"เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลนา หยุดสถิติไร้พ่ายไว้ที่ 28 นัดติดต่อกัน หลังบุกเสียที รีล เบติส 1-3 แต่สกอร์รวมสองนัดได้เฮ 6-3 ฉลุยเข้าสู่รอบตัดเชือกศึกฟุตบอลโคปา เดล เรย์ เมื่อคืนวันพุธที่ 19 มกราคม 2554
แม้นัดแรกเปิดคัมป์ นู ถล่มกันมาแล้ว 5-0 แต่ โจเซป กวาร์ดิโอลา ยังส่งขุมกำลังชุดใหญ่ลงสนามให้ บาร์เซโลนา เกมเยือน รีล เบติส หลายคน ไม่ว่าจะเป็น เคราร์ด ปิเก, ชาบี เอร์นานเดซ รวมถึง ลิโอเนล เมสซี ขณะที่สำรองอย่าง ฮาเวียร์ มาสเชราโน กับ อิบราฮิม อเฟลลาย ได้ค้ำแดนกลาง โบยาน เกอร์กิซ ล่าตาข่าย ด้านเจ้าถิ่นฝากความหวังไว้ที่ ฆอร์เก โมลินา กองหน้าตัวเก่ง
เริ่มเกมการแข่งขันไป 2 นาที เบติส ออกนำเร็ว 1-0 จาก ฆอร์เก โมลินา ถัดมาอีกแค่ 5 นาที สกอร์ก็ไหลเป็น 2-0 และก็ยังเป็นผลงานของ โมลินา จากนั้น บาร์เซโลนา กลับมาเป็นฝ่ายครองเกมสามารถตีไข่แตกไล่มา 1-2 จาก ลิโอเนล เมสซี ในนาทีที่ 38 ทว่าก่อนจบครึ่งแรกไม่นาน เจ้าถิ่นหนีห่าง 3-1 จากการทำประตูของ อาร์ซู
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง "เจ้าบุญทุ่ม" เดินหน้าหวังเรียกศักดิ์ศรีคืนมา นาที 54 มาได้ลูกที่จุดโทษ ทว่า เมสซี รับหน้าที่สังหารพลาดไป ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองฝ่ายผลัดกันรุกรับหวังทำประตูกันเพิ่ม ทว่าไม่มีฝ่ายใดสามารถส่งลูกหนังผ่านมือ กาสโต เอสปิโนซา นายทวารเบติส รวมถึง โฆเซ มานูเอล ปินโต ประตูสำรองทีมเยือนได้อีก ครบ 90 นาที บาร์เซโลนา ตกเป็นฝ่ายปราชัย 1-3 แต่สกอร์รวมสองนัดยังได้เฮ 6-3 ทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปเจอกับ อัลเมเรีย ต่อไป
ส่วนผลอีกคู่หนึ่งวันเดียวกัน ปรากฏว่า อัลเมเรีย ทีมท้ายตารางลา ลีกา บุกไปย้ำชัยเหนือ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา ถึงริอาซอร์ สเตเดียม 3-2 โดยทีมเยือนได้จาก มิเกล อังเคล โคโรนา นาที 19 ถัดมานาทีเดียว อัลเบิร์ต ครูซาส ยิงให้ทีมหนีห่าง ก่อนที่ เอน็อค กอยตอย ซัดจุดโทษย้ำชัยนาทีที่ 55 ส่วนเจ้าถิ่นตีไข่แตกจากจุดโทษของ ปาโบล อัลบาเรซ ก่อนจบครึ่งแรกนาทีเดียว จากนั้น เอเดรียน โลเปซ ยิงไล่มานาทีที่ 51 แต่ไม่เพียงพอ อัลเมเรีย ชนะด้วยสกอร์รวมสองนัด 4-2
แม้นัดแรกเปิดคัมป์ นู ถล่มกันมาแล้ว 5-0 แต่ โจเซป กวาร์ดิโอลา ยังส่งขุมกำลังชุดใหญ่ลงสนามให้ บาร์เซโลนา เกมเยือน รีล เบติส หลายคน ไม่ว่าจะเป็น เคราร์ด ปิเก, ชาบี เอร์นานเดซ รวมถึง ลิโอเนล เมสซี ขณะที่สำรองอย่าง ฮาเวียร์ มาสเชราโน กับ อิบราฮิม อเฟลลาย ได้ค้ำแดนกลาง โบยาน เกอร์กิซ ล่าตาข่าย ด้านเจ้าถิ่นฝากความหวังไว้ที่ ฆอร์เก โมลินา กองหน้าตัวเก่ง
เริ่มเกมการแข่งขันไป 2 นาที เบติส ออกนำเร็ว 1-0 จาก ฆอร์เก โมลินา ถัดมาอีกแค่ 5 นาที สกอร์ก็ไหลเป็น 2-0 และก็ยังเป็นผลงานของ โมลินา จากนั้น บาร์เซโลนา กลับมาเป็นฝ่ายครองเกมสามารถตีไข่แตกไล่มา 1-2 จาก ลิโอเนล เมสซี ในนาทีที่ 38 ทว่าก่อนจบครึ่งแรกไม่นาน เจ้าถิ่นหนีห่าง 3-1 จากการทำประตูของ อาร์ซู
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง "เจ้าบุญทุ่ม" เดินหน้าหวังเรียกศักดิ์ศรีคืนมา นาที 54 มาได้ลูกที่จุดโทษ ทว่า เมสซี รับหน้าที่สังหารพลาดไป ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองฝ่ายผลัดกันรุกรับหวังทำประตูกันเพิ่ม ทว่าไม่มีฝ่ายใดสามารถส่งลูกหนังผ่านมือ กาสโต เอสปิโนซา นายทวารเบติส รวมถึง โฆเซ มานูเอล ปินโต ประตูสำรองทีมเยือนได้อีก ครบ 90 นาที บาร์เซโลนา ตกเป็นฝ่ายปราชัย 1-3 แต่สกอร์รวมสองนัดยังได้เฮ 6-3 ทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปเจอกับ อัลเมเรีย ต่อไป
ส่วนผลอีกคู่หนึ่งวันเดียวกัน ปรากฏว่า อัลเมเรีย ทีมท้ายตารางลา ลีกา บุกไปย้ำชัยเหนือ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา ถึงริอาซอร์ สเตเดียม 3-2 โดยทีมเยือนได้จาก มิเกล อังเคล โคโรนา นาที 19 ถัดมานาทีเดียว อัลเบิร์ต ครูซาส ยิงให้ทีมหนีห่าง ก่อนที่ เอน็อค กอยตอย ซัดจุดโทษย้ำชัยนาทีที่ 55 ส่วนเจ้าถิ่นตีไข่แตกจากจุดโทษของ ปาโบล อัลบาเรซ ก่อนจบครึ่งแรกนาทีเดียว จากนั้น เอเดรียน โลเปซ ยิงไล่มานาทีที่ 51 แต่ไม่เพียงพอ อัลเมเรีย ชนะด้วยสกอร์รวมสองนัด 4-2
