การแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมแรกของปีออสเตรเลี่ยน โอเพ่นซึ่งจะทำการแข่งขันรอบแรกที่นครเมลเบิร์น ในวันจันทร์ที่ 17 มกราคม นี้นับเป็นการเปิดศักราชการแข่งขันของวงการลูกสักหลาดอย่างเป็นทางการ โดยนักเทนนิสฝ่ายชายที่มีโอกาสคว้าแชมป์ประเภทชายเดี่ยวในปีนี้ ทุกความสนใจจับไปที่ราฟาเอล นาดาล "สิงห์อีซ้าย" วัย 24 ปีจากมาร์ยอก้า โดยมี คู่ปรับตลอดกาลและอดีตนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งโลกอย่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์เป็นผู้ท้าชิง
ทั้งนี้สองนักเทนนิส ชื่อดังได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อก่อนลงสนามในรอบแรกเมื่อวันเสาร์ที่ 15 มกราคมที่ผ่านมาถึงความพร้อมของตนเอง โดยเฟเดอเรอร์ ในฐานะผู้ท้าชิงที่ในปีนี้ต้องเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งและแรงขับของ นาดาล ในการทำ "ราฟาสแลม" (คว้าแชมป์แกรนด์สแลมครบสี่รายการต่อเนื่องจากปี 2010) กล่าวถึงคู่ปรับของตนเองว่า "การแข่งขันออสเตรเลียน โอเพ่นในปีนี้ น่าตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะความท้าทายที่จะได้เห็นนาดาล สร้างผลงานด้วยการทำ "สแลม" ของตนเองได้หรือไม่และถ้าผมมีโอกาสได้ดวลแร็กเก็ตกับเขาในการแข่งขัน ก็หวังว่าจะสามารถหยุดความร้อนแรงของนาดาลลงได้"
ทั้งนี้ นักเทนนิสชาวสวิสจะลงสนามรอบแรกพบกับ ลูคัส แลคโก ในส่วนของ ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสชาวสเปนในออสเตรเลี่ยน โอเพ่นครั้งนี้ ถูกจับตามองจากแฟนเทนนิสทั่วทั้งโลก เพราะเป็นการแข่งขันรายการสำคัญที่เจ้าตัวจะคว้าแกรนด์สแลมได้ครบทั้งสี่รายการ และจะเป็นการทำ "ราฟา สแลม" หลังคว้าแชมป์ เฟรนช์โอเพ่น วิมเบิลดัน และ ยูเอส โอเพ่น เมื่อปี 2010 และถ้าเจ้าตัวคว้าแชมป์ออสเตรเลี่ยน โอเพ่นได้ในครั้งนี้เท่ากับว่า นาดาล เก็บชัยชนะในแกรนด์สแลมได้ครบทั้งสี่รายการ และจะกลายเป็นนักเทนนิสคนแรกในรอบ 42 ปีที่สามารถคว้าแชมป์ติดต่อกันระหว่างปีได้สำเร็จ นับจากที่ รอด เลเวอร์ นักเทนนิสชื่อดังชาวออสเตรเลีย เคยสร้างผลงานไว้ในปี 1969
ทั้งนี้ ราฟาเอล นาดาล หลีกเลี่ยงที่จะเผยความรู้สึกกับโอกาสที่จะสร้างประวัติศาสตร์ของตนเอง โดยให้เหตุผลกับสื่อว่า "คิดว่าคงจะดีกว่า ถ้าเราข้ามคำถามเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปได้ ผมไม่ขอตอบคำถามเรื่องนี้ เพราะการลงแข่งขันครั้งนี้ผมไม่ได้มาเพื่อทำลายสถิติหรือสร้างประวัติศาสตร์ แต่ลงสนามเพื่อทำผลงานและคว้าชัยชนะเท่านั้น"
นอกจากราฟาเอล นาดาล และ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ แล้ว การแข่งขันออสเตรเลี่ยน โอเพ่นในประเภทชายเดี่ยวนั้น ยังมีนักเทนนิสอีกกลุ่มหนึ่งที่มีโอกาสขึ้นมาสอดแทรกในพื้นที่แชมป์ ไม่ว่าจะเป็น นักเทนนิสชาวเซอร์เบีย อย่าง โนวัค โยโควิค เจ้าของแชมป์ในปี 2008 ขณะที่ แอนดี้ เมอร์เรย์ เจ้าของตำแหน่งรองแชมป์เมื่อปีที่แล้วก็มีโอกาสเช่นกัน รวมไปถึงจอมเสิร์ฟหนักจากสหรัฐ อย่างแอนดี้ รอดดิก ที่หวังจะกลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่ในอดีตของตนเองกลับมา และที่ลืมไม่ได้คือ นักเทนนิสเจ้าถิ่น อดีตมือหนึ่งโลกอย่าง เลย์ตัน ฮิววิตต์ ที่เพิ่งจะคว้าแชมป์ คูยอง คลาสสิก รายการอุ่นเครื่องที่เมลเบิร์นเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าตัว ก่อนลงดวลแร็กเก็ตในสแลมแรกของปี
ส่วนฝ่ายหญิงนั้นแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว เซเรน่า วิลเลี่ยมส์ ถอนตัวจากการแข่งขันเนื่องจากอาการบาดเจ็บ ส่งให้โทรฟี่ในประเภทหญิงเดี่ยวของสแลมออสซี่เปิดกว้างแต่ความสนใจทั้งหมดจะตกไปอยู่ที่ คาร์โลไลน์ วอซเนียกสกี้ เจ้าของตำแหน่งนักเทนนิสหญิงหมายเลขหนึ่งของโลก ที่ต้องพยายามพิสูจน์ตนเองด้วยการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมมาประดับบารมี
นอกจากวอซเนียคกี แล้วยังมีลิสต์รายชื่อนักเทนนิสหญิงรายอื่นที่มีโอกาสคว้าสแลมแรกของปีชนิดที่เรียกว่ายาวเหยีดกว่าฝ่ายชายไม่ว่าจะเป็น "ซูเปอร์มัม" อย่างคิม ไคลจ์สเตอร์เจ้าของแชมป์ยูเอส โอเพ่นเมื่อปีที่ผ่านมา หรือวีนัส วิลเลี่ยมส์ ที่สร้างผลงานได้น่าเกรงขามมิใช่น้อยในสนามออสซี่ โอเพ่น รวมไปถึงผู้ที่เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเมื่อปีที่แล้วอย่าง จัสติน เอแนง และ อดีตแชมป์ที่ลืมไม่ได้ มาเรีย ชาราโปว่า นอกจากนี้ยังมี เวร่า ซโวนาเรว่า เจ้าของตำแหน่ง มือวางอันดับที่สองประจำรายการ
ทั้งนี้แกรนด์สแลม บนทวีปดาวน์อันเดอร์ จะทำการแข่งขันรอบแรกในวันจันทร์ที่ 17 มกราคม 54 โดยการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของฝ่ายหญิงจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 29 มกราคม ส่วนฝ่ายชายลงสนามในวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม ส่วนนักเทนนิสรายใดจะปรากฏชื่อในไฟนัล ลิสต์ อีกสองสัปดาห์ต่อจากนี้ แฟนเทนนิสต้องคอยติดตาม
