อาร์เซนอล โชว์ฟอร์มเฉียบไล่ถลุง เอฟซี ปอร์โต อย่างไม่ปรานี 5-0 โดย นิคลาส เบนดท์เนอร์ ศูนย์หน้าทีมชาติเดนมาร์ก ทำแฮตทริก ทำให้ “ปืนใหญ่” พลิกสถานการณ์กลับมาเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยสกอร์รวม 6-2
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง วันอังคารที่ 9 มีนาคม 2553
อาร์เซนอล (อังกฤษ) 5–0 เอฟซี ปอร์โต (โปรตุเกส)
(รวม 2 นัด อาร์เซนอล เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยประตูรวม 6-2)
เริ่มเกมเป็น “ปืนใหญ่” ที่แพ้มาก่อนในนัดแรก 1-2 เปิดฉากบุกเข้าใส่ทันที นาทีที่ 8 เจ้าถิ่นต่อบอลไหลลื่นก่อนที่ บาการี ซานญา จะเปิดโด่งจากด้านขวาให้ อังเดร อาร์ชาวิน โหม่งเน้นที่เสาสองถูก เอลตัน ปัดทิ้งออกหลังแบบหวุดหวิด ก่อนจะมานำ 1-0 ได้ใน 2 นาทีต่อมา เมื่อ ซาเมียร์ นาสรี จ่ายทะลุช่องให้ อาร์ชาวิน ควบเข้าไปเอาบอลถูก ฮอร์เก ฟูซิเล สไลด์ดักแต่กลับไปชน เอลตัน เอง ลูกจึงทะลักมาเข้าทาง นิคลาส เบนดท์เนอร์ จิ้มเข้าไปตุงตาข่าย
จากนั้นทีมเยือนพยายามหาทางกดดันบ้าง แต่แนวรับ เดอะ กันเนอร์ส ยังต้านทานเอาไว้ได้ กระทั่งนาทีที่ 25 เจ้าบ้านก็หนีห่างเป็น 2-0 โดย ฟูซิเล ไม่ยอมปล่อยให้ลูกออกข้างแล้วหวดเคลียร์มาเข้าทาง อาร์ชาวิน โชว์ทักษะตะลุยแหวก 3 คน เข้าเขตโทษก่อนตวัดเข้ากลางหนีมือ เอลตัน ให้ เบนดท์เนอร์ แปจ่อๆ ไม่เหลือซาก
ปอร์โต พลาดโอกาสตีไข่แตกอย่างน่าเสียดายในนาทีที่ 32 เมื่อ มานูเอล อัลมูเนีย นายทวารเจ้าบ้านถูกบีบจนเตะเปิดออกมาไม่ดี บอลมาเข้าเท้า ฮัลค์ ปั่นโค้งกะให้เสียบสามเหลี่ยม แต่ไม่ตรงกรอบ ให้หลัง 2 นาที อาร์เซนอล ชวดใส่สกอร์เพิ่มเช่นกัน หลังจาก นาสรี ทำชิ่งกับ อาบู ดิยาบี หลุดถึงเส้นหลังก่อนตบย้อนมาให้ อาร์ชาวิน แปโล่งๆ ที่เสาไกลข้ามคาน
นาทีที่ 40 เบนดท์เนอร์ สบโอกาสปั่นโค้งนอกเขตโทษ ทว่า เอลตัน ล้มตัวปัดออกหลังได้ทัน ก่อนที่ ดิยาบี จะโขกลูกเตะมุมในจังหวะต่อเนื่องไปชนเสา ช่วงทดเจ็บ นาสรี โยกตัดเข้าในแล้วลงกดเรียด แต่ เอลตัน ยังไม่เผลอล้มตัวปัดพ้นกรอบได้อีก จบครึ่งแรกปืนใหญ่ยังคงนำอยู่ 2-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง ทีมดังจากแดนฝอยทอง มีลุ้นหวาดเสียวในนาทีที่ 55 โดย คริสเตียน โรดริเกซ ตัวสำรองที่ลงมาแทน นูโน โคเอลโญ ตวัดเข้ากลางให้ ราดาเมล ฟัลเกา ยิงไปตรงตัว อัลมูเนีย จากนั้น 5 นาที โรดริเกซ โหม่งลูกเตะมุมไปติด นาสรี ที่ยืนคุมเส้นก่อนที่ อัลมูเนีย จะตามมาตะครุบเอาไว้ได้
นาทีที่ 63 อาร์เซนอล ทะยานนำไกล 3-0 เมื่อ นาสรี โชว์ลีลาพลิ้วหนี 3 คน เข้าไปยิงมุมแคบในเขตโทษเสียบหน้าต่างอย่างเฉียบขาด ก่อนที่ เอ็มมานูเอล เอบูเอ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาแทน โทมัส โรซิคกี จะรับลูกจ่ายของ อาร์ชาวิน ที่พาบอลโต้กลับขึ้นมาแล้วเกี่ยวหลบ เอลตัน ก่อนแปเข้าสู่ปากประตูอันว่างเปล่าเป็น 4-0
นาทีสุดท้าย อาร์เซนอล ตอกฝาโลงอย่างเด็ดขาดเป็น 5-0 หลังจาก ฟูซิเล เบียด เอบูเอ ล้มลงในเขตโทษ เบนดท์เนอร์ รับหน้าที่สังหารจุดโทษไม่พลาดทำแฮตทริกได้สำเร็จ ส่งผลให้ อาร์เซนอล เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยผลรวม 2 นัด 6-2
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล – มานูเอล อัลมูเนีย, บาการี ซานญา, โซล แคมป์เบลล์, โธมัส แฟร์มาเลน, กาแอล กลิชี, อเล็กซานเดอร์ ซง, อาบู ดิยาบี, ซาเมียร์ นาสรี, โทมัส โรซิคกี, อังเดร อาร์ชาวิน, นิคลาส เบนดท์เนอร์
เอฟซี ปอร์โต – เอลตัน, ฮอร์เก ฟูซิเล, โรลันโด, บรูโน อัลเวส, อัลวาโร เปเรรา, นูโน โคเอลโญ, ราอูล เมเรเลส, รูเบน มิคาเอล, วาเรลา, ราดาเมล ฟัลเกา, ฮัลค์
ส่วนผลอีกคู่หนึ่ง ฟิออเรนตินา เปิดสนามอาร์เตมิโอ ฟรังคี เฉือนชนะ บาเยิร์น มิวนิค 3-2 โดย “ม่วงมหากาฬ” ได้ประตูจาก ฮวน วาร์กาส นาทีที่ 28, สเตฟาน โยเวติช นาทีที่ 54 และ 64 ส่วน “เสือใต้” ทวงคืนจาก มาร์ค ฟาน บอมเมล นาทีที่ 60 และ อาร์เยน ร็อบเบน นาทีที่ 65 รวม 2 นัดเสมอกัน 4-4 ทำให้ บาเยิร์น เข้ารอบตามกฎประตูทีมเยือน