“ชิชาริโต” ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ศูนย์หน้าดาวรุ่งชาวเม็กซิกัน รับบทฮีโร่สังหารประตูชัยอย่างยอดเยี่ยมช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกแซง เซาธ์แฮมป์ตัน คว้าชัยหวุดหวิด 2-1 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 คู่สุดท้ายประจำคืนวันเสาร์
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 4 วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ.2554
เซาธ์แฮมป์ตัน 1–2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
คู่สุดท้ายประจำวันเสาร์ เซาธ์แฮมป์ตัน ทีมอันดับ 4 จากลีกวัน เปิดสนามเซนต์ แมรีส์ ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมนี้เจ้าบ้านส่ง อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ดาวรุ่งวัย 17 ปีที่ตกเป็นข่าวว่าทีมเยือนสนใจลงสนาม โดยมี ริชาร์ด แลมเบิร์ต จับคู่ล่าตาข่ายกับ ลี บาร์นาร์ด ส่วนอาคันตุกะส่งตัวสำรองลงเป็นส่วนใหญ่ โดย อันเดอร์ส ลินเดการ์ด นายทวารชาวเดนมาร์กได้ลงตัวจริงเป็นครั้งแรก ขณะที่คู่หัวหอกใช้บริการ ไมเคิล โอเวน กับ ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ
ผ่านไปเพียง 7 นาทีแรก “นักบุญ” ส่งลูกหนังเข้าไปตุงตาข่ายได้ก่อนจากจังหวะที่ ริชาร์ด แชปโลว์ ยิงไกลแล้วบอลมาเข้าทาง แดน ฮาร์ดิง สะกิดต่อเข้าประตู แต่ไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าก่อน จากนั้นเป็นโอกาสของ “ปิศาจแดง” บ้างในนาทีที่ 16 โอเวน เปิดบอลจากด้านขวา ลูกย้อยไปชนคานออกหลังทางเสาไกล ก่อนที่ทั้งสองทีมจะมีจังหวะเข้าทำ แต่ยังจบกันไม่ลง
ถึงนาทีที่ 43 “นักบุญ” ชวดโอกาสทองที่จะขึ้นนำอย่างน่าเจ็บใจ เมื่อ แดนนี บัตเตอร์ฟิลด์ สาดบอลโด่งจากกราบขวาเข้ามาให้ โด ปราโด โขกคนเดียวกลางประตู แต่กลับส่งลูกข้ามคานออกไปเอง อย่างไรก็ตาม สาวก เดอะ เซนต์ส ได้เฮจริงๆ ในนาทีที่ 45 เมื่อ ริชาร์ด แชปโลว์ โฉบเข้ามาเอาบอลในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วจัดการหวดเต็มหลังเท้าส่งลูกพุ่งแสกหน้า ลินเดการ์ด เสยเพดานตาข่ายเข้าไปแบบสุดมัน จบครึ่งแรก เซาธ์แฮมป์ตัน จึงนำ 1-0
ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ถอดเอา ฟาบิโอ ดา ซิลวา ออกแล้วส่ง เวส บราวน์ ลงมาเล่นแบ็กขวา พร้อมทั้งโยก จอห์น โอเชีย ไปยืนแบ็กซ้าย แต่ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น นาทีที่ 58 จึงปล่อย ไรอัน กิกส์ และ หลุยส์ นานี สองปีกตัวจริงลงมาเสริมเกมรุกแทน ดาร์รอน กิบสัน และ อันแดร์สัน กระทั่งนาทีที่ 65 ทีมเยือนก็มาตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ เมื่อ กาเบรียล โอแบร์ตอง หลอกล่อทางฝั่งขวาแล้วเปิดเข้ากลาง ลูกแฉลบแนวรับนักบุญมาเข้าทาง โอเวน อาศันสัญชาตญาณโหม่งตุงตาข่าย
เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 75 ปิศาจแดงมาได้ประตูแซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ กิกส์ เลี้ยงลุยตรงกลางแล้วจ่ายเข้าเขตโทษให้ “ชิชาริโต” ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ล้มตัวจิ้มบอลสวนทาง บาร์ตอส เบียลคอฟสกี ที่ออกมาปิดมุมเบียดเสาไกลเข้าไปอย่างยอดเยี่ยม กระทั่งครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เฉือนชนะด้วยสกอร์นี้ ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เซาธ์แฮมป์ตัน – บาร์ตอส เบียลคอฟสกี, แดนนี บัตเตอร์ฟิลด์, ดาเนียล ซีบอร์น, โฮเซ มิเกล ดา โรชา, แดน ฮาร์ดิง, ริชาร์ด แชปโลว์, กิลเยร์เม โด ปราโด, มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน, อเล็กซ์ ออกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ริชาร์ด แลมเบิร์ต, ลี บาร์นาร์ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, จอห์น โอเชีย, คริส สมอลลิง, จอนนี อีแวนส์, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, กาเบรียล โอแบร์ตอง, ดาร์รอน กิบสัน, พอล สโคลส์, อันแดร์สัน, ไมเคิล โอเวน, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4
เอฟเวอร์ตัน เสมอ เชลซี 1-1
สวอนซี แพ้ เลย์ตัน โอเรียนท์ 1-2
แอสตัน วิลลา ชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 3-1
เบอร์มิงแฮม ซิตี ชนะ โคเวนทรี ซิตี 3-2
โบลตัน วันเดอเรอร์ส เสมอ วีแกน แอธเลติก 0-0
เบิร์นลีย์ ชนะ เบอร์ตัน 3-1
เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ชนะ เฮเรฟอร์ด ยูไนเต็ด 4-1
สตีฟเนจ แพ้ เรดดิ้ง 1-2
ทอร์คีย์ แพ้ ครอว์ลี่ย์ ทาวน์ 0-1
วัตฟอร์ด แพ้ ไบรท์ตัน 0-1
เซาธ์แฮมป์ตัน แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2