ในเกมกีฬากอล์ฟนั้นสิ่งที่เป็นยอดปรารถนามากที่สุดของเหล่าสวิงอาชีพทั้งหลายเห็นจะหนีไม่พ้นการได้ครอบครองถ้วยเมเจอร์ หนึ่งในสี่รายการอันประกอบไปด้วย เดอะมาสเตอร์ส, ยูเอส โอเพ่น, ดิ โอเพ่น และ พีจีเอแชมเปี้ยนชิป สักครั้งในชีวิตแต่ในช่วงหนึ่งรอบทศวรรษที่ผ่านมานักกอล์ฟแทบจะทุกรายต้องหลีกทางให้กับ "พญาเสือ" ไทเกอร์ วูดส์ ที่ไล่ล่าสถิติเมเจอร์ 18 สมัยของ แจ็ค นิกคลอส ซึ่งจนถึงแชมป์เมเจอร์รายการล่าสุดของวูดส์ในยูเอส โอเพ่นปี 2008 ถึงเวลานี้อดีตโปรหมายเลขหนึ่งโลกยังไม่สามารถไปถึงเพชรยอดมงกุฎทั้งสี่รายการได้อีกเลย สืบเนื่องจากอาการบาดเจ็บ และ มรสุมชีวิตที่ถาโถมชีวิตของโปรชื่อดังในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาและชีวิตขาลงของวูดส์ ได้เปิดโอกาสให้ปี 2011 กลายเป็นปีทองของการแย่งชิงเมเจอร์สมัยแรกสำหรับนักกอล์ฟที่ถูกเรียกว่ามือดีแต่ยังไม่สามารถคว้าแชมป์เมเจอร์มาครองได้ ส่วนจะเป็นใครบ้างนั้นติดตามได้ในบรรทัดต่อจากนี้
เริ่มที่ ลี เวสต์วูด โปรชาวอังกฤษที่ขึ้นสู่บัลลังก์หมายเลขหนึ่งโลก พร้อมกับคำปรามาสจากทั่วสารทิศเนื่องจาก ลี ไม่เคยได้สัมผัสเมเจอร์เลยสักครั้งเดียว แต่จากฟอร์มการเล่นที่ปรากฎอย่างเด่นชัดในปี 2010 ว่าเวสต์วูด นั้นแข็งแกร่งเพียงใดและถ้าเขายังสามารถรักษาสวิงให้ได้มาตรฐานดังกล่าวโอกาสที่จะเห็น เวสต์วูด ชูถ้วยรายการเมเจอร์มากกว่าสองครั้ง ย่อมมีความเป็นไปได้สูง เพราะที่ผ่านมาเจ้าตัวเคยผ่านตำแหน่งรองแชมป์ เดอะมาสเตอร์ส และ ดิ โอเพ่น ในปี 2010 มาแล้ว
อีกรายเป็นโปรจอมเก๋าจากสเปน มิเกล อังเกล เฆมิเนซ ในฤดูกาล 2010 สวิงเจ้าสำราญรายนี้คว้าแชมป์ระดับยูโรเปี้ยนทัวร์มาครองได้ถึงสามรายการ แต่ในรายการระดับเมเจอร์ ดูเหมือนลุงเฆมิเนซ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าใด แต่ด้วยความเก่าประสบการณ์และเล่นมานานจนแทบจะเป็นสัญลักษณ์ของวงการกอล์ฟสเปน เฆมิเนซ น่าจะใช้ความเก่าของตนเองให้เป็นประโยชน์ เพราะที่ผ่านมาเจ้าตัวเคยมีชื่อติดอยู่ในท้อปเทนรายการเมเจอร์มาแล้ว 7 สมัย ดังนั้นฤดูกาล 2011 โปรจอมเก๋ารายนี้น่าจะฉกฉวยช่องว่างในช่วงที่มีการเปลี่ยนถ่ายอำนาจ ลุกขึ้นมาคว้าแชมป์เมเจอร์ที่ตนเองรอคอยมาเกือบตลอดชีวิตนักกอล์ฟอาชีพให้ได้เสียที
รอรี่ย์ แมคอิลรอย ชื่อนี้คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณว่าแจ่มขนาดไหน โดยเฉพาะในรอบปี 2010 ที่ผ่านมา เด็กหนุ่มจากไอร์แลนด์เหนือรายนี้ มีผลงานในเมเจอร์ทั้งสี่รายการด้วยอันดับที่จบในระดับท้อป 10 และต้องนับรวมไปถึงอันดับที่สามในการแข่งขันดิ โอเพ่น และ พีจีเอแชมเปี้ยนชิป เมื่อปีก่อนด้วย คาดกันว่าปี 2011 ชื่อของ รอรี่ย์ น่าจะได้สลักอยู่บนโทรฟี่เมเจอร์ อย่างน้อยหนึ่งรายการ
มาถึงอดัมส์ สก๊อตต์ โปรออสเตรเลีย ที่ติดอันดับท้อป 5 ของเวิลด์กอล์ฟแรงกิ้ง เมื่อ 4 ปีก่อนแต่ฟอร์มการเล่นที่แผ่วลงในช่วงหลังทำให้อันดับโลกของหนุ่มจิ้งโจ้เลื่อนลงเรื่อยๆ หากการกลับมาในปี 2010 อดัม สก๊อตต์ คว้าแชมป์พีจีเอรวดเดียวสองรายการ ทำให้สื่อต้องจับตามองการกลับมาของโปรที่ได้ชื่อว่า "วงสวิงดีที่สุดในโลก แต่ ไม่เคยคว้าแชมป์เมเจอร์ได้" และเมื่อฟอร์มเก่งกลับมาเช่นนี้ โอกาสที่ปี 2011 จะเป็นปีทองที่ อดัม สก๊อตต์ คว้าแชมป์เมเจอร์มาประดับบารมีสักรายการ คงมิใช่เรื่องเกินจริงสักเท่าใด
รายสุดท้ายที่เชื่อว่ามีทั้งคนรักและหมั่นไส้ในจำนวนที่พอกัน สำหรับเอียน โพลเตอร์ ผู้ที่กล้าประกาศให้โลกรู้ไปเลยว่าตนเองนั้นมีดีจะอวด และจะอวดดีให้เห็นด้วยการคว้าแชมป์เมเจอร์มาครองให้ได้ในปี 2011 ความมั่นใจทั้งหลายทั้งมวลของ เอียน โพลเตอร์ น่าจะมาจากความสำเร็จของทีมไรเดอร์ คัพยุโรปที่ตนเองเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญ และ การคว้าแชมป์รายการใหญ่ชนิดน้องเมเจอร์ อย่าง เวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิป รายการ เอคเซนเจอร์ แมทช์เพลย์ ดังนั้นโอกาสที่จะก้าวมาครอบครองเพชรยอดมงกุฎอย่างรายการเมเจอร์สักหนึ่งรายการคงไม่ใช่เรื่องยากเกินไป