อัลแบร์โต อาควิลานี กองกลางชาวอิตาลีออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นครั้งแรก ก่อนที่ "หงส์แดง" จะจิกชัยเหนือ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่เหลือ 10 คนในช่วงต้นครึ่งหลัง 2-0 ขยับขึ้นมารั้งที่ 7 แทน เบอร์มิงแฮม ซิตี
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ บ็อกซิงเดย์ วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม
ลิเวอร์พูล 2–0 วูล์ฟแฮมป์ตัน
คู่ดึกของวันบ็อกซิงเดย์ ลิเวอร์พูล เฝ้ารังแอนฟิลด์พบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน นัดนี้เจ้าบ้านไม่มี ฮาเวียร์ มาสเชราโน ที่ติดโทษแบนยาวจึงส่ง อัลแบร์โต อาควิลานี มิดฟิลด์อิตาเลียนค่าตัวแพงลงเป็นตัวจริงครั้งแรกในเกมลีก ขณะที่แนวรุกวาง สตีเวน เจอร์ราร์ด กับ เฟร์นานโด ตอร์เรส ไว้คอยข่มขวัญ ด้านทีมเยือนจัดระบบ 4-4-2 มาสู้โดยให้ ซิลแวน อีแบงค์ส-เบล็ค ยืนเป็นศูนย์หน้าร่วมกับ เควิน ดอยล์
เริ่มเกมเป็น “หงส์แดง” ที่เปิดฉากบุกกดดันก่อน นาทีที่ 5 เกล็น จอห์นสัน เติมขึ้นมายิงมุมแคบในเขตโทษ ลูกล้นออกหลังไปทางเสาสอง ถัดมานาทีเดียว ลูคัส เลวา จ่ายให้ ตอร์เรส แตะคืนมาที่ เจอร์ราร์ด กระทุ้งเต็มข้อถูก มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ ล้มตัวเซฟไว้ได้ จากนั้นนาทีที่ 7 ตอร์เรส หลอกล่อแล้วหาช่องกดเต็มๆ แต่ ฮาห์เนมันน์ ยังผวาปัดข้ามคานได้อีก
เวลาผ่านไป “หมาป่า” เริ่มตั้งลำได้ก่อนหาโอกาสตอบโต้จะแจ้งได้หลายครั้ง นาทีที่ 22 แม็ทธิว ยาร์วิส ผ่านเรียดให้ อีแบงค์ส-เบล็ค จับบอลแล้วหมุนตัวยิงไม่ผ่านมือ โฆเซ เรนา 2 นาทีให้หลัง เนนาด มิลิยาส ลองปั่นฟรีคิกกะให้เสียบใต้คาน แต่ เรนา ยังไม่เผลอปัดด้วยปลายนิ้วพ้นกรอบได้ทัน ก่อนที่ ดอยล์ จะได้โหม่งจ่อๆ จากลูกเตะมุมจังหวะต่อเนื่องข้ามคานอย่างน่าเสียดาย
เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรก ตอร์เรส มีโอกาสหลุดเดี่ยวเข้าไปชิปข้ามตัว ฮาห์เนมันน์ เสียบตาข่าย ทว่าถูกไลน์แมนยกธงจับล้ำหน้าจึงไม่ได้ประตู ผ่านมายังนาทีที่ 45 จอห์นสัน เติมเกมขึ้นมาก่อนปั๊มบอลกับ ยาร์วิส แล้วได้โอกาสกระทุ้งเต็มเหนี่ยว แต่ ฮาห์เนมันน์ ยังโชว์ซูเปอร์เซฟล้มตัวปัดออกไปได้ จบครึ่งแรกยังคงเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล เกือบเจาะตาข่ายได้สำเร็จในนาทีที่ 50 จากการยิงหน้าเขตโทษของ เจอร์ราร์ด แต่ยังถูก ฮาห์เนมันน์ พุ่งปัดไว้ได้ก่อนเสียบโคนเสา จากนั้น 2 นาทีต่อมา สตีเฟน วอร์ด แบ็กซ้ายวูล์ฟที่เพิ่งรับใบเหลืองหมาดๆ ไปทำฟาวล์ ลูคัส ทำให้ผู้ตัดสิน อังเดร มาริเนอร์ ชักใบเหลืองที่ 2 มาแจกเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม
ถึงนาทีที่ 62 สาวกหงส์แดงก็ได้เริงร่า เมื่อ เอมิเลียโน อินซัว พาบอลขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนโยนเข้ากลางให้ เจอร์ราร์ด โถมตัวเข้าโขกเต็มศีรษะเป็นสกอร์ 1-0 ก่อนที่ ยอสซี เบนายูน จะบวกเพิ่มเป็น 2-0 ในนาทีที่ 70 จากการเก็บตกในเขตโทษแล้วล็อกหาช่องยิงแฉลบขา คาร์ล เฮนรี หนีมือ ฮาห์เนมันน์ เข้าสู่ก้นตาข่าย
จากนั้นเจ้าบ้านค่อยๆ เปลี่ยนตัวทีละคน เริ่มจาก เดิร์ก เคาท์ ลงมาแทน ฟาบิโอ ออเรลิโอ ต่อด้วย ดานี ปาเชโก ลงมาสัมผัสเกมแทน อาควิลานี ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ปิดท้ายที่ เจย์ สเปียริง ลงสนามแทน เบนายูน ช่วงที่เหลือไม่มีการยิงประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล จึงคว้าชัยนิ่มๆ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 30 คะแนน แซง เบอร์มิงแฮม ซิตี ขึ้นมารั้งที่ 7 ได้สำเร็จ ส่วน วูล์ฟแฮมป์ตัน ยังคงอยู่อันดับ 15 ต่อไป มี 19 คะแนน
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฆเซ เรนา, เกล็น จอห์นสัน, เจมี คาร์ราเกอร์, ดาเนียล แอกเกอร์, เอมิเลียโน อินซัว, ลูคัส เลวา, อัลแบร์โต อาควิลานี, ยอสซี เบนายูน, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, เฟร์นานโด ตอร์เรส
วูล์ฟแฮมป์ตัน – มาร์คัส ฮาห์เนมันน์, ริชาร์ด สเตียร์แมน, โจดี แคร็ดด็อก, คริสตอฟ แบร์รา, สตีเฟน วอร์ด, เควิน โฟลีย์, คาร์ล เฮนรี, เนนาด มิลิยาส, แม็ทธิว ยาร์วิส, ซิลแวน อีแบงค์ส-เบล็ค, เควิน ดอยล์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เบอร์มิงแฮม ซิตี เสมอ เชลซี 0-0
ฟูแลม เสมอ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-0
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ชนะ ปอร์ทสมัธ 2-0 (อเลสซานโดร เดียมานติ 1-0 จุดโทษ นาที 23), (ราโดสลาฟ โควัช 2-0 นาที 89)
เบิร์นลีย์ เสมอ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 1-1 (แม็ทธิว เทย์เลอร์ 0-1 นาที 29), (เดวิด นิวเจนท์ 1-1 นาที 56)
แมนเชสเตอร์ ซิตี ชนะ สโต๊ค ซิตี 2-0 (มาร์ติน เปตรอฟ 1-0 นาที 28), (คาร์ลอส เตเบซ 2-0 นาที 45)
ซันเดอร์แลนด์ เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 (ดาร์เรน เบนท์ 1-0 นาที 17), (มารูยาน เฟลลายนี 1-1 นาที 85)
วีแกน แอธเลติก เสมอ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-1 (เบนนี แม็คคาร์ธี 0-1 นาที 30), (ฮูโก โรดาเยกา 1-1 นาที 53)
ลิเวอร์พูล ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 (สตีเวน เจอร์ราร์ด 1-0 นาที 62), (ยอสซี เบนายูน 2-0 นาที 70)