นี่คือปีที่ 55 ของการแข่งขันกอล์ฟเมเจอร์ของฟากแอลพีจีเอ รายการ แมคโดนัลด์ส แอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิปและจะเป็นปีสุดท้ายที่ธุรกิจฟาสต์ฟู้ดชื่อดังของสหรัฐอเมริกาจะให้ความสนับสนุนการแข่งขันโดยในปีหน้าชื่อของการแข่งขันจะเปลี่ยนไปตามสปอนเซอร์ของรายการ
แต่ถึงแม้จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น หากรายการชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 70 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) อันเป็นเมเจอร์รายการที่สองของแอลพีจีเอ ซึ่งจัดขึ้นบนสนามบูลล์ ร็อก กอล์ฟ คอร์ส ระหว่างวันที่ 11-14 มิถุนายน 2009 ยังคงเต็มไปด้วยความสีสันของเหล่าสวิงสาวโดยเฉพาะดาวดวงเด่นที่สปอตไลท์ของสื่อคอยฉายจับต่างจับหัวไม้ลงซ้อมกันกันอย่างคึกคัก
โดยภายหลังจากทดสอบแฟร์เวย์ที่ยาวขึ้นและยากขึ้นกว่าปีที่แล้วของ บูลล์ ร็อกเป็นที่เรียบร้อยบรรดาดาวดังต่างทยอยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนและเมื่อประมวลความน่าจะเป็นของตัวเต็งแชมป์ปีนี้แล้วมีอยู่สี่สาวที่น่าจับตามองที่สุดในรายการนี้ ประกอบไปด้วยแชมป์เก่าของรายการเจ้าของตำแหน่ง “โปรหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมประจำปี 2008” เจิง หยาหนี ขณะที่นักกอล์ฟหญิงหมายเลขหนึ่งโลก ลอเรน่า โอชัว ที่พักยาวไปประมาณสองสัปดาห์กลับมาสู่สังเวียนสวิงอีกครั้ง และที่ขาดไม่ได้คือสองสาวที่หยุดทุกสายตา พอลล่า เครเมอร์ ที่ยังคงต้องตอบคำถามว่าเมื่อไรจะได้เมเจอร์แรกของตนเอง และ มิเชล วี สวิงดาวรุ่งที่หลายคนอยากเห็นเธอได้จุมพิตบนโทรฟี่อาชีพสักที
เจิง หยาหนี ซึ่งเป็นนักกอล์ฟรายแรกที่ให้สัมภาษณ์หลังออกรอบซ้อมเป็นที่เรียบร้อยเธอกล่าวถึงการกลับมาป้องกันตำแหน่งแชมป์เมเจอร์แรกของตนเองบนสนาม "บูลล์ ร็อค" ว่า "รู้สึกตื่นเต้นที่ได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง เพราะเมื่อปีที่แล้วสนามแห่งนี้คือความทรงจำที่ดีที่สุดในฐานะนักกอล์ฟแม้ว่าการปรับสนามในปีนี้จะยากกว่าปีที่แล้วแต่แฟร์เวย์ มีความสมบูรณ์มากสำหรับฉันแล้วสภาพแบบนี้ถือว่าดีมาก”
ขณะเดียวกัน หยาหนี ยังกล่าวถึงประสบการณ์ที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยของตนเองนับตั้งแต่คว้าแชมป์เมเจอร์มาครองได้สำเร็จว่า “การคว้าตำแหน่งแชมป์แมคโดนัลด์ ได้สำเร็จในปี 2008 ทำให้ฉันได้รับบทเรียนในฐานะนักกอล์ฟอาชีพมาอย่างมากมาย และกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เกิดพัฒนาการทำให้ฉันสามารถลงสนามด้วยความมั่นใจ และหวังว่าปีนี้สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วจะเกิดขึ้นกับฉันอีกครั้ง”
ส่วนลอเรน่า โอชัว โปรหญิงหมายเลขหนึ่งของโลกซึ่งหยุดพักไปประมาณ 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ได้กล่าวถึงการลงสนามเมเจอร์ของตนเองพร้อมกับความคาดหวังที่จะได้เห็นเธอครองแชมป์เมเจอร์เป็นรายการที่สามว่า "แน่นอนว่าเวลานี้ฉันกำลังมองหาแชมป์เมเจอร์รายการที่สามให้กับตนเอง และบางทีอาจเป็นรายการนี้ก็ได้ถ้าผลงานของฉันในช่วง 4 วันนี้จะเล่นได้อย่างแน่นอนตามมาตรฐานของตนเองซึ่งดูจากสภาพสนามที่สมบูรณ์ทุกอย่างแล้ว ศึกครั้งนี้น่าจะตัดสินกันที่ลูกบนกรีน และสภาพอากาศว่าพวกเราทั้งหมดจะเจอกับอุปสรรคแบบใดและใครจะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีกว่ากัน”
ทางด้าน พอลล่า เครเมอร์ เจ้าของฉายา “พิงค์แพนเตอร์” กล่าวถึงการลงสนามเมเจอร์พร้อมกับแบกรับความกดดันที่ว่าเมื่อใดจะถึงเวลาเมเจอร์แรกของตนเองเสียที "โดยส่วนตัวแล้วฉันก็พอเข้าใจที่พวกเขาตั้งคำถามแบบนั้น แต่สำหรับตัวเองคำถามดังกล่าวไม่ได้ทำให้รู้สึกกดดันแต่อย่างใดเพราะรู้ดีว่าการลงสนามของตนเองต้องพบกับคู่แข่งที่มีฝีมือด้วยกันทั้งสิ้น และฉันเชื่อว่าทุกอย่างจะสมบูรณ์พร้อมได้ขึ้นอยู่กับเวลา ถ้าจะว่าไปปีนี้เพิ่งจะอายุ 22 ปี เล่นกอล์ฟอาชีพมาได้เพียง 5 ปี โอกาสที่จะคว้าแชมป์เมเจอร์ยังมีอยู่อีกมาก”
ส่วนสาวน้อยมหัศจรรย์ มิเชล วี ที่ปีนี้ลงสนามอาชีพชนิดเต็มทั้งฤดูกาล กล่าวถึงการลงสนามเมเจอร์และโอกาสที่จะได้เห็นเธอคว้าแชมป์อาชีพมาครองเป็นรายการแรกว่า "ปีนี้ฉันรู้สึกมีความสุขมากในฐานะนักกอล์ฟอาชีพ ได้เล่นในทัวร์นาเม้นท์ที่ไม่เคยได้ลงสนามมาก่อน ที่สำคัญฤดูกาลนี้คือฤดูกาลที่ฉันได้ปรับปรุงและพัฒนาเกมของตนเองจนเป็นที่น่าพอใจ แต่การคว้าแชมป์แรกในฐานะนักกอล์ฟอาชีพนั้น มันเหมือนกับความท้าทายอย่างที่สุดสำหรับโปรหน้าใหม่ทุกคน แชมป์แรกของฉันในฐานะนักกอล์ฟอาชีพจะเกิดขึ้นเมื่อใดคงบอกไม่ได้ว่าเมื่อไร แต่ฉันก็จะพยายามทำทุกผลงานให้ดีที่สุด”
ทั้งหมดนี้คือสี่ฝันของสี่สาวแห่งวงการกอล์ฟหญิงบนสนามการแข่งขันเมเจอร์รายการที่สองของปี “แมคโดนัลด์ส แอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิป” ซึ่งคนที่จะทำฝันให้ประสบความสำเร็จแน่นอนว่าต้องมีเพียงรายเดียวส่วนจะเป็นใครนั้นวันสุดท้ายของการแข่งขันจะเฉลยคำตอบที่ทุกคนอยากรู้ได้อย่างชัดเจน