"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี เปิดรังบี้เอาชนะ "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ ซิตี 4-2 ทะลุเข้าสู่รอบต่อไปของศึกลูกหนังเอฟเอ คัพ อังกฤษ ได้สำเร็จ ขณะที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ต้อนตือ ดอนคาสเตอร์ 5-0 เข้ารอบเช่นกันในแมตช์รีเพลย์รอบ 3 เมื่อคืนวันอังคารที่ 18 มกราคม 2554
ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 3 นัดรีเพลย์
แมนเชสเตอร์ ซิตี 4-2 เลสเตอร์ ซิตี
โรแบร์โต มันชินี หวังนำทัพ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี ทะลุสู่รอบ 4 จึงส่งตัวรุกลงสนามรับมือ "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ หลายคน ไม่ว่าจะเป็น เจมส์ มิลเนอร์, อดัม จอห์นสัน หรือ ดาบิด ซิลบา ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์ คอยปั้นเกมให้ คาร์ลอส เตเบซ หอกตัวเป้าลุ้นสกอร์ ด้าน สเวน-โกรัน อีริคส์สัน นำทีมจากเดอะแชมเปียนชิป มาเยือนถิ่นเก่าที่อีสต์แลนด์ โดยฝากความหวังไว้ที่ พอล กัลลาเกอร์ กับ สตีฟ ฮาวเวิร์ด คู่หน้าตัวเก่ง ขณะที่ ยูกิ อาเบะ กองกลางชาวญี่ปุ่นลงคุมเกมร่วมกับ แอนดี คิง และ ริชี เวลเลนส์
เริ่มเกมการแข่งขันโอกาสแรกเป็นของ เลสเตอร์ ซิตี เมื่อ แอนดี คิง ยิงบอลแฉลบตัว แว็งซองต์ กอมปานี ข้ามศีรษะ โจ ฮาร์ท แต่ก็เลยคานออกไป นาทีที่ 7 แมนฯ ซิตี สวนกลับไป คาร์ลอส เตเบซ จ่ายให้ อดัม จอห์นสัน หลุดกับดักล้ำหน้าล้มตัวยิงติดเซฟของ คริส วีล ทั้งสองฝ่ายลุยใส่กันสนุกทีเดียว ทีมเยือนได้เสียวอีกครั้ง พอล กัลลาเกอร์ เปิดบอลจากกราบซ้ายให้ สตีฟ ฮาวเวิร์ด สะบัดโขกไปโดนหน้าอก โจลีออน เลสค็อตต์ เปลี่ยนทางทว่า โจ ฮาร์ท ยังยืนตำแหน่งดีคว้าบอลได้หวุดหวิด แต่ถึงนาทีที่ 15 "เรือใบสีฟ้า" ก็ล่องนำ 1-0 จากจังหวะ ปาโบล ซาบาเลตา ทุ่มให้ คาร์ลอส เตเบซ ตะลุยเข้ากรอบโทษก่อนตะบันด้วยขวาส่งบอลผ่านมือ วีล เสียบเพดานตาข่ายเสาไกลอย่างงดงาม
อย่างไรก็ตาม ถัดมา 4 นาที "สุนัขจิ้งจอก" มาได้ลูกที่จุดโทษ เมื่อ ลอยด์ ดายเออร์ โดน ปาทริค วิเอรา เตะตัดขาล้มลงไป มาร์ค ฮัลซีย์ ผู้ตัดสินเป่านกหวีดยาว ก่อนที่ กัลลาเกอร์ จะสังหารผ่านมือ ฮาร์ท ให้สกอร์กลับมาเสมอกัน 1-1 พอโดนเอาคืนเร็ว แมนฯ ซิตี ลุยต่อทันที อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ เติมขึ้นมาเปิดให้ ยายา ตูเร ยิงเรียดกลางประตูแต่ วีล ยังล้มตัวรับได้ทัน ครึ่งชั่วโมงพอดี สเวน-โกรัน อีริคส์สัน ต้องถอดเอา กัลลาเกอร์ ที่เจ็บเล่นต่อไม่ไหวออกมา พร้อมกับส่ง แฟรงค์ มุสซา ลงไปเล่นแทน แต่ถึงนาที 37 เจ้าบ้านนำ 2-1 ปาโบล ซาบาเลตา ตบเข้ากลาง ดาบิด ซิลบา ยิงโดน โซล บัมบา สกัดมาเข้าทาง วิเอรา แปเหน่งๆ ไม่เหลือ ถัดมานาทีเดียวสกอร์ไหลเป็น 3-1 เมื่อ ซิลบา จ่ายให้ จอห์นสัน ไม่ล้ำหน้าเข้าไปล่อเป้า วีล จบครึ่งแรกแฟนๆ ในซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ สบายใจขึ้น
ลุยต่อครึ่งหลังเป็นทาง แมนฯ ซิตี เดินหน้าลุยใส่แม้สกอร์ห่างถึง 2 ลูก ซิลบา หลุดเข้าไปยิงไม่เข้าเป้า นาที 55 แฟนๆ ทีมเยือนร้องจะเอาจุดโทษเมื่อเห็น ยูกิ อาเบะ โดน เจมส์ มิลเนอร์ เสียบล้มในกรอบโทษ ทว่าเชิ้ตดำมองว่าเป็นการเข้าโดนบอล ถัดมาอีก 4 นาที กลายเป็นเจ้าถิ่นได้จุดโทษเมื่อ เตเบซ ลุยเข้าไปโดน วีล รวบล้มลง อย่างไรก็ตาม กัปตันทีมอาร์เจนไตน์ซัดบอลไปติดตัวนายทวาร "สุนัขจิ้งจอก" ลอยออกหลังไป หนึ่งชั่วโมงพอดี เตฟ พยายามแก้ตัวด้วยการตวัดยิงด้วยขวาทว่า วีล ยังพุ่งปัดปลายมือออกไปได้อีก เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ผู้มาเยือนทิ้งไพ่อีกใบส่ง มาร์ติน แว็กฮอนส์ ลงมาล่าตาข่ายแทน สตีฟ ฮาวเวิร์ด ที่ค่อนข้างเงียบ
ถึงแม้ เลสเตอร์ สามารถกลับมาครองเกมได้เป็นส่วนใหญ่ แต่เจ้าถิ่นลงไปแพ็คเกมค่อนข้างแน่นหนา จากนั้น โรแบร์โต มันชินี ถอดเอา ตูเร ออกมาพักพร้อมกับเติมแนวรุกอย่าง โช อัลเวส ไปช่วยค้ำ แต่นาที 83 ทีมเยือนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ไล่หลังเหลือแค่ 2-3 จากจังหวะ อาเบะ แทงทะลุช่องให้ ดายเออร์ อาศัยความเร็วเข้าไปจิ้มบอลหนีมือ ฮาร์ท ซุกก้นตาข่าย ช่วงเวลาที่เหลือ "สุนัขจิ้งจอก" บี้เป็นการใหญ่ ทว่า "เรือใบสีฟ้า" มาได้ประตูฝัง 4-2 ในนาทีสุดท้ายจากการอัดด้วยซ้ายของ โคลารอฟ ทำให้ แมนฯ ซิตี ทะลุเข้าสู่รอบ 4 วันเสาร์ที่ 29 มกราคม 2554 ต้องไปเยือน น็อตต์ส เคาน์ตี
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท , ปาโบล ซาบาเลตา , แว็งซองต์ กอมปานี , โจลีออน เลสค็อตต์ , อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ , เจมส์ มิลเนอร์ , ยายา ตูเร , ปาทริค วิเอรา , อดัม จอห์นสัน , คาร์ลอส เตเบซ , ดาบิด ซิลบา
เลสเตอร์ : คริส วีล , ไคล นอร์ตัน , โซล บัมบา , แจ็ค ฮ็อปป์ส , บรูโน เบอร์เนอร์ , แอนดี คิง , ยูกิ อาเบะ , ริชี เวลเลนส์ , ลอยด์ ดายเออร์ , พอล กัลลาเกอร์ , สตีฟ ฮาวเวิร์ด
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสาม นัดรีเพลย์ ประจำคืนวันอังคาร
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี 0-2 สโต๊ก ซิตี
[0-1 : โจนาธาน วอลเตอร์ส (น.91) , 0-2 : โจนาธาน วอลเตอร์ส (น.115)]
แมนเชสเตอร์ ซิตี 4-2 เลสเตอร์ ซิตี
[1-0 : คาร์ลอส เตเบซ (น.15) , 1-1 : พอล กัลลาเกอร์ (จุดโทษ น.19) , 2-1 : ปาทริค วิเอรา (น.37) , 3-1 : อดัม จอห์นสัน (น.38) , 3-2 : ลอยด์ ดายเออร์ (น.83) , 4-2 : อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ (น.90)]
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 5-0 ดอนคาสเตอร์
[1-0 : สตีเวน เฟล็ทเชอร์ (น.5) , 2-0 : มูจานจิ เบีย (น.61) , 3-0 : เควิน ดอยล์ (น.66) , 4-0 : แม็ทธิว จาร์วิส (น.74) , 5-0 : เดวิด โจนส์ (น.90)]
ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 3 นัดรีเพลย์
แมนเชสเตอร์ ซิตี 4-2 เลสเตอร์ ซิตี
โรแบร์โต มันชินี หวังนำทัพ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี ทะลุสู่รอบ 4 จึงส่งตัวรุกลงสนามรับมือ "สุนัขจิ้งจอก" เลสเตอร์ หลายคน ไม่ว่าจะเป็น เจมส์ มิลเนอร์, อดัม จอห์นสัน หรือ ดาบิด ซิลบา ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์ คอยปั้นเกมให้ คาร์ลอส เตเบซ หอกตัวเป้าลุ้นสกอร์ ด้าน สเวน-โกรัน อีริคส์สัน นำทีมจากเดอะแชมเปียนชิป มาเยือนถิ่นเก่าที่อีสต์แลนด์ โดยฝากความหวังไว้ที่ พอล กัลลาเกอร์ กับ สตีฟ ฮาวเวิร์ด คู่หน้าตัวเก่ง ขณะที่ ยูกิ อาเบะ กองกลางชาวญี่ปุ่นลงคุมเกมร่วมกับ แอนดี คิง และ ริชี เวลเลนส์
เริ่มเกมการแข่งขันโอกาสแรกเป็นของ เลสเตอร์ ซิตี เมื่อ แอนดี คิง ยิงบอลแฉลบตัว แว็งซองต์ กอมปานี ข้ามศีรษะ โจ ฮาร์ท แต่ก็เลยคานออกไป นาทีที่ 7 แมนฯ ซิตี สวนกลับไป คาร์ลอส เตเบซ จ่ายให้ อดัม จอห์นสัน หลุดกับดักล้ำหน้าล้มตัวยิงติดเซฟของ คริส วีล ทั้งสองฝ่ายลุยใส่กันสนุกทีเดียว ทีมเยือนได้เสียวอีกครั้ง พอล กัลลาเกอร์ เปิดบอลจากกราบซ้ายให้ สตีฟ ฮาวเวิร์ด สะบัดโขกไปโดนหน้าอก โจลีออน เลสค็อตต์ เปลี่ยนทางทว่า โจ ฮาร์ท ยังยืนตำแหน่งดีคว้าบอลได้หวุดหวิด แต่ถึงนาทีที่ 15 "เรือใบสีฟ้า" ก็ล่องนำ 1-0 จากจังหวะ ปาโบล ซาบาเลตา ทุ่มให้ คาร์ลอส เตเบซ ตะลุยเข้ากรอบโทษก่อนตะบันด้วยขวาส่งบอลผ่านมือ วีล เสียบเพดานตาข่ายเสาไกลอย่างงดงาม
อย่างไรก็ตาม ถัดมา 4 นาที "สุนัขจิ้งจอก" มาได้ลูกที่จุดโทษ เมื่อ ลอยด์ ดายเออร์ โดน ปาทริค วิเอรา เตะตัดขาล้มลงไป มาร์ค ฮัลซีย์ ผู้ตัดสินเป่านกหวีดยาว ก่อนที่ กัลลาเกอร์ จะสังหารผ่านมือ ฮาร์ท ให้สกอร์กลับมาเสมอกัน 1-1 พอโดนเอาคืนเร็ว แมนฯ ซิตี ลุยต่อทันที อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ เติมขึ้นมาเปิดให้ ยายา ตูเร ยิงเรียดกลางประตูแต่ วีล ยังล้มตัวรับได้ทัน ครึ่งชั่วโมงพอดี สเวน-โกรัน อีริคส์สัน ต้องถอดเอา กัลลาเกอร์ ที่เจ็บเล่นต่อไม่ไหวออกมา พร้อมกับส่ง แฟรงค์ มุสซา ลงไปเล่นแทน แต่ถึงนาที 37 เจ้าบ้านนำ 2-1 ปาโบล ซาบาเลตา ตบเข้ากลาง ดาบิด ซิลบา ยิงโดน โซล บัมบา สกัดมาเข้าทาง วิเอรา แปเหน่งๆ ไม่เหลือ ถัดมานาทีเดียวสกอร์ไหลเป็น 3-1 เมื่อ ซิลบา จ่ายให้ จอห์นสัน ไม่ล้ำหน้าเข้าไปล่อเป้า วีล จบครึ่งแรกแฟนๆ ในซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ สบายใจขึ้น
ลุยต่อครึ่งหลังเป็นทาง แมนฯ ซิตี เดินหน้าลุยใส่แม้สกอร์ห่างถึง 2 ลูก ซิลบา หลุดเข้าไปยิงไม่เข้าเป้า นาที 55 แฟนๆ ทีมเยือนร้องจะเอาจุดโทษเมื่อเห็น ยูกิ อาเบะ โดน เจมส์ มิลเนอร์ เสียบล้มในกรอบโทษ ทว่าเชิ้ตดำมองว่าเป็นการเข้าโดนบอล ถัดมาอีก 4 นาที กลายเป็นเจ้าถิ่นได้จุดโทษเมื่อ เตเบซ ลุยเข้าไปโดน วีล รวบล้มลง อย่างไรก็ตาม กัปตันทีมอาร์เจนไตน์ซัดบอลไปติดตัวนายทวาร "สุนัขจิ้งจอก" ลอยออกหลังไป หนึ่งชั่วโมงพอดี เตฟ พยายามแก้ตัวด้วยการตวัดยิงด้วยขวาทว่า วีล ยังพุ่งปัดปลายมือออกไปได้อีก เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ผู้มาเยือนทิ้งไพ่อีกใบส่ง มาร์ติน แว็กฮอนส์ ลงมาล่าตาข่ายแทน สตีฟ ฮาวเวิร์ด ที่ค่อนข้างเงียบ
ถึงแม้ เลสเตอร์ สามารถกลับมาครองเกมได้เป็นส่วนใหญ่ แต่เจ้าถิ่นลงไปแพ็คเกมค่อนข้างแน่นหนา จากนั้น โรแบร์โต มันชินี ถอดเอา ตูเร ออกมาพักพร้อมกับเติมแนวรุกอย่าง โช อัลเวส ไปช่วยค้ำ แต่นาที 83 ทีมเยือนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ไล่หลังเหลือแค่ 2-3 จากจังหวะ อาเบะ แทงทะลุช่องให้ ดายเออร์ อาศัยความเร็วเข้าไปจิ้มบอลหนีมือ ฮาร์ท ซุกก้นตาข่าย ช่วงเวลาที่เหลือ "สุนัขจิ้งจอก" บี้เป็นการใหญ่ ทว่า "เรือใบสีฟ้า" มาได้ประตูฝัง 4-2 ในนาทีสุดท้ายจากการอัดด้วยซ้ายของ โคลารอฟ ทำให้ แมนฯ ซิตี ทะลุเข้าสู่รอบ 4 วันเสาร์ที่ 29 มกราคม 2554 ต้องไปเยือน น็อตต์ส เคาน์ตี
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท , ปาโบล ซาบาเลตา , แว็งซองต์ กอมปานี , โจลีออน เลสค็อตต์ , อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ , เจมส์ มิลเนอร์ , ยายา ตูเร , ปาทริค วิเอรา , อดัม จอห์นสัน , คาร์ลอส เตเบซ , ดาบิด ซิลบา
เลสเตอร์ : คริส วีล , ไคล นอร์ตัน , โซล บัมบา , แจ็ค ฮ็อปป์ส , บรูโน เบอร์เนอร์ , แอนดี คิง , ยูกิ อาเบะ , ริชี เวลเลนส์ , ลอยด์ ดายเออร์ , พอล กัลลาเกอร์ , สตีฟ ฮาวเวิร์ด
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสาม นัดรีเพลย์ ประจำคืนวันอังคาร
คาร์ดิฟฟ์ ซิตี 0-2 สโต๊ก ซิตี
[0-1 : โจนาธาน วอลเตอร์ส (น.91) , 0-2 : โจนาธาน วอลเตอร์ส (น.115)]
แมนเชสเตอร์ ซิตี 4-2 เลสเตอร์ ซิตี
[1-0 : คาร์ลอส เตเบซ (น.15) , 1-1 : พอล กัลลาเกอร์ (จุดโทษ น.19) , 2-1 : ปาทริค วิเอรา (น.37) , 3-1 : อดัม จอห์นสัน (น.38) , 3-2 : ลอยด์ ดายเออร์ (น.83) , 4-2 : อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ (น.90)]
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 5-0 ดอนคาสเตอร์
[1-0 : สตีเวน เฟล็ทเชอร์ (น.5) , 2-0 : มูจานจิ เบีย (น.61) , 3-0 : เควิน ดอยล์ (น.66) , 4-0 : แม็ทธิว จาร์วิส (น.74) , 5-0 : เดวิด โจนส์ (น.90)]