กระบี่ -คนร้ายทำเนียนอ้างตัวเป็นผู้ว่าฯกระบี่ หลอกเอาเงินนักธุรกิจ ข้าราชการในพื้นที่กระบี่ ตำรวจล่อจับ นกรู้ดันหายตัวตรวจพบเบอร์โทร เป็นแบบเติมเงินอยู่ในอำเภอปากท่อ จ.ราชบุรี
วันนี้ (29 ม.ค.) นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผกก.สภ.เมืองกระบี่ ว่า มีแก๊งมิจฉาชีพ อ้างตัวเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้โทรศัพท์ไปขอบริจาคเงินซื้อชุดกีฬาจากนักธุรกิจหลายรายในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ในราคาชุดละ 12,000 บาท เพื่อนำไปมอบให้นักกีฬาทีมชาติไทย แต่นักธุรกิจที่ถูกโทรศัพท์ไปขอบริจาคเงินรู้ทันเลยแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ และตรวจสอบที่มาของเบอร์โทรศัพท์ พบว่าเบอร์โทรศัพท์ที่โทรมา อยู่ในพื้นที่อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดกระบี่
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยอีกว่า หลังจากที่ทราบเรื่องและทราบเบอร์โทรศัพท์ของผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ตัวปลอม ก็ได้ให้ทางเลขาฯโทรศัพท์ ไปหา ปรากฏว่า ผู้ว่าฯตัวปลอมก็ยังอ้างตัวเป็นตน (ผู้ว่าฯประสิทธิ์) อย่างหน้าตาเฉย แต่ก็ไม่ได้พูดคุยกันมากนัก ทางเจ้าของโทรศัพท์รู้ตัวและตัดสายทิ้งไป
จึงขอฝากไปยังนักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชน หากว่ามีคนแอบอ้างตัวเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ไปขอบริจาคเงิน หรือสิ่งของต่างๆ ก็อย่าหลงเชื่อ ให้มีการตรวจสอบให้ดีก่อน ก่อนที่จะบริจาค เพราะอาจจะทำให้เสียเงินหรือเสียสิ่งของให้กับแก๊งมิจฉาชีพได้
พ.ต.อ.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผกก.สภ.เมือง กระบี่ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้ทราบข้อมูลจากนักธุรกิจในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ว่า น่าจะมีแก๊งมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ โทรมาขอบริจาคชุดกีฬา ในราคาชุดละ 12,000 บาท จึงรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ และตรวจสอบที่มาของเบอร์โทรศัพท์ พบว่า เบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวอยู่ในอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เป็นแบบเติมเงิน และเมื่อแน่ใจว่าเป็นแก็งค์มิจฉาชีพหลอกเอาเงินจริงก็ได้พยายามให้นักธุรกิจที่ถูกหลอกติดต่อให้มารับเงิน เพื่อทำการจับกุม
พ.ต.อ.ธีระพล กล่าวอีกว่า แต่ขณะที่โทรศัพท์ไปหา เพื่อหลอกให้มาเอาเงินมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ คนดังกล่าวก็อ้างว่าทำงานอยู่ที่ศาลากลางจังหวัด ไม่สะดวกที่จะมารับเงิน ให้เปลี่ยนเป็นโอนเงินแทน แต่ก็ได้พยายามหลอกล่อว่าต้องการใบเสร็จด้วย จึงนัดหมายสถานที่ส่งมอบเงิน สุดท้าย มิจฉาชีพก็อ้างว่าให้เอาเงินไปส่งให้ที่จวนผู้ว่าฯเลย ทางนักธุรกิจที่ถูกหลอกก็บอกว่าไม่สะดวก อยากให้มาเอาเงินเลย แต่สุดท้ายมิจฉาชีพคนดังกล่าวก็บอกว่าให้โอนเงินไปให้ นายวรวีร์ มะกูดี และตัดโทรศัพท์ไป
“ก่อนหน้านี้ ได้มีแก๊งมิจฉาชีพลักษณะเดียวกัน ได้อ้างตัว เป็นตน เช่นกัน ไปขอบริจาคเงินจากนักธุกิจ และพ่อค้า ในเขตเทศบาลเมือง เพื่อซื้อชุดกีฬาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บางคนก็ให้ไปเป็นเงินคนละประมาณ 2,000 บาท นอกจากนี้ ก็ยังมีหัวหน้าส่วนราชการคนหนึ่ง ทำงานอยู่บนศาลากลางจังหวัดกระบี่ เป็นคนสนิทกับตน ได้มีแก๊งมิจฉาชีพเป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน หน้าตาดี แต่งกายชุดตำรวจครึ่งท่อน ไปขอบริจาคเงิน 2,000 บาท ด้วยความที่ตนกับหัวหน้าส่วนคนดังกล่าวสนิทกัน จึงได้ให้เงินไป 3 พันบาท แต่มาทราบที่หลังว่าถูกหลอกแล้ว จึงขอฝากด้วยความเป็นห่วงให้มีการตรวจให้ดีก่อนที่จะบริจาค อาจถูกหลอกได้” พ.ต.อ.ธีระพล กล่าว
วันนี้ (29 ม.ค.) นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผกก.สภ.เมืองกระบี่ ว่า มีแก๊งมิจฉาชีพ อ้างตัวเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้โทรศัพท์ไปขอบริจาคเงินซื้อชุดกีฬาจากนักธุรกิจหลายรายในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ในราคาชุดละ 12,000 บาท เพื่อนำไปมอบให้นักกีฬาทีมชาติไทย แต่นักธุรกิจที่ถูกโทรศัพท์ไปขอบริจาคเงินรู้ทันเลยแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ และตรวจสอบที่มาของเบอร์โทรศัพท์ พบว่าเบอร์โทรศัพท์ที่โทรมา อยู่ในพื้นที่อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ไม่ได้อยู่ในพื้นที่จังหวัดกระบี่
ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยอีกว่า หลังจากที่ทราบเรื่องและทราบเบอร์โทรศัพท์ของผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ตัวปลอม ก็ได้ให้ทางเลขาฯโทรศัพท์ ไปหา ปรากฏว่า ผู้ว่าฯตัวปลอมก็ยังอ้างตัวเป็นตน (ผู้ว่าฯประสิทธิ์) อย่างหน้าตาเฉย แต่ก็ไม่ได้พูดคุยกันมากนัก ทางเจ้าของโทรศัพท์รู้ตัวและตัดสายทิ้งไป
จึงขอฝากไปยังนักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชน หากว่ามีคนแอบอ้างตัวเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ไปขอบริจาคเงิน หรือสิ่งของต่างๆ ก็อย่าหลงเชื่อ ให้มีการตรวจสอบให้ดีก่อน ก่อนที่จะบริจาค เพราะอาจจะทำให้เสียเงินหรือเสียสิ่งของให้กับแก๊งมิจฉาชีพได้
พ.ต.อ.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผกก.สภ.เมือง กระบี่ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้ทราบข้อมูลจากนักธุรกิจในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ว่า น่าจะมีแก๊งมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ โทรมาขอบริจาคชุดกีฬา ในราคาชุดละ 12,000 บาท จึงรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบ และตรวจสอบที่มาของเบอร์โทรศัพท์ พบว่า เบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวอยู่ในอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี เป็นแบบเติมเงิน และเมื่อแน่ใจว่าเป็นแก็งค์มิจฉาชีพหลอกเอาเงินจริงก็ได้พยายามให้นักธุรกิจที่ถูกหลอกติดต่อให้มารับเงิน เพื่อทำการจับกุม
พ.ต.อ.ธีระพล กล่าวอีกว่า แต่ขณะที่โทรศัพท์ไปหา เพื่อหลอกให้มาเอาเงินมิจฉาชีพที่อ้างตัวเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ คนดังกล่าวก็อ้างว่าทำงานอยู่ที่ศาลากลางจังหวัด ไม่สะดวกที่จะมารับเงิน ให้เปลี่ยนเป็นโอนเงินแทน แต่ก็ได้พยายามหลอกล่อว่าต้องการใบเสร็จด้วย จึงนัดหมายสถานที่ส่งมอบเงิน สุดท้าย มิจฉาชีพก็อ้างว่าให้เอาเงินไปส่งให้ที่จวนผู้ว่าฯเลย ทางนักธุรกิจที่ถูกหลอกก็บอกว่าไม่สะดวก อยากให้มาเอาเงินเลย แต่สุดท้ายมิจฉาชีพคนดังกล่าวก็บอกว่าให้โอนเงินไปให้ นายวรวีร์ มะกูดี และตัดโทรศัพท์ไป
“ก่อนหน้านี้ ได้มีแก๊งมิจฉาชีพลักษณะเดียวกัน ได้อ้างตัว เป็นตน เช่นกัน ไปขอบริจาคเงินจากนักธุกิจ และพ่อค้า ในเขตเทศบาลเมือง เพื่อซื้อชุดกีฬาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บางคนก็ให้ไปเป็นเงินคนละประมาณ 2,000 บาท นอกจากนี้ ก็ยังมีหัวหน้าส่วนราชการคนหนึ่ง ทำงานอยู่บนศาลากลางจังหวัดกระบี่ เป็นคนสนิทกับตน ได้มีแก๊งมิจฉาชีพเป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน หน้าตาดี แต่งกายชุดตำรวจครึ่งท่อน ไปขอบริจาคเงิน 2,000 บาท ด้วยความที่ตนกับหัวหน้าส่วนคนดังกล่าวสนิทกัน จึงได้ให้เงินไป 3 พันบาท แต่มาทราบที่หลังว่าถูกหลอกแล้ว จึงขอฝากด้วยความเป็นห่วงให้มีการตรวจให้ดีก่อนที่จะบริจาค อาจถูกหลอกได้” พ.ต.อ.ธีระพล กล่าว
