คอลัมน์ "หัวใจในกีฬา" โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร
เมื่อใช้กรรมการฟีฟ่าชาติเป็นกลาง ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ที่โคราชกลับมีคุณค่ากว่าเป่ากันเองแบบไทยๆ
แล้วเป็นสิ่งพิสูจน์หัวใจกองเชียร์ชาวไทย ทีมชาติไทยแพ้ได้ ขอให้แพ้อย่างสมเกียรติ นักเตะทุ่มเทเต็มที่ แฟนบอลชาวไทยทำไมจะรับไม่ได้
ผมดูทีมชาติไทยเล่นทั้ง 3 แมตช์ หลังเกมกับเดนมาร์กสรุปว่า ทีมชาติไทยอยู่ห่างคำว่าพัฒนาหลายกิโลฯ
ความคุ้นเคยกับเสียงนกหวีดของกรรมการชาวไทย เกมกับสิงคโปร์ โปแลนด์ และเดนมาร์ก นักเตะไทยเฝ้ารอเสียง (สวรรค์) นกหวีดเป่าเอื้อเจ้าภาพจากกรรมการชาวแอฟริกันที่พยายามทำให้เกมเป็นเกมและยุติธรรม
ธีรเทพ วิโนทัย (ลีซอ) กำลังจะเป็นนักเตะที่เข็นไม่ขึ้นเอาจริงๆ เพราะสื่อไม่อยากแตะหรืออะไรก็แล้วแต่ ประสบการณ์จากอังกฤษกับเบลเยี่ยมช่วยเกือบไม่ได้เลย และอีกไม่นานจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ลีซอเรียนจบดอกเตอร์ด้านภาษาอังกฤษมาหรืออย่างไร จึงมีปัญหากับเสียงนกหวีดของกรรมการบ่อยมาก นี่ไม่ใช่เกมแรกที่เขาตีหน้าเซ่อเด๋อด๋าแสดงความบริสุทธิ์ หลังจงใจเล่นฟาวล์ต่อหน้ากรรมการ การกระโดดกางแขนใส่นักเตะสิงคโปร์ ถ้าไม่เพิ่ม “จังหวะ” สองที่จงใจใช้ท่อนแขนดีดกระโดงคางคู่ต่อสู้ กรรมการคงไม่ชูเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออก ถ้าเป็นกรรมการชาวไทยจังหวะนี้คงปล่อยผ่านและการเล่นนอกเกมอย่างไม่เกิดประโยชน์จะเพิ่มมากขึ้น
โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือสโมสรแชมป์ยุโรปบาร์เซโลน่ายังแนะนำให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หุบปากและตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมของตัวเอง รู้จักเคารพกรรมการ ถึงแม้บางครั้งกรรมการเป็นฝ่ายผิดพลาด นักเตะต้องรู้สึกผิดต่อเพื่อนร่วมทีมกรณีถูกไล่ออกอย่างโง่ๆ และต้องรู้จักแคร์ความรู้สึกของแฟนบอลด้วย
การฟาวล์เพื่อตัวเองกับเพื่อทีมแฟนบอลแยกแยะได้ นักเตะจะไม่ถูกตำหนิหรือกล่าวโทษเสมอไป เมื่อคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถูกไล่ออก เขากล่าวคำขอโทษเพื่อนนักเตะรีล มาดริดและรู้สึกเสียใจอย่างแท้จริง
นักเตะไทยเป็นพวกใจขี้แพ้ ตัวอย่างนี้แสดงชัดเจนแมตช์ที่เล่นกับโปร์แลนด์ วันนั้นถ้าทีมไทยแพ้ 3-0 ผมคงมองไม่เห็นจิตใจ “ขี้แพ้” และ “ยอมแพ้” ของลูกทีมไบรอัน ร็อบสัน
แต่สกอร์ 3-1 ต่างหากที่จิตใจขี้แพ้กระจายเกลื่อนสนาม
ลองไปขอยืมเทปบันทึกการแข่งขันจากช่อง 7 สี มาฉายดูใหม่สัก 2-3 รอบก็ได้ โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมที่ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ยิงจุดโทษเข้าไป เทิดศักดิ์เดินกลับออกมาอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครสักคนเข้ามาแสดงความดีใจ แม้แต่กัปตันทีม
เกมที่เดนมาร์กถล่มไทย 3-0 หลังทำประตูทีมไทยได้ทุกประตู นักเดนมาร์กเข้าไปแสดงความยินดี กอดบ้าง ลูบศีรษะบ้าง ตบหลังบ้าง ให้กำลังใจกันและกัน การแสดงความดีใจด้านหนึ่งคือความเคารพคู่แข่งว่าพวกเขาไม่ได้ไล่ยิงหมู อีกด้านเป็นการเสริมสร้าง “สปิริต” ของทีมให้แกร่งและทรงพลัง จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเชลซีและทีมชาติอังกฤษ ไม่เคยละเลยที่จะชื่นชมลูกทีม
ผมทายว่า..นักเตะไทยทุกคนแม้แต่เทิดศักดิ์คิดว่าทีมแพ้อยู่แล้ว 3-1 คงไล่ไม่ทัน ยิงจุดโทษได้จึงไม่มีใครแสดงความยินดี ทุกคน “ขี้แพ้” และ “ยอมแพ้” นี่แหละสันดานแก้ไม่หาย ทั้งๆ ที่ยังมีเวลาอีก 3-5 นาที เพียงพอที่จะเพิ่มความฮึกเหิมให้ยิงได้อีกสัก 1 ประตู แต่เมื่อสปิริตทีมไม่มี นักเตะสิ้นหวังไม่รู้ ทีมชาติไทยจะไปได้ถึงไหน
แอฟริกันเนชั่นส์ คัพ ทีมแองโกล่ายิงถล่มมาลี 4-0 เกมทำท่าจะจบด้วยสกอร์ดังกล่าว ทว่า ช่วงไม่กี่นาทีสุดท้ายเกอีต้ากองกลางจากบาร์เซโลน่ายิงประตูตีไข่แตก เพื่อนร่วมทีมมีหัวใจเป็นมืออาชีพรุมล้อมแสดงความยินดี สปิริตของทีมแข็งแกร่งและไม่ขี้แพ้ ก่อนนกหวีดหมดเวลาประตูที่ 2 ตามมา ขวัญกำลังใจและความเชื่อมั่นเพิ่มพูน ช่วงทดเวลามาลียิงอีก 2 ประตูจบด้วยผลเสมอ 4-4
นี่คือตัวอย่างหัวใจไม่ขี้แพ้ที่นักเตะไทยควรเรียนรู้
แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี, ลิเวอร์พูลหรืออาร์เซนอล ตราบเสียงนกหวีดยาวยังไม่ดัง นักเตะอาชีพจะไม่สิ้นหวัง ถึงจะพ่ายแพ้พวกเขาก็ได้ใจกองเชียร์...
แฟนบอลชาวไทยรอปรบมือให้นักสู้ตลอดเวลา
เมื่อใช้กรรมการฟีฟ่าชาติเป็นกลาง ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ที่โคราชกลับมีคุณค่ากว่าเป่ากันเองแบบไทยๆ
แล้วเป็นสิ่งพิสูจน์หัวใจกองเชียร์ชาวไทย ทีมชาติไทยแพ้ได้ ขอให้แพ้อย่างสมเกียรติ นักเตะทุ่มเทเต็มที่ แฟนบอลชาวไทยทำไมจะรับไม่ได้
ผมดูทีมชาติไทยเล่นทั้ง 3 แมตช์ หลังเกมกับเดนมาร์กสรุปว่า ทีมชาติไทยอยู่ห่างคำว่าพัฒนาหลายกิโลฯ
ความคุ้นเคยกับเสียงนกหวีดของกรรมการชาวไทย เกมกับสิงคโปร์ โปแลนด์ และเดนมาร์ก นักเตะไทยเฝ้ารอเสียง (สวรรค์) นกหวีดเป่าเอื้อเจ้าภาพจากกรรมการชาวแอฟริกันที่พยายามทำให้เกมเป็นเกมและยุติธรรม
ธีรเทพ วิโนทัย (ลีซอ) กำลังจะเป็นนักเตะที่เข็นไม่ขึ้นเอาจริงๆ เพราะสื่อไม่อยากแตะหรืออะไรก็แล้วแต่ ประสบการณ์จากอังกฤษกับเบลเยี่ยมช่วยเกือบไม่ได้เลย และอีกไม่นานจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ลีซอเรียนจบดอกเตอร์ด้านภาษาอังกฤษมาหรืออย่างไร จึงมีปัญหากับเสียงนกหวีดของกรรมการบ่อยมาก นี่ไม่ใช่เกมแรกที่เขาตีหน้าเซ่อเด๋อด๋าแสดงความบริสุทธิ์ หลังจงใจเล่นฟาวล์ต่อหน้ากรรมการ การกระโดดกางแขนใส่นักเตะสิงคโปร์ ถ้าไม่เพิ่ม “จังหวะ” สองที่จงใจใช้ท่อนแขนดีดกระโดงคางคู่ต่อสู้ กรรมการคงไม่ชูเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออก ถ้าเป็นกรรมการชาวไทยจังหวะนี้คงปล่อยผ่านและการเล่นนอกเกมอย่างไม่เกิดประโยชน์จะเพิ่มมากขึ้น
โจเซป กวาร์ดิโอล่า กุนซือสโมสรแชมป์ยุโรปบาร์เซโลน่ายังแนะนำให้ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หุบปากและตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมของตัวเอง รู้จักเคารพกรรมการ ถึงแม้บางครั้งกรรมการเป็นฝ่ายผิดพลาด นักเตะต้องรู้สึกผิดต่อเพื่อนร่วมทีมกรณีถูกไล่ออกอย่างโง่ๆ และต้องรู้จักแคร์ความรู้สึกของแฟนบอลด้วย
การฟาวล์เพื่อตัวเองกับเพื่อทีมแฟนบอลแยกแยะได้ นักเตะจะไม่ถูกตำหนิหรือกล่าวโทษเสมอไป เมื่อคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถูกไล่ออก เขากล่าวคำขอโทษเพื่อนนักเตะรีล มาดริดและรู้สึกเสียใจอย่างแท้จริง
นักเตะไทยเป็นพวกใจขี้แพ้ ตัวอย่างนี้แสดงชัดเจนแมตช์ที่เล่นกับโปร์แลนด์ วันนั้นถ้าทีมไทยแพ้ 3-0 ผมคงมองไม่เห็นจิตใจ “ขี้แพ้” และ “ยอมแพ้” ของลูกทีมไบรอัน ร็อบสัน
แต่สกอร์ 3-1 ต่างหากที่จิตใจขี้แพ้กระจายเกลื่อนสนาม
ลองไปขอยืมเทปบันทึกการแข่งขันจากช่อง 7 สี มาฉายดูใหม่สัก 2-3 รอบก็ได้ โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมที่ เทิดศักดิ์ ใจมั่น ยิงจุดโทษเข้าไป เทิดศักดิ์เดินกลับออกมาอย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครสักคนเข้ามาแสดงความดีใจ แม้แต่กัปตันทีม
เกมที่เดนมาร์กถล่มไทย 3-0 หลังทำประตูทีมไทยได้ทุกประตู นักเดนมาร์กเข้าไปแสดงความยินดี กอดบ้าง ลูบศีรษะบ้าง ตบหลังบ้าง ให้กำลังใจกันและกัน การแสดงความดีใจด้านหนึ่งคือความเคารพคู่แข่งว่าพวกเขาไม่ได้ไล่ยิงหมู อีกด้านเป็นการเสริมสร้าง “สปิริต” ของทีมให้แกร่งและทรงพลัง จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเชลซีและทีมชาติอังกฤษ ไม่เคยละเลยที่จะชื่นชมลูกทีม
ผมทายว่า..นักเตะไทยทุกคนแม้แต่เทิดศักดิ์คิดว่าทีมแพ้อยู่แล้ว 3-1 คงไล่ไม่ทัน ยิงจุดโทษได้จึงไม่มีใครแสดงความยินดี ทุกคน “ขี้แพ้” และ “ยอมแพ้” นี่แหละสันดานแก้ไม่หาย ทั้งๆ ที่ยังมีเวลาอีก 3-5 นาที เพียงพอที่จะเพิ่มความฮึกเหิมให้ยิงได้อีกสัก 1 ประตู แต่เมื่อสปิริตทีมไม่มี นักเตะสิ้นหวังไม่รู้ ทีมชาติไทยจะไปได้ถึงไหน
แอฟริกันเนชั่นส์ คัพ ทีมแองโกล่ายิงถล่มมาลี 4-0 เกมทำท่าจะจบด้วยสกอร์ดังกล่าว ทว่า ช่วงไม่กี่นาทีสุดท้ายเกอีต้ากองกลางจากบาร์เซโลน่ายิงประตูตีไข่แตก เพื่อนร่วมทีมมีหัวใจเป็นมืออาชีพรุมล้อมแสดงความยินดี สปิริตของทีมแข็งแกร่งและไม่ขี้แพ้ ก่อนนกหวีดหมดเวลาประตูที่ 2 ตามมา ขวัญกำลังใจและความเชื่อมั่นเพิ่มพูน ช่วงทดเวลามาลียิงอีก 2 ประตูจบด้วยผลเสมอ 4-4
นี่คือตัวอย่างหัวใจไม่ขี้แพ้ที่นักเตะไทยควรเรียนรู้
แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี, ลิเวอร์พูลหรืออาร์เซนอล ตราบเสียงนกหวีดยาวยังไม่ดัง นักเตะอาชีพจะไม่สิ้นหวัง ถึงจะพ่ายแพ้พวกเขาก็ได้ใจกองเชียร์...
แฟนบอลชาวไทยรอปรบมือให้นักสู้ตลอดเวลา