คอลัมน์ "หัวใจในกีฬา" โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร
วัยรุ่นวัยกลางใกล้บ้านเป็นแฟนลิเวอร์พูลตัวจริง ความสนใจฟุตบอลทั้งหมดมีลิเวอร์พูลเป็นจุดศูนย์กลาง สัปดาห์หนึ่งพบกัน 3-4 วัน วันไหนใบหน้าโศกเศร้าอมทุกข์จิบกาแฟไม่ค่อยลงคอ ฟันธงได้เลยว่าเมื่อคืนทีมรักแพ้อีกตามเคย
ออกปากไล่ผู้จัดการทีม ราฟาเอล เบนิเตซ มาตลอดสองปีจนเพื่อนพ้องแฟนบอลทีมอื่นหาว่าเพี้ยน แถมหัวเราะถากถางให้เจ็บใจเสียอีก
แฟนๆ “หงส์แดง” คิดไม่ตกว่าความผิดพลาดของอดีตแชมป์ผู้ยิ่งใหญ่ คืออะไรกันแน่ หรือผิดไปหมดทุกจุด จากทีมระดับ “ท็อปโฟร์” ร่วงรูดกลายเป็นทีม “กลางตาราง” ทำท่าจะเงยหัวไม่ขึ้น
ความผิดพลาดเกิดจากเจ้าของสโมสรเปลี่ยนมือจากชาวอังกฤษเป็นชาวอเมริกันหรือเปล่า คำว่า “Football” ของสองชาติเป็นคนละชนิดกีฬา ชาวอเมริกันจะลึกซึ้งและซื่อสัตย์ต่อ “Football” เท่าคนอังกฤษละหรือ เพราะพวกเขามี “Football” เป็นของตัวเอง นั่นคือ “American Football” ที่ยิ่งใหญ่ เมื่อชาวอเมริกันเจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอลมาลงทุนทำทีมฟุตบอล ลองชั่งน้ำหนักดูว่าชาวอเมริกันจะซื่อสัตย์ต่อฟุตบอลสักเพียงไร
นึกเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะเจ้าของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นชาวอเมริกัน แล้ว “ปีศาจแดง” ก็กำลังประสบปัญหาด้านการเงิน ที่ไม่ใช่เกิดจากธุรกิจฟุตบอลแต่เกิดจากระบบการเงินที่ผูกโยงกับทีมอเมริกันฟุตบอลของพวกเขา คำถามก็คือ พวกเขาจะรักกีฬาชนิดไหนมากกว่ากัน
แฟนๆ “ปีศาจแดง” ยังโชคดี แม้ชัยชนะไม่ราบรื่นเหมือนปีก่อนๆ แต่ก็ไม่อับเฉาถึงขนาดตื่นมาจิบกาแฟไม่อร่อยข้ามปี กระนั้นก็ไม่ควรดีใจ เพราะความยุ่งยากส่งสัญญาณล่วงหน้ามาแล้ว
เช้าวันเสาร์มีข่าว เวย์น รูนี่ย์ ว่าที่กัปตันทีมขอขึ้นค่าเหนื่อยจากสัปดาห์ละ 5 ล้านบาทกว่าๆ ขยับเป็น 7.8 ล้าน ขณะสองยักษ์ใหญ่รีล มาดริด กับบาร์เซโลน่า ก็อยากได้ใจจะขาด หากจำได้หลายเดือนก่อนลีโอเนล เมสซี่ ให้สัมภาษณ์ว่าอยากเล่นเคียงข้างรูนี่ย์ ฝ่ายซี้เก่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็กวักมือเรียกอยู่เหยงๆ ต้นสังกัดกำลังมีปัญหาด้านการเงิน ท้ายที่สุดนายทุนอเมริกันต้องขายออกจนได้
วันเสาร์เดียวกัน สตีเว่น เจอร์ราร์ด หมดสิ้นความอดทนและความหวังทุกๆ อย่างกับทีมรัก เตรียมย้ายไปเล่นให้รีล มาดริด จริงหรือลวงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
นอกจากเจ้าของทีมชาวอเมริกัน หรือว่าปัญหาของลิเวอร์พูลอยู่ที่ สวีเว่น เจอร์ราร์ด เพราะปัจจุบันจุดขายของทีมอยู่ที่เขาคนเดียว แฟนบอลเชื่อมั่นและฝากความหวังไว้กับเขา ทีมจะเล่นได้ดีเพราะมีเขา เมื่อขาดเขาทีมก็ไปไม่รอด
หรือความผิดอยู่ที่เบนิเตซ ผู้จัดการทีมที่เกรงใจเจอร์ราร์ด ยินยอมให้นักเตะคนนี้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีม “ราฟา” ไม่ได้สร้างทีมสปิริตที่ปราศจากเจอร์ราร์ด เหมือนเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันสร้างทีมที่ขาด “เจ้าโด้” แม้เห็นกันชัดๆว่าประสิทธิภาพของทีมด้อยลงไป แต่ “เฟอร์กี้” ยังปากแข็งและตอบโต้ทุกเสียงวิจารณ์ ผลที่ได้ก็คือขวัญและความเชื่อมั่นของนักเตะทั้งทีม
ลองคิดเล่นๆ ถ้า รูนี่ย์ กับ เจอร์ราร์ด ไปเล่นที่สเปน พรีเมียร์ชิปคงเหงาไปสักระยะ
วัยรุ่นวัยกลางใกล้บ้านเป็นแฟนลิเวอร์พูลตัวจริง ความสนใจฟุตบอลทั้งหมดมีลิเวอร์พูลเป็นจุดศูนย์กลาง สัปดาห์หนึ่งพบกัน 3-4 วัน วันไหนใบหน้าโศกเศร้าอมทุกข์จิบกาแฟไม่ค่อยลงคอ ฟันธงได้เลยว่าเมื่อคืนทีมรักแพ้อีกตามเคย
ออกปากไล่ผู้จัดการทีม ราฟาเอล เบนิเตซ มาตลอดสองปีจนเพื่อนพ้องแฟนบอลทีมอื่นหาว่าเพี้ยน แถมหัวเราะถากถางให้เจ็บใจเสียอีก
แฟนๆ “หงส์แดง” คิดไม่ตกว่าความผิดพลาดของอดีตแชมป์ผู้ยิ่งใหญ่ คืออะไรกันแน่ หรือผิดไปหมดทุกจุด จากทีมระดับ “ท็อปโฟร์” ร่วงรูดกลายเป็นทีม “กลางตาราง” ทำท่าจะเงยหัวไม่ขึ้น
ความผิดพลาดเกิดจากเจ้าของสโมสรเปลี่ยนมือจากชาวอังกฤษเป็นชาวอเมริกันหรือเปล่า คำว่า “Football” ของสองชาติเป็นคนละชนิดกีฬา ชาวอเมริกันจะลึกซึ้งและซื่อสัตย์ต่อ “Football” เท่าคนอังกฤษละหรือ เพราะพวกเขามี “Football” เป็นของตัวเอง นั่นคือ “American Football” ที่ยิ่งใหญ่ เมื่อชาวอเมริกันเจ้าของทีมอเมริกันฟุตบอลมาลงทุนทำทีมฟุตบอล ลองชั่งน้ำหนักดูว่าชาวอเมริกันจะซื่อสัตย์ต่อฟุตบอลสักเพียงไร
นึกเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะเจ้าของทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นชาวอเมริกัน แล้ว “ปีศาจแดง” ก็กำลังประสบปัญหาด้านการเงิน ที่ไม่ใช่เกิดจากธุรกิจฟุตบอลแต่เกิดจากระบบการเงินที่ผูกโยงกับทีมอเมริกันฟุตบอลของพวกเขา คำถามก็คือ พวกเขาจะรักกีฬาชนิดไหนมากกว่ากัน
แฟนๆ “ปีศาจแดง” ยังโชคดี แม้ชัยชนะไม่ราบรื่นเหมือนปีก่อนๆ แต่ก็ไม่อับเฉาถึงขนาดตื่นมาจิบกาแฟไม่อร่อยข้ามปี กระนั้นก็ไม่ควรดีใจ เพราะความยุ่งยากส่งสัญญาณล่วงหน้ามาแล้ว
เช้าวันเสาร์มีข่าว เวย์น รูนี่ย์ ว่าที่กัปตันทีมขอขึ้นค่าเหนื่อยจากสัปดาห์ละ 5 ล้านบาทกว่าๆ ขยับเป็น 7.8 ล้าน ขณะสองยักษ์ใหญ่รีล มาดริด กับบาร์เซโลน่า ก็อยากได้ใจจะขาด หากจำได้หลายเดือนก่อนลีโอเนล เมสซี่ ให้สัมภาษณ์ว่าอยากเล่นเคียงข้างรูนี่ย์ ฝ่ายซี้เก่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็กวักมือเรียกอยู่เหยงๆ ต้นสังกัดกำลังมีปัญหาด้านการเงิน ท้ายที่สุดนายทุนอเมริกันต้องขายออกจนได้
วันเสาร์เดียวกัน สตีเว่น เจอร์ราร์ด หมดสิ้นความอดทนและความหวังทุกๆ อย่างกับทีมรัก เตรียมย้ายไปเล่นให้รีล มาดริด จริงหรือลวงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
นอกจากเจ้าของทีมชาวอเมริกัน หรือว่าปัญหาของลิเวอร์พูลอยู่ที่ สวีเว่น เจอร์ราร์ด เพราะปัจจุบันจุดขายของทีมอยู่ที่เขาคนเดียว แฟนบอลเชื่อมั่นและฝากความหวังไว้กับเขา ทีมจะเล่นได้ดีเพราะมีเขา เมื่อขาดเขาทีมก็ไปไม่รอด
หรือความผิดอยู่ที่เบนิเตซ ผู้จัดการทีมที่เกรงใจเจอร์ราร์ด ยินยอมให้นักเตะคนนี้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของทีม “ราฟา” ไม่ได้สร้างทีมสปิริตที่ปราศจากเจอร์ราร์ด เหมือนเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันสร้างทีมที่ขาด “เจ้าโด้” แม้เห็นกันชัดๆว่าประสิทธิภาพของทีมด้อยลงไป แต่ “เฟอร์กี้” ยังปากแข็งและตอบโต้ทุกเสียงวิจารณ์ ผลที่ได้ก็คือขวัญและความเชื่อมั่นของนักเตะทั้งทีม
ลองคิดเล่นๆ ถ้า รูนี่ย์ กับ เจอร์ราร์ด ไปเล่นที่สเปน พรีเมียร์ชิปคงเหงาไปสักระยะ