คอลัมน์สุดฟากสนาม เรื่อง นกฟินิกซ์
ในวัย 22 ปีนักเทนนิสเชื้อสายอิหร่าน ลูกชายของอดีตนักมวยโอลิมปิกที่เข้ามาตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกาที่ชื่อ อังเดร อากัสซี่ สามารถทลายบททดสอบแรกอันจะพาเขาไปสู่ตำแหน่งนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งของโลกด้วยการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมแรกในชีวิตได้สำเร็จ และเป็นสแลมที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่างวิมเบิลดัน ทำให้อังเดร ได้สร้างศักราช และ มาตรฐานผลงานใหม่ให้กับตนเอง
แม้ว่าการสนทนาระหว่างไมค์ อากัสซี่ อดีตนักมวยทีมโอลิมปิก ของอิหร่านผู้เป็นบิดากับอังเดร จะจบด้วยความกระท่อนกระแท่นทางความหมาย แต่ในความรู้สึกระหว่างพ่อลูกแล้ว เจ้าของแชมป์วิมเบิลดันใหม่มาดแห่งปี 1992 รู้สึกได้ว่า ความรู้สึกภายในของผู้เป็นพ่อนั้นตื้นตันเพียงใด เพราะตลอดระยะเวลากว่ายี่สิบปี ไมค์ อากัสซี่ ไม่เคยทิ้งความเชื่อที่พร่ำบอกกับตนเองมาโดยตลอดว่า ลูกชายคนสุดท้องแห่งครอบครัวอากัสซี่ จะได้เป็นนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งโลก
สำหรับแชมป์ประเภทหญิงเดี่ยวที่ได้ครองถ้วยใสคราวเดียวกับที่ อังเดร คว้าสแลมแรกในชีวิตเป็นนักเทนนิสหญิงชาวเยอรมันที่สร้างผลงานด้วย “โกลเด้นท์ สแลม” อย่างสเตฟี่ กราฟ (ในปี 1988 กราฟ คว้าแชมป์แกรนด์สแลมครบ 4 รายการและได้เหรียญทองจากการแข่งขันเทนนิสในกีฬาโอลิมปิก) แน่นอนว่าการได้แชมป์คู่กับนักเทนนิสหญิงที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดของทศวรรษ ทำให้อังเดร ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะในคืนเลี้ยงฉลองแชมป์ตามประเพณีของวิมเบิลดัน เขาจะได้เต้นรำคู่กับ กราฟ ในฐานะที่ครองโทรฟี่ ชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยว แต่เป็นที่น่าเสียสำหรับ เจ้าของแชมป์ชายเดี่ยวปี 1992 เมื่อประเพณีเต้นรำได้ถูกยกเลิก
หากในท้ายที่สุดแล้ว อังเดร ยังได้พบกับ สเตฟี่ ทั้งคู่ได้ทักทายกันตามธรรมเนียม และประโยคแรกที่ฝ่ายชายกล่าวแก่ เจ้าของแชมป์หญิงเดี่ยววิมเบิลดันคือ “ปีที่แล้วผมเกือบได้เจอคุณในงานเลี้ยงหลังการแข่งขันเฟรนช์โอเพ่น” นักเทนนิสสาวเยอรมันไม่ได้มีคำตอบกลับ เธอยิ้มให้กับ อังเดร หากแต่เป็นรอยยิ้มที่อธิบายได้ยากที่สุด
ในวัย 22 ปีนักเทนนิสเชื้อสายอิหร่าน ลูกชายของอดีตนักมวยโอลิมปิกที่เข้ามาตั้งรกรากในสหรัฐอเมริกาที่ชื่อ อังเดร อากัสซี่ สามารถทลายบททดสอบแรกอันจะพาเขาไปสู่ตำแหน่งนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งของโลกด้วยการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมแรกในชีวิตได้สำเร็จ และเป็นสแลมที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่างวิมเบิลดัน ทำให้อังเดร ได้สร้างศักราช และ มาตรฐานผลงานใหม่ให้กับตนเอง
แม้ว่าการสนทนาระหว่างไมค์ อากัสซี่ อดีตนักมวยทีมโอลิมปิก ของอิหร่านผู้เป็นบิดากับอังเดร จะจบด้วยความกระท่อนกระแท่นทางความหมาย แต่ในความรู้สึกระหว่างพ่อลูกแล้ว เจ้าของแชมป์วิมเบิลดันใหม่มาดแห่งปี 1992 รู้สึกได้ว่า ความรู้สึกภายในของผู้เป็นพ่อนั้นตื้นตันเพียงใด เพราะตลอดระยะเวลากว่ายี่สิบปี ไมค์ อากัสซี่ ไม่เคยทิ้งความเชื่อที่พร่ำบอกกับตนเองมาโดยตลอดว่า ลูกชายคนสุดท้องแห่งครอบครัวอากัสซี่ จะได้เป็นนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งโลก
สำหรับแชมป์ประเภทหญิงเดี่ยวที่ได้ครองถ้วยใสคราวเดียวกับที่ อังเดร คว้าสแลมแรกในชีวิตเป็นนักเทนนิสหญิงชาวเยอรมันที่สร้างผลงานด้วย “โกลเด้นท์ สแลม” อย่างสเตฟี่ กราฟ (ในปี 1988 กราฟ คว้าแชมป์แกรนด์สแลมครบ 4 รายการและได้เหรียญทองจากการแข่งขันเทนนิสในกีฬาโอลิมปิก) แน่นอนว่าการได้แชมป์คู่กับนักเทนนิสหญิงที่มีผลงานโดดเด่นที่สุดของทศวรรษ ทำให้อังเดร ตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะในคืนเลี้ยงฉลองแชมป์ตามประเพณีของวิมเบิลดัน เขาจะได้เต้นรำคู่กับ กราฟ ในฐานะที่ครองโทรฟี่ ชายเดี่ยวและหญิงเดี่ยว แต่เป็นที่น่าเสียสำหรับ เจ้าของแชมป์ชายเดี่ยวปี 1992 เมื่อประเพณีเต้นรำได้ถูกยกเลิก
หากในท้ายที่สุดแล้ว อังเดร ยังได้พบกับ สเตฟี่ ทั้งคู่ได้ทักทายกันตามธรรมเนียม และประโยคแรกที่ฝ่ายชายกล่าวแก่ เจ้าของแชมป์หญิงเดี่ยววิมเบิลดันคือ “ปีที่แล้วผมเกือบได้เจอคุณในงานเลี้ยงหลังการแข่งขันเฟรนช์โอเพ่น” นักเทนนิสสาวเยอรมันไม่ได้มีคำตอบกลับ เธอยิ้มให้กับ อังเดร หากแต่เป็นรอยยิ้มที่อธิบายได้ยากที่สุด