เรื่อง สวรรยา ทรัพย์ทวี
หลังจาก ฮี วอน ฮาน คว้าแชมป์ในปี 2006 ซูซาน แพตเทอร์สัน ครองโทรฟี่ในปี 2007 และ ลอเรน่า โอชัว นักกอล์ฟหญิงหมายเลขหนึ่งโลก เดินทางมาพิชิตชัยเมื่อปีล่าสุดบนสนามสยามคันทรี่ คลับ แต่เป็นฝั่งเพลนเทชั่น และในปีนี้ปฏิทินแอลพีจีเอ ทัวร์ ได้ประกาศให้สนามดวลวงสวิงของโปรหญิงเปิดฤดูกาลในเมืองไทย บนสนามสยามคันทรี่ คลับ พัทยาหากแต่เปลี่ยนไปยัง โอลด์ คอร์ส สนามที่ได้รับการกล่าวขานว่าอยู่ในระดับท้อป 5 ของสนามกอล์ฟในเอเชีย
ความน่าสนใจของทัวร์นาเมนท์ ฮอนดา - พีทีที แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2010 ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เงินรางวัลจำนวน 1.3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 45.5 ล้านบาท) เท่านั้นหากชื่อชั้นของโปรสาวที่เข้าร่วมล้วนเป็นบิ๊กเนม ที่แฟนกอล์ฟหลายท่านคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยผู้เขียนมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณพิษณุ นิลกลัด ที่โรงแรมดุสิต ธานีพัทยา ซึ่งคุณพิษณุ นั้นนอกจากจะเป็นผู้บรรยายการแข่งขันตลอดทั้ง 4 วันในรายการนี้แล้ว ยังเป็นผู้คอยประสานในทัวร์นาเม้นท์เนื่องจากสถานีกองทัพบกช่อง 7 นั้นเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขัน
ทั้งนี้คุณพิษณุ กล่าวถึงทัวร์นาเมนท์แอลพีจีเอซึ่งเกิดขึ้นเป็นรายการแรกในเมืองไทยตั้งแต่ปี 2006 ว่ามีพัฒนาการชนิดกราฟขาขึ้นเพราะไม่เพียงแต่ รายชื่อโปรหญิงที่ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันจะมีความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นทุกปี จำนวนของผู้ชมก็เรียกได้ว่าเป็นที่ชื่นใจของผู้จัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2009 ที่ ลอเรน่า โอชัว มาคว้าแชมป์บนสนามเพลนเทชั่นนั้น รายงานตัวเลขของผู้ชมอย่างเป็นทางการระบุว่า มีจำนวนมากกว่าทัวร์นาเม้นท์ที่ไทเกอร์ วูดส์ มาเยือนเมืองไทยเมื่อปี 2000 เสียด้วยซ้ำไป
สำหรับการแข่งขันในปี 2010 คุณพิษณุ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า "นักกอล์ฟสตรีที่ตอบรับการแข่งขันนั้นมากันเกือบครบในระดับท้อป 50 ของโลกขาดเพียงอันดับที่ 42 แต่ได้ จูลี่ย์ อิงค์สเตอร์ในอับดับที่ 51 มาแทน ซึ่งต้องบอกว่าเป็นการดีเพราะมีชื่อเสียงดังกว่าอันดับที่ 42 ของแรงกิ้งเสียอีก" และในฐานะผู้บรรยาย คุณพิษณุ ยังได้กล่าวถึงสนาม พัทยา คันทรี่ คลับ โอลด์คอร์สว่า "ปีนี้เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับการแข่งขันเพราะสนามได้ทำการปรับปรุงใหม่เพิ่มความท้าทายให้กับเหล่าโปรสตรีจากแอลพีจีเอทัวร์ ที่สำคัญไม่มีใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบใคร" เมื่อผู้เขียนถามคุณพิษณุในฐานะที่คลุกคลีอยู่ในวงการกอล์ฟมานานว่า มองใครจะเป็นแชมป์ไว้ในใจหรือไม่ ผู้บรรยายชื่อดังกล่าวว่า
"อันที่จริงแล้วอันดับ 1-10 ของโลกที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น ลอเรนา โอชัว(1) ชิน จี ไย (2) ซูซาน แพตเทอร์สันแชมป์เก่าปี 2007 คริสตี้ เคอร์ (5) พอลล่า เครเมอร์ หรือ แม้แต่ มิเชล วี (10) พวกนี้ล้วนแล้วมีฝีมือที่สูสีกันทั้งสิ้น เพราะแชมป์เก่าอย่าง โอชัว นั้นแม้ว่าปี 2009 จะมีชัยที่สนามสยามคันทรี่ คลับ พัทยามาก็จริง แต่เป็นชัยชนะบนสนามแพลนเทชั่น แต่ปีนี้เมื่อย้ายมาแข่งกันที่ โอลด์คอร์ส แน่นอนว่าสภาพแฟร์เวย์ สภาพกรีน นั้นแตกต่างไปทำให้โอกาสของ คนที่เป็นแชมป์มาก่อน หรือ เพิ่งมาแข่งครั้งแรกมีโอกาสเท่ากัน"
การแข่งขันครั้งนี้นอกจากสวิงสาวชื่อดังทั้ง ลอเรน่า โอชัว พอลล่า เครเมอร์ คริสติน่า คิม และ นาตาลี กูลบิส จะยังคงเป็นดาวเด่นของทัวร์นาเม้นท์แล้ว ฝ่ายจัดการแข่งขันยังได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการกอล์ฟไทยเมื่อ มิเชล วี โปรสาวเชื้อสายเกาหลี สัญชาติอเมริกันตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันรายการแรกของปี 2010 ที่สำคัญสาวน้อยวัย 20 ปีเดินทางมาเตรียมตัวพร้อมคุณพ่อ บีเจ และ คุณแม่โบ ก่อนการแข่งขันเกือบหนึ่งสัปดาห์ ซึ่งคุณพิษณุแสดงความคิดเห็นกับผู้เขียนว่า "ที่ มิเชล วีเดินทางมาก่อนการแข่งขันนั้นอย่าไปคิดว่าเธอจะมาเพื่อพักผ่อน ไม่ตั้งใจเล่นอย่างจริงจัง แต่งานนี้เธอตั้งใจมากที่จะมาเพื่อคว้าแชมป์ เพราะ วี ไม่เคยเล่นสนามในภูมิภาคนี้มาก่อน ต้องมีการปรับตัวกับสภาพอากาศ และศึกษาสภาพสนามอย่างละเอียด"
"เห็นได้ชัดจากการเดินทางไปสำรวจสนามของ บีเจ วี กับแคดดี้ ทันที่ที่มาถึงเมืองไทย ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเขาสามารถพักผ่อนสักวันสองวันก่อนก็ได้ แต่ บีเจ เดินทางไปยังสนามทันทีทั้งที่เดินทางมาถึงเมืองไทยและเพิ่งเช็คอินเข้านอนไปเมื่อตอนเที่ยงคืนเศษของวันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์" ส่วนโปรสาวรายอื่นที่เดินทางมาถึงก่อนหน้านี้ ต่างก็ลงสนามซ้อมกันทันทีเช่นกัน รวมไปถึงพอลล่า เครเมอร์ ที่ชื่นชอบรายการนี้มากเพราะนอกจากจะได้เข้าร่วมการแข่งขันที่มีโปรสาวได้ทั้งเงินค่าปรากฎตัว มีเงินรางวัลให้ชิงกว่า 45.5 ล้านบาทแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อของพัทยาไว้ผ่อนคลายหลังจากจบการแข่งขันด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ คุณพิษณุ สรุปกับผู้เขียนก่อนแยกไปรับนักกอล์ฟที่เดินทางมาถึงว่า
"การจัดการแข่งขันให้ประสบความสำเร็จและมีนักกอล์ฟชื่อดังเข้าร่วมรายการนั้น เรามีแนวคิดว่าสนามต้องดี ชีวิตกลางคืนสนุก ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ ฮอนด้า - พีทีที แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2010 ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นทุกปี"