แมนเชสเตอร์ ซิตี ดวลกับ ลิเวอร์พูล แต่สุดท้ายไม่สามารถทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอันด้วยกันทั้งคู่ก่อนเสมอกันไป 0-0 แบ่งไปทีมละ 1 คะแนน ทำให้การแย่งอันดับ 4 ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังเข้มข้นต่อไป
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553
แมนเชสเตอร์ ซิตี 0-0 ลิเวอร์พูล
ที่สนามซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดียม แมนเชสเตอร์ ซิตี ทำศึกช่วงชิงอันดับ 4 กับ ลิเวอร์พูล เกมนี้เจ้าบ้านให้ เคร็ก เบลลามี กองหน้าที่มีข่าวว่ามีปัญหากับกุนซือ โรแบร์โต มันชินี นั่งสำรอง โดยส่ง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เป็นหัวหอกตัวเป้า ขณะที่ทีมเยือนได้ เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ ยอสซี เบนายูน สองแนวรุกตัวเก่งหายเจ็บกลับมามีชื่อเป็นตัวสำรอง
อย่างไรก็ตาม เกมในช่วงแรกแทบจะหาโอกาสลุ้นทำประตูกันแทบไม่ได้ กระทั่งนาทีที่ 25 “หงส์แดง” ก็ลองทักทายจาก สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่เลี้ยงตัดจากด้านขวาเข้ากลางก่อนซัดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษส่งบอลเหินข้ามคาน นาทีที่ 38 เป็นทีของ “เรือใบสีฟ้า” บ้าง แต่ลูกฮาล์ฟวอลเลย์ของ ปาโบล ซาบาเลตา ไปแฉลบ อเดบายอร์ ออกหลัง
โอกาสใกล้เคียงที่สุดในครึ่งแรกเป็นของ ลิเวอร์พูล ในนาทีที่ 43 เมื่อ เจอร์ราร์ด เปิดลูกเตะมุมด้านขวาโค้งมาเข้าศีรษะ มาร์ติน สเคอร์เทล แต่กองหลังชาวสโลวาเกียโขกหลุดกรอบออกไปทางเสาสองอย่างน่าเสียดาย จบ 45 นาทีแรกยังทำอะไรกันไม่ได้เสมออยู่ 0-0
กลับเข้าสู่ครึ่งหลังนาทีที่ 50 อเดบายอร์ ออกบอลไปแฉลบขา ลูคัส เลวา ลูกหลุดไปเข้าทาง สตีเฟน ไอร์แลนด์ ได้ยิงเหน่งๆ ในเขตโทษออกข้างเสาแรกอย่างน่าเจ็บใจก่อนที่ไลน์แมนจะยกธงล้ำหน้าด้วย จากนั้นนาทีที่ 61 อเดบายอร์ เกือบมีชื่อขึ้นสกอร์บอร์ด เมื่อได้จังหวะกระทุ้งหน้าเขตโทษบอลทำท่าจะเสียบโคนเสาแรก แต่ โฆเซ เรนา ล้มตัวปัดออกหลังได้อย่างหวุดหวิด
จากนั้นหงส์แดงก็แก้เกมด้วยการส่ง เบนายูน ลงมาแทน มักซี โรดริเกซ ที่ไม่มีบทบาท ส่วนเรือใบสีฟ้าก็ส่ง เบลลามี ลงมาแทน ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ นาทีที่ 74 เจอร์ราร์ด หาจังหวะแต่งเข้าซ้ายแล้วส่องไกลลูกพุ่งตรงตัว เชย์ กิฟเวน ก่อนที่ ตอร์เรส จะถูกส่งลงมาแทน ไรอัน บาเบล
เจ้าบ้านมีลุ้นหวาดเสียวในนาทีที่ 80 โดย แว็งซ็องต์ กอมปานี หยอดให้ อเดบายอร์ ขึ้นโหม่งที่เสาสองข้ามคานนิดเดียว จากนั้น อเดบายอร์ ถูก ดาเนียล แอกเกอร์ ผลักล้มลงในเขตโทษ ทว่าผู้ตัดสิน ปีเตอร์ วอลตัน ไม่เป่าให้จุดโทษโดยชี้เป็นลูกตั้งเตะจากเขตประตู ช่วงที่เหลือไม่มีอะไรเกิดขึ้น จบเกมจึงเสมอ 0-0 ทำให้ แมนฯ ซิตี มี 46 คะแนน รั้งที่ 4 ต่อไป ส่วน ลิเวอร์พูล มี 45 คะแนนเท่ากับ แอสตัน วิลลา
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี - เชย์ กิฟเวน, ปาโบล ซาบาเลตา, แว็งซ็องต์ กอมปานี, โจลีออน เลสคอตต์, เวย์น บริดจ์, ไนเจล เดอ ยอง, แกเร็ธ แบร์รี, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, สตีเฟน ไอร์แลนด์, อดัม จอห์นสัน, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
ลิเวอร์พูล – โฆเซ เรนา, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนียล แอกเกอร์, เอมิเลียโน อินซัว, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ลูคัส เลวา, มักซี โรดริเกซ, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ไรอัน บาเบล, เดิร์ก เคาท์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 3-0 (นิโกลา คาลินิช 1-0 นาที 41), (เจสัน โรเบิร์ตส 2-0 นาที 73), (กาแอล ชิเวต์ 3-0 นาที 84)
แอสตัน วิลลา ชนะ เบิร์นลีย์ 5-2 (สตีเวน เฟลทเชอร์ 0-1 นาที 10), (แอชลีย์ ยัง 1-1 นาที 32), (สจวร์ต ดาวนิง 2-1 นาที 56), (สจวร์ต ดาวนิง 3-1 นาที 58), (เอมิล เฮสกี 4-1 นาที 61), (กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ 5-1 นาที 68), (มาร์ติน พาเตอร์สัน 5-2 นาที 90)
ฟูแลม ชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี 2-1 (คริส แบร์ด 0-1 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 3), (เดเมียน ดัฟฟ์ 1-1 นาที 60), (บ็อบบี ซาโมรา 2-1 นาที 90)
แมนเชสเตอร์ ซิตี เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
วีแกน แอธเลติก แพ้ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-3 (เจอร์เมน เดโฟ 0-1 นาที 27), (โรมัน พาฟลูเชนโก 0-2 นาที 85), (โรมัน พาฟลูเชนโก 0-3 นาที 90)