"ช่างปั้นหม้อ" สโตก ซิตี หืดจับทีเดียวกว่าจะเปิดบ้านเบียดเอาชนะ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแลม 3-2 ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดตกค้างประจำคืนวันอังคารที่ 5 มกราคม 2553
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สโตก ซิตี 3-2 ฟูแลม
โทนี พูลิส มีปัญหาในการจัดทัพ "ช่างปั้นหม้อ" สโตก ซิตี ทำศึกเกมนัดตกค้างเล็กน้อยเมื่อ โธมัส โซเรนเซน นายทวารจอมหนึบไม่ฟิตต้องส่ง สตีฟ ซิมอนเซน เฝ้าเสาแทน แต่แผงหลังก็ได้ ไรอัน ชอว์ครอสส์ พ้นแบนกลับมา แดนหน้าวาง มามาดี ซิดิบี ล่าตาข่ายร่วมกับ ตุนกาย ซานลี ด้าน "เจ้าสัวน้อย" ฟูแลม ภายใต้การคุมทีมของ รอย ฮ็อจด์สัน มีข่าวดีเมื่อ เบรเด ฮันเกลันด์ ปราการหลังตัวแกร่งฟิตคืนสนาม แนวรุกก็ให้ แอนดรูว์ จอห์นสัน ประสานงานกับ บ็อบบี ซาโมรา กองหน้าฟอร์มร้อนแรง
เริ่มการแข่งขัน สโตก ซิตี เดินหน้าบุกใส่ก่อน นาทีที่ 2 แฟนๆ เจ้าถิ่นต้องเฮเก้อเมื่อ ตุนกาย ซานลี ลงมาล้วงบอลก่อนแทงทะลุให้ มามาดี ซิดิบี ทิ่มต่อ แม็ทธิว เอเธอริงตัน หลุดเข้าไปซัดบอลผ่านมือ มาร์ค ชวาร์เซอร์ เข้าไปทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าปีก "ช่างปั้นหม้อ" เสียก่อน เก้านาทีถัดมา ฟูแลม บี้ขึ้นมาบ้างจนได้ลูกฟรีคิกกลางประตูระยะประมาณ 25 หลา แดนนี เมอร์ฟีย์ ตะบันเรียดด้วยขวาบอลพุ่งลอดใต้กำแพงมนุษย์ที่กระโดดขึ้นไปกะบล็อก หลุดเสาออกไปแบบได้ลุ้น
แต่ถึงนาทีที่ 12 เจ้าบ้านดันขึ้นมาและก็ได้ลูกเตะมุม เอเธอริงตัน ปั่นเข้ามาให้ โรเบิร์ต ฮูธ โหม่งไปเสาสอง ตุนกาย โขกต่อจ่อๆ สุดปัญญาที่ ชวาร์เซอร์ จะปัดป้องไว้ได้ สโตก ออกนำ 1-0 เจ้าถิ่นเดินเกมต่ออย่างคึกคัก เอเธอริงตัน เปิดให้ ซิดิบี พักบอลในกรอบโทษก่อนหมุนตัวยิงไปตรงตัวนายทวารทีมเยือน เกมบี้กันอยู่พักใหญ่ นาทีที่ 34 "ช่างปั้นหม้อ" ก็หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เอเธอริงตัน เปิดฟรีคิกด้วยซ้ายจากทางกราบขวาเข้าไปให้ อับดูลาย ฟาย พุ่งสไลด์ยิงระยะแค่ 5 หลาเข้าประตูไป สามนาทีถัดมา ทำนบเกมรับของ "เจ้าสัวน้อย" แตกอีกครั้ง เมื่อ ฮิกกินบ็อตแธม เติมขึ้นมาโขกตั้งให้ ซิดิบี เอี้ยวตัววอลเลย์ส่งลูกหนังซุกก้นตาข่ายอย่างสวยงาม สกอร์ไหลเป็น 3-0 เมื่อจบครึ่งแรก
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง ฟูแลม ดาหน้าบุกใส่หวังทวงประตูตีไข่แตกให้เร็วที่สุด แต่ผ่านไป 10 นาทีทีมจากลอนดอนก็ต้องถอด บ็อบบี ซาโมรา ที่เจ็บไหล่ขวาออกมาพร้อมกับเติม คลินท์ เดมป์ซีย์ ไปช่วยเกมรุก นาทีที่ 56 ทีมเยือนได้ฟรีคิกทางกราบขวา เดเมียน ดัฟฟ์ ปั่นด้วยซ้ายบอลข้ามคานแบบได้เสียวเหมือนกัน หลังบี้อยู่พักใหญ่ "เจ้าสัวน้อย" ไล่มา 1-3 จนได้ในนาทีที่ 61 เมื่อ ดัฟฟ์ ซัดจากนอกกรอบด้วยซ้ายข้างถนัดบอลแฉลบเท้า ไรอัน ชอว์ครอสส์ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป สตีฟ ซิมอนเซน ได้แต่ป้องกันด้วยสายตาเท่านั้น
เมื่อเกมดูจะเป็นรอง โทนี พูลิส ต้องปรับหมากส่ง เกล็น วีแลน มาช่วยไล่แดนกลางแทน รอรี ดีแลป ที่ดูหายไปจากเกม เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ฟูแลม ยังคงโหมต่อไป พอล คอนเชสกี สาดบอลยาวจากแดนหลังไปในเขตโทษให้ เดมป์ซีย์ จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนซัดเหินข้ามคานออกไป แต่ถึงนาทีที่ 85 ทีมเยือนได้ประตูไล่มาเหลือแค่ 2-3 เมื่อ เอริค เนฟแลนด์ อีกหนึ่งตัวสำรองโขกต่อให้ เดมป์ซีย์ ซัดลูกใบไม้ร่วงระยะกว่า 35 หลาบอลลอยพ้นการปัดของ ซิมอนเซน เข้าไปอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ครบ 90 นาทีไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มกันได้ จากชัยชนะนัดนี้ทำให้ สโตก มีเพิ่มเป็น 24 คะแนนจากการเตะ 20 นัด ขึ้นมาอยู่ที่ 10 ของตาราง ตามหลัง "เจ้าสัวน้อย" อันดับ 9 แค่สามแต้มเท่านั้น
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
สโตก : สตีฟ ซิมอนเซน , โรเบิร์ต ฮูธ , อับดูลาย ฟาย , ไรอัน ชอว์ครอสส์ , แดนนี ฮิกกินบ็อตแธม , เลียม ลอว์เรนซ์ , รอรี ดีแลป , ดีน ไวท์เฮด , แม็ทธิว เอเธอริงตัน , มามาดี ซิดิบี , ตุนกาย ซานลี
ฟูแลม : มาร์ค ชวาร์เซอร์ , สตีเฟน เคลลี , อารอน ฮิวจ์ส , เบรเด ฮันเกลันด์ , พอล คอนเชสกี , เดเมียน ดัฟฟ์ , แดนนี เมอร์ฟีย์ , คริส แบร์ด , โซลตัน เกรา , บ็อบบี ซาโมรา , แอนดรูว์ จอห์นสัน
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สโตก ซิตี 3-2 ฟูแลม
โทนี พูลิส มีปัญหาในการจัดทัพ "ช่างปั้นหม้อ" สโตก ซิตี ทำศึกเกมนัดตกค้างเล็กน้อยเมื่อ โธมัส โซเรนเซน นายทวารจอมหนึบไม่ฟิตต้องส่ง สตีฟ ซิมอนเซน เฝ้าเสาแทน แต่แผงหลังก็ได้ ไรอัน ชอว์ครอสส์ พ้นแบนกลับมา แดนหน้าวาง มามาดี ซิดิบี ล่าตาข่ายร่วมกับ ตุนกาย ซานลี ด้าน "เจ้าสัวน้อย" ฟูแลม ภายใต้การคุมทีมของ รอย ฮ็อจด์สัน มีข่าวดีเมื่อ เบรเด ฮันเกลันด์ ปราการหลังตัวแกร่งฟิตคืนสนาม แนวรุกก็ให้ แอนดรูว์ จอห์นสัน ประสานงานกับ บ็อบบี ซาโมรา กองหน้าฟอร์มร้อนแรง
เริ่มการแข่งขัน สโตก ซิตี เดินหน้าบุกใส่ก่อน นาทีที่ 2 แฟนๆ เจ้าถิ่นต้องเฮเก้อเมื่อ ตุนกาย ซานลี ลงมาล้วงบอลก่อนแทงทะลุให้ มามาดี ซิดิบี ทิ่มต่อ แม็ทธิว เอเธอริงตัน หลุดเข้าไปซัดบอลผ่านมือ มาร์ค ชวาร์เซอร์ เข้าไปทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าปีก "ช่างปั้นหม้อ" เสียก่อน เก้านาทีถัดมา ฟูแลม บี้ขึ้นมาบ้างจนได้ลูกฟรีคิกกลางประตูระยะประมาณ 25 หลา แดนนี เมอร์ฟีย์ ตะบันเรียดด้วยขวาบอลพุ่งลอดใต้กำแพงมนุษย์ที่กระโดดขึ้นไปกะบล็อก หลุดเสาออกไปแบบได้ลุ้น
แต่ถึงนาทีที่ 12 เจ้าบ้านดันขึ้นมาและก็ได้ลูกเตะมุม เอเธอริงตัน ปั่นเข้ามาให้ โรเบิร์ต ฮูธ โหม่งไปเสาสอง ตุนกาย โขกต่อจ่อๆ สุดปัญญาที่ ชวาร์เซอร์ จะปัดป้องไว้ได้ สโตก ออกนำ 1-0 เจ้าถิ่นเดินเกมต่ออย่างคึกคัก เอเธอริงตัน เปิดให้ ซิดิบี พักบอลในกรอบโทษก่อนหมุนตัวยิงไปตรงตัวนายทวารทีมเยือน เกมบี้กันอยู่พักใหญ่ นาทีที่ 34 "ช่างปั้นหม้อ" ก็หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เอเธอริงตัน เปิดฟรีคิกด้วยซ้ายจากทางกราบขวาเข้าไปให้ อับดูลาย ฟาย พุ่งสไลด์ยิงระยะแค่ 5 หลาเข้าประตูไป สามนาทีถัดมา ทำนบเกมรับของ "เจ้าสัวน้อย" แตกอีกครั้ง เมื่อ ฮิกกินบ็อตแธม เติมขึ้นมาโขกตั้งให้ ซิดิบี เอี้ยวตัววอลเลย์ส่งลูกหนังซุกก้นตาข่ายอย่างสวยงาม สกอร์ไหลเป็น 3-0 เมื่อจบครึ่งแรก
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง ฟูแลม ดาหน้าบุกใส่หวังทวงประตูตีไข่แตกให้เร็วที่สุด แต่ผ่านไป 10 นาทีทีมจากลอนดอนก็ต้องถอด บ็อบบี ซาโมรา ที่เจ็บไหล่ขวาออกมาพร้อมกับเติม คลินท์ เดมป์ซีย์ ไปช่วยเกมรุก นาทีที่ 56 ทีมเยือนได้ฟรีคิกทางกราบขวา เดเมียน ดัฟฟ์ ปั่นด้วยซ้ายบอลข้ามคานแบบได้เสียวเหมือนกัน หลังบี้อยู่พักใหญ่ "เจ้าสัวน้อย" ไล่มา 1-3 จนได้ในนาทีที่ 61 เมื่อ ดัฟฟ์ ซัดจากนอกกรอบด้วยซ้ายข้างถนัดบอลแฉลบเท้า ไรอัน ชอว์ครอสส์ เปลี่ยนทางเข้าประตูไป สตีฟ ซิมอนเซน ได้แต่ป้องกันด้วยสายตาเท่านั้น
เมื่อเกมดูจะเป็นรอง โทนี พูลิส ต้องปรับหมากส่ง เกล็น วีแลน มาช่วยไล่แดนกลางแทน รอรี ดีแลป ที่ดูหายไปจากเกม เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ฟูแลม ยังคงโหมต่อไป พอล คอนเชสกี สาดบอลยาวจากแดนหลังไปในเขตโทษให้ เดมป์ซีย์ จับบอลหนึ่งจังหวะก่อนซัดเหินข้ามคานออกไป แต่ถึงนาทีที่ 85 ทีมเยือนได้ประตูไล่มาเหลือแค่ 2-3 เมื่อ เอริค เนฟแลนด์ อีกหนึ่งตัวสำรองโขกต่อให้ เดมป์ซีย์ ซัดลูกใบไม้ร่วงระยะกว่า 35 หลาบอลลอยพ้นการปัดของ ซิมอนเซน เข้าไปอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ครบ 90 นาทีไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มกันได้ จากชัยชนะนัดนี้ทำให้ สโตก มีเพิ่มเป็น 24 คะแนนจากการเตะ 20 นัด ขึ้นมาอยู่ที่ 10 ของตาราง ตามหลัง "เจ้าสัวน้อย" อันดับ 9 แค่สามแต้มเท่านั้น
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
สโตก : สตีฟ ซิมอนเซน , โรเบิร์ต ฮูธ , อับดูลาย ฟาย , ไรอัน ชอว์ครอสส์ , แดนนี ฮิกกินบ็อตแธม , เลียม ลอว์เรนซ์ , รอรี ดีแลป , ดีน ไวท์เฮด , แม็ทธิว เอเธอริงตัน , มามาดี ซิดิบี , ตุนกาย ซานลี
ฟูแลม : มาร์ค ชวาร์เซอร์ , สตีเฟน เคลลี , อารอน ฮิวจ์ส , เบรเด ฮันเกลันด์ , พอล คอนเชสกี , เดเมียน ดัฟฟ์ , แดนนี เมอร์ฟีย์ , คริส แบร์ด , โซลตัน เกรา , บ็อบบี ซาโมรา , แอนดรูว์ จอห์นสัน