ศ. 2545 และยังพานักกีฬาประสบความสำเร็จคว้าเหรียญรางวัลตั้งแต่ ซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์, ชิงแชมป์โลก และ โอลิมปกเกมส์ มาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด นายปรีชา ต่อตระกูล ประธานคัดเลือกตัวนักกีฬาทีมชาติไทย เปิดเผยเรื่องดังกล่าวว่า “หลังจากโค้ชเชได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องนี้ สมาคมไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเฉพาะ คุณพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมฯ ได้ประสานงานติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาหนทางช่วยเหลือโค้ชเชอย่างเต็มที่ เพราะคุณสมบัติและความสามารถต่างๆ ของโค้ชเชเป็นที่ยอมรับในสังคมกีฬาไทย ยิ่งที่ผ่านมาโค้ชเชได้แสดงออกให้คนไทยทั้งชาติได้เห็นแล้วว่า เขามีความรักความผูกพันกับเมืองไทยขนาดไหน โดยเฉพาะในส่วนของนักกีฬาเขาได้ทุ่มเทอย่างหนักสร้างนักกีฬาที่มีชื่อเสียงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง”
“ที่สำคัญไปกว่านั้นแม้ว่า จะมีหลายชาติมาทาบทามติดต่อโค้ชเชด้วยการยื่นข้อเสนอค่าเหนื่อยที่สูงกว่าบ้านเรา แต่ด้วยสปิริตความตั้งใจอันแรงกล้าที่ได้รับปากไว้ตั้งแต่แรก โค้ชยอดเยี่ยมคนนี้ตอบปฏิเสธไปทุกราย เพราะตัวเขาเองคงทำใจไม่ได้ที่จะปั้นนักกีฬาต่างชาติมาห้ำหั่นกับลูกศิษย์ของตัวเอง อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวผู้บริหารระดับสูงรับทราบหมดแล้ว และพยายามหาทางสานฝันให้เป็นจริงโดยเร็วที่สุด คาดว่า ภายในปีนี้ทุกอย่างจะได้คำตอบชัดเจนว่า เป็นเช่นไร เพราะสมาคมเองก็พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือเรื่องคุณสมบัติ, ใบประกาศเกียรติคุณ รวมไปถึงผลงานต่างๆที่สร้างไว้มากมายอย่างเต็มที่ เนื่องจากเราเองก็ต้องการให้โค้ชเชอยู่เมืองไทยไปตลอด เพื่อจะได้ถ่ายทอดวิชาความรู้และพัฒนากีฬาชนิดนี้อย่างจริงจังทั้งระบบ”
ประธานคัดเลือกตัวนักกีฬาทีมชาติไทย ได้กล่าวอีกว่า ทั้งนี้อีกไม่กี่ปีข้างหน้าโค้ชเชจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ที่ม.เกษตรศาสตร์แล้ว ล่าสุดทาง นายวุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีม.เกษตรฯก็ได้ทาบทามให้เป็นอาจารย์สอนพิเศษแล้ว คาดว่า ทุกอย่างที่โค้ชเชตั้งใจไว้ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่ถ้ามองในแง่ร้ายหากโค้ชเชไม่สามารถโอนสัญชาติไทยได้ สมาคมก็ได้เตรียมแผนสองที่จะให้โค้ชเช ถือ 2 สัญชาติ คือ เกาหลีใต้ กับ ไทย เหมือนที่หลายๆคนเขาปฏิบัติกัน จะได้สามารถเดินทางเข้าออกทั้งสองประเทศได้อย่างสบาย ส่วนตัวตนเชื่อว่า การโอนสัญชาติของคนที่มากความสามารถและมีความรู้ดีแบบนี้ น่าจะได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ความคืบหน้ากรณี เช ยอง ซอค เฮดโค้ชเทควันโดทีมชาติไทยชาวเกาหลีใต้ ที่ออกมาร้องเรียนต่อสื่อมวลชนให้ผู้ใหญ่ในสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ช่วยติดต่อประสานงานการโอนสัญชาติไทยให้ หลังครอบครัว ภรรยาและลูกชายมีความประสงค์จะอยู่เมืองไทยตลอดชีวิต ซึ่ง "โค้ชเช" รับใช้วงการเทควันโดไทยมายาวนานกว่า 8 ปี นับตั้งแต่เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 14 ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อพ.ศ. 2545 และยังพานักกีฬาประสบความสำเร็จคว้าเหรียญรางวัลตั้งแต่ ซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์, ชิงแชมป์โลก และ โอลิมปกเกมส์ มาอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด นายปรีชา ต่อตระกูล ประธานคัดเลือกตัวนักกีฬาทีมชาติไทย เปิดเผยเรื่องดังกล่าวว่า “หลังจากโค้ชเชได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับเรื่องนี้ สมาคมไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเฉพาะ คุณพิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมฯ ได้ประสานงานติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาหนทางช่วยเหลือโค้ชเชอย่างเต็มที่ เพราะคุณสมบัติและความสามารถต่างๆ ของโค้ชเชเป็นที่ยอมรับในสังคมกีฬาไทย ยิ่งที่ผ่านมาโค้ชเชได้แสดงออกให้คนไทยทั้งชาติได้เห็นแล้วว่า เขามีความรักความผูกพันกับเมืองไทยขนาดไหน โดยเฉพาะในส่วนของนักกีฬาเขาได้ทุ่มเทอย่างหนักสร้างนักกีฬาที่มีชื่อเสียงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง”
“ที่สำคัญไปกว่านั้นแม้ว่า จะมีหลายชาติมาทาบทามติดต่อโค้ชเชด้วยการยื่นข้อเสนอค่าเหนื่อยที่สูงกว่าบ้านเรา แต่ด้วยสปิริตความตั้งใจอันแรงกล้าที่ได้รับปากไว้ตั้งแต่แรก โค้ชยอดเยี่ยมคนนี้ตอบปฏิเสธไปทุกราย เพราะตัวเขาเองคงทำใจไม่ได้ที่จะปั้นนักกีฬาต่างชาติมาห้ำหั่นกับลูกศิษย์ของตัวเอง อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวผู้บริหารระดับสูงรับทราบหมดแล้ว และพยายามหาทางสานฝันให้เป็นจริงโดยเร็วที่สุด คาดว่า ภายในปีนี้ทุกอย่างจะได้คำตอบชัดเจนว่า เป็นเช่นไร เพราะสมาคมเองก็พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือเรื่องคุณสมบัติ, ใบประกาศเกียรติคุณ รวมไปถึงผลงานต่างๆที่สร้างไว้มากมายอย่างเต็มที่ เนื่องจากเราเองก็ต้องการให้โค้ชเชอยู่เมืองไทยไปตลอด เพื่อจะได้ถ่ายทอดวิชาความรู้และพัฒนากีฬาชนิดนี้อย่างจริงจังทั้งระบบ”
ประธานคัดเลือกตัวนักกีฬาทีมชาติไทย ได้กล่าวอีกว่า ทั้งนี้อีกไม่กี่ปีข้างหน้าโค้ชเชจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ที่ม.เกษตรศาสตร์แล้ว ล่าสุดทาง นายวุฒิชัย กปิลกาญจน์ อธิการบดีม.เกษตรฯก็ได้ทาบทามให้เป็นอาจารย์สอนพิเศษแล้ว คาดว่า ทุกอย่างที่โค้ชเชตั้งใจไว้ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่ถ้ามองในแง่ร้ายหากโค้ชเชไม่สามารถโอนสัญชาติไทยได้ สมาคมก็ได้เตรียมแผนสองที่จะให้โค้ชเช ถือ 2 สัญชาติ คือ เกาหลีใต้ กับ ไทย เหมือนที่หลายๆคนเขาปฏิบัติกัน จะได้สามารถเดินทางเข้าออกทั้งสองประเทศได้อย่างสบาย ส่วนตัวตนเชื่อว่า การโอนสัญชาติของคนที่มากความสามารถและมีความรู้ดีแบบนี้ น่าจะได้รับการช่วยเหลือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
