ศึก เอฟเอ คัพ ฟุตบอลถ้วยอันเก่าแก่ที่สุดในโลกของ อังกฤษ ฤดูกาลนี้มีอันกร่อยตั้งแต่หัววันเมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล ชิงกอดคอกันตกรอบไปแล้ว เวลานี้ห้ำหั่นกันจนมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่เอกคือการพบกันของ แมนเชสเตอร์ ซิตี พบกับ สโต๊ก ซิตี ในวันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ แม้จะเป็นถ้วยแห่งอาถรรพ์แต่ว่าตำนาน "แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์" อาจจะหมดสิทธิ์อาละวาดในรอบนี้
แมนฯซิตี พบ สโต๊ก เวลา 00.15น.
หลังจากสะดุดแพ้ ฮัลล์ ซิตี ลูกทีมของ โรแบร์โต มันชินี ก็คืนฟอร์มเก่งในเกมลีกเมื่อวันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาด้วยการสอนบอล โบลตัน วันเดอเรอร์ส 2-0 พร้อมกับขยับขึ้นมารั้งอันดับ 5 มี 44 คะแนนเท่ากับ ลิเวอร์พูล แต่ลูกได้-เสียแย่กว่า อย่างไรก็ตามยังแข่งน้อยกว่าอีกหนึ่งนัด "เรือใบสีฟ้า" ต้องพักเป้าหมาย ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ชั่วคราวเพื่อมาลุ้นคว้าโทรฟีแชมป์เป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปี หลังจากเพิ่งอกหักตกรอบรองชนะเลิศ คาร์ลิง คัพ มาหมาดๆ
เกมนี้ มันชินี น่าจะมีการหมุนเวียนนักเตะ ดาวรุ่งอย่าง เดเร็ค โบยาตา เนดุม โอนัวฮา น่าจะได้รับโอกาส แต่อาจจะมีรุ่นพี่อย่าง สตีเฟน ไอร์แลนด์ และ มาร์ติน เปตรอฟ ที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมล่าสุดลงมาประคอง ทว่าในรายของ เคร็ก เบลลามี กองหน้าความเร็วสูง ต้องเช็กสภาพความฟิตเนื่องจากมีปัญหาเจ็บหัวเข่า แต่ไม่น่ามีปัญหาเพราะกุนซือชาวอิตาเลี่ยน มีตัวเลือกมากมาย แถมยังเปิดโอกาสให้แข้งใหม่ๆ แจ้งเกิด ซึ่งไม่มีให้เห็นในยุคของ มาร์ค ฮิวจ์ส
ทางฝั่ง สโต๊ก ฟอร์มยังคงลุ่มๆ ดอนๆ ในเกมลีกโดน แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ยำใหญ่ 0-3 ก่อนที่เมื่อกลางสัปดาห์จะบุกไปยันเสมอ วีแกน แอธเลติก 1-1 ซึ่งในศึก เอฟเอ คัพ รอบก่อนหน้านี้ผ่าน อาร์เซนอล มาได้ด้วยสกอร์สวยหรู 3-1 แต่ทว่า "ปืนโต" ส่งนักเตะตัวสำรองค่อนทีม เกมไปเยือนรัง แมนฯซิตี นักเตะของทีมเยือนคงเป็นหน้าเดิมๆ อย่าง ตูนกาย ซานลี ริคาร์โด ฟูลเลอร์ แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน และ ดีน ไวท์เฮด เนื่องจากทรัพยากรนักเตะให้หมุนเวียนน้อยเหลือเกิน
สโต๊ก ถือเป็นทีมที่เก่งเฉพาะในบ้านเท่านั้น นัดนี้ต้องออกไปเยือนมีปัญหาแน่นอน มิหนำซ้ำยังเป็นรัง เดอะ ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดียม อีกด้วย โทนี พูลิส กุนซือ "ช่างปั้นหม้อ" คงจะกำชับลูกทีมเกี่ยวกับแท็กติกเน้นตั้งรับรอจังหวะเล่นลูกเซตพีซที่จะใช้ความแข็งแกร่งและลูกหนักเข้าทำ ซึ่งก็เหมือนเป็นการประวิงเวลารอเสียประตูอย่างเดียว ซึ่งสุดท้าย แมนฯซิตี ที่มีจังหวะทีเด็ดทีขาดและความหลากหลายในแนวรุกมากกว่าน่าจะเบียดเอาชนะไปได้
เรือฉิ่ว 3-2
วันเสาร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ 2553
เชลซี พบ คาร์ดิฟฟ์ เวลา 19.00น.
เชลซี โชคดีเจอคู่ต่อสู้อ่อนชั้นกว่ามาโดยตลอด เกมนี้ก็เช่นเดียวกันแถมยังได้เล่นในรังเจอกับทีมอันดับ 4 จาก เดอะ แชมเปียนชิป เจ้าถิ่นคงมีการปรับทัพสมควร แต่ชั้นบอลค่อนข้างห่าง แนวรุกของ คาร์ดิฟฟ์ ทั้ง ไมเคิล โชปรา และ เจย์ โบธรอยด์ คงจะซ่าไม่ออก สุดท้ายทีมเยือนคงจะพ่ายไปแบบไร้ทางสู้
เชลซียำ 4-0
เซาแธมป์ตัน พบ ปอร์ทสมัธ เวลา 19.30น.
ศึกดาร์บีแมตช์แดนใต้ แต่ต่าง ดิวิชัน กัน แม้ว่า ปอร์ทสมัธ จะอยู่ใน พรีเมียร์ชิป แต่ว่ารั้งบ๊วยแถมต้องไปเยือนด้วย จึงไม่ได้ดูเหนือกว่า เซาแธมป์ ทีมกลางตารางของ ลีก วัน มากนัก เกมนี้เสี่ยงอยู่ฝั่งเจ้าถิ่นที่มีทั้ง ริชาร์ด แลมเบิร์ต และ อดัม ลัลลานา แนวรุกที่ฟอร์มกำลังเข้าฝักน่าจะมีลุ้นมากกว่า
นักบุญสอย 2-1
ดาร์บี พบ เบอร์มิงแฮม เวลา 22.00น.
แม้จะมีสะดุดบ้างแต่ฟอร์มยังไม่หลุด แถมรอบที่แล้วยังบุกไปเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ได้ด้วย ดาร์บี มีตัวเก๋าอย่าง ร็อบ เฮาล์ส พอล ดิ๊กคอฟ และ ร็อบบี ซาเวจ แต่คงจะต้านยากเนื่องจาก "ลูกโลก" เวลานี้ลงตัวเหลือเกินขาดแค่แนวรุกไม่ค่อยคม แต่เกมนี้คงจะบุกไปเอาชนะได้อย่างแน่นอน
ลูกโลกเฉือน 0-1
เรดดิง พบ เวสต์ บรอมฯ เวลา 22.00น.
เรดดิง เขี่ยทั้ง ลิเวอร์พูล และ เบิร์นลีย์ ตกรอบมาก่อนหน้านี้ ดังนั้นคงจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญเสียแล้ว แต่นัดนี้เจอทีมจากเวทีเดียวกันแถมอันดับดีกว่าด้วย เวสต์ บรอมฯ มีเกมรุกที่น่ากลัวใช้ได้แถมยิงประตูได้จากทุกตำแหน่งไม่ว่าจะเป็นกองหน้าหรือกองกลาง กัดฟันอยู่ฝั่งทีมเยือนอาจจะมีลุ้นกว่า
เวสต์ บรอมฯ อัด 1-2
วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553
โบลตัน พบ สเปอร์ส เวลา 20.30น.
ช่วงหลัง สเปอร์ส เริ่มมีปัญหาเจาะไม่เข้าเวลาเจอทีมที่มาเน้นรับแบบเต็มตัว มิหนำซ้ำ โบลตัน เล่นในบ้านเจอทีมระดับไม่ต่างกันมากถือว่าทำผลงานใช้ได้ หากทีมเยือนบุกเพลินๆ อาจจะโดนจังหวะฉาบฉวยของเจ้าถิ่นเล่นงานเอาได้ เกมนี้อาจจะจบด้วยผลเสมอและต้องไปรีเพลย์กันอีกหนึ่งนัด
เจ๊า 1-1
ฟูแลม พบ น็อตต์ส เคาน์ตี เวลา 22.00น.
ฟูแล่ม เพิ่งถล่ม เบิร์นลีย์ ในเกมลีกเมื่อกลางสัปดาห์มา 3-0 น่าจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้บ้าง หลังจากสะดุดไปหลายนัดเนื่องจากแนวรุกอย่าง แอนดรูว์ จอห์นสัน เจ็บต้องพักยาว อย่างไรก็ตามการเข้าทำจากแถวสองอย่าง เดเมี่ยน ดัฟฟ์ และ แดนนี เมอร์ฟีย์ ยังดูดีกว่า น็อตต์ส เคาน์ตี เจ้าน่าจะกำชัยไปได้แต่รับรองลิ้นห้อยแน่
เจ้าสัวกำชัย 2-1
คริสตัล พาเลซ พบ วิลลา เวลา 22.45น.
ฤดกาลนี้ วิลลา ทำผลงานในบอลถ้วยได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการจัดตัวของ มาร์ติน โอนีลล์ ที่เหมือนจะเน้นแบบสุดๆ นาธาน เดลฟูเนโซ หัวหอกดาวรุ่งมักจะยิงได้ทุกนัดที่ได้รับโอกาส นัดนี้ พาเลซ เล่นในถิ่น เซลเฮิร์สท์ ปาร์ค แข็งแกร่งก็จริง แต่สุดท้ายแล้วทีมเยือนน่าจะบุกมากำชัยกลับบ้านแบบหืดจับ
วิลลาเฉือน 1-2