เออร์นีย์ เอลส์ ก้านเหล็กคนดังฉายฟอร์มเด่นวันสุดท้ายโค่นเอาชนะ ชาร์ล ชวาร์ทเซล เพื่อนร่วมชาติชาวแอฟริกัน ผงาดคว้าแชมป์กอล์ฟ ซีเอ แชมเปียนชิป ไปครอง ขณะที่ "โปรช้าง" ธงชัย ใจดี จบอันดับ 56 ร่วม สกอร์รวมเกินไป 2 โอเวอร์พาร์
การแข่งขันกอล์ฟรายการที่สองของซีรีส์เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปียนชิป ศึกซีเอ แชมเปียนชิป ชิงเงินรางวัลรวม 8.5 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 280.5 ล้านบาท) ที่สนามทีพีซี โดรัล บลูมอนสเตอร์ ระยะ 7,291 หลา พาร์ 72 เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางมาถึงการดวลวงสวิงกันในรอบสุดท้าย เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ปรากฏว่า เออร์นีย์ เอลส์ ทำผลงานยอดเยี่ยมเก็บไป 6 เบอร์ดี ไม่เสียแม้แต่โบกีเดียว สกอร์รวมขยับเป็น 18 อันเดอร์พาร์ ผงาดคว้าแชมป์ไปครอง พร้อมรับเงินรางวัลไปทั้งสิ้น 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 44 ล้านบาท) ด้าน ชาร์ล ชวาร์ทเซล โปรรุ่นน้องวัย 25 ปี ซึ่งนำร่วมกันหลังจบวันที่สาม รอบนี้ทำไป 6 เบอร์ดี แต่เสียไปถึง 4 โบกี จึงพ่ายรุ่นพี่ไป 4 สโตรก อย่างไรก็ตาม ได้เงินปลอบใจไป 8.5 แสนเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 27 ล้านบาท)
ภายหลังการแข่งขัน เอลส์ ซึ่งคว้าแชมป์หนสุดท้ายเมื่อ 2 ปีก่อนในรายการ ฮอนด้า คลาสสิก ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดี "ผมอายุก็ 40 ปีแล้ว ยังต้องเผชิญอะไรต่อไป แต่ยังดีที่เส้นผมบนหนังศีรษะยังอยู่ครบ เป็นเรื่องที่เยี่ยมไปเลย วันนี้เกมของผมเฉียบขาดทีเดียว ผมแค่อยากพิสูจน์ตัวเองสักครั้งหนึ่ง การที่ ชาร์ล (ชวาร์ทเซล) ลุยกับผมมาตลอดทั้งวันนี้ ถือเป็นเรื่องที่ดีเลย"
ส่วนผลงานของนักกอล์ฟรายอื่นๆ แมตต์ คูชาร์ จบอันดับ 3 ร่วมกับ มาร์ติน เคย์เมอร์ (เยอรมนี) และ พาแดรก แฮร์ริงตัน (ไอร์แลนด์เหนือ) สกอร์รวม11 อันเดอร์พาร์ ด้าน พอล เคซีย์ (อังกฤษ) คว้าที่ 6 ร่วมกับ อลิสแตร์ พรีสเนลล์, แกรม แม็คดาวล์ อีกหนึ่งก้านเหล็กชาวไอริช, บิลล์ ฮาส รวมถึง อัลบาโร ควิรอส (สเปน) ที่สกอร์ 10 อันเดอร์พาร์
วีเจย์ ซิงห์ ก้านเหล็กจากฟิจิ 4 วันทำไป 9 อันเดอร์พาร์ ซิวที่ 11 ร่วมกับ โรเบิร์ต อัลเลนบี (ออสเตรเลีย) และ จอห์น เซนเดน ขณะที่ ฟิล มิคเคลสัน ความหวังของสหรัฐฯ ขึ้นมาจบที่ 14 ร่วม สตีฟ สตริกเกอร์ เก็บไป 7 อันเดอร์พาร์ จบที่ 16 ร่วมกับ คามิโล วิลเลกาส นักกอล์ฟคนดังจากโคลัมเบีย สำหรับ ธงชัย ใจดี หนึ่งเดียวของไทย รอบสุดท้ายตีไป 2 เบอร์ดี แต่ก็เสีย 2 โบกี เบ็ดเสร็จจบเกิน 2 โอเวอร์พาร์ ได้อันดับ 56 ร่วมกับ รีทีฟ กูเซน (แอฟริกาใต้), ดัสติน จอห์นสัน และ ลูคัส โกลเวอร์ เก็บเงินรางวัลไปคนละ 45,500 เหรียญสหรัฐ (ราว 1.45 ล้านบาท)