คอลัมน์ "หัวใจในกีฬา" โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร
ลีกฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน อิตาลี เนเธอร์แลนด์ หยุดพักหนีหนาวกันหมด นักเตะได้พักเหนื่อย ได้ซ่อมแซมร่างกาย หรือกลับไปเยี่ยมบ้าน
สโมสรหาเงินและหาช่องทางเจรจาซื้อนักเตะใหม่มาเสริมทีมแทนนักเตะเก่าที่บาดเจ็บ นักเตะขายนักเตะถูกขึ้นป้ายขาย หรือขอขึ้นป้ายย้ายตัวเองไม่หาทีมเหมาะสมกับตัวเอง
บางทีมไล่ผู้จัดการทีม และจัดหาคนใหม่มารับผิดชอบ
นักเตะสัญชาติยุโรปอาจได้พัก ทว่านักเตะฝีเท้าดีสายเลือดแอฟริกัน แม้ลีกยุโรปจะหยุดหนีหนาว แต่พวกเขาต้องกลับไปรับใช้ชาติเล่นฟุตบอล “เดอะ แอฟริกันเนชั่นส์ คัพ” ระหว่าง 10-31 มกราคม 2553 เมื่อเทียบนักเตะเลือดแอฟริกันที่เล่นอยู่ลีกยุโรปทุกลีก พวกที่เล่นในพรีเมียร์ ลีก ของอังกฤษ กับสกอตติชพรีเมียร์ ลีก ดูจะหนักที่สุด บางคนทีมขอร้องให้อยู่จนถึง 27- 28 ธันวาคม เพื่อเล่นเกม “บ็อกซิ่ง เดย์” จากนั้นจึงอนุญาตให้กลับไปฝึกซ้อมกับทีมชาติที่สังกัด
บีบีซี.นำรายชื่อนักเตะพรีเมียร์ ลีก ที่ต้องกลับไปรับใช้ชาติ ดังนี้ ส่วนสกอตติช พรีเมียร์ ลีก ต้องขออภัยที่ไม่ได้เสาะหา
ปอร์ทสมัธ 6 คน มากที่สุด เชลซี 4 คน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับฮัลล์ ซิตี้ 3 คนเท่ากัน อาร์เซนอล,ฟูแล่ม, เอฟเวอร์ตัน และ สเปอร์สทีมละ 2 คน แอสตัน วิลล่า,สโต๊ก ซิตี้,ซันเดอร์แลนด์,โบลตัน,วีแกน,วูล์ฟแฮมตัน และเบิร์นลี่ย์ ทีมละ 1 คน
ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด,เบอร์มิงแฮม ซิตี้,ลิเวอร์พูล,เวสต์แฮม และแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ไม่มี
ระหว่างวันที่ 27 ธันวา 2552- 31 มกรา 2553 พรีเมียร์ ลีกมีโปรแกรมฟาดแข้ง 5 แมตช์ ที่มีผลได้เสียต่อทีมต่างๆ มากบ้างน้อยบ้าง
สื่อในยุโรปหรืออดีตนักเตะดังหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็น ล่าสุด ฟรองค์ เลอเบิฟ มองว่าทีมที่จะได้รับผลกระทบอย่างสูงคือเชลซีอดีตต้นสังกัดที่เสีย 4 กำลังหลัก ได้แก่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา,มิชาเอล เอสเซียง และโซโลมอง กาลู เสียหายของเลอเบิฟหมายถึงอาจชวดตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ชิป
ผมมองจากข้างล่าง จากทีมที่ดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างปอร์ทสมัธที่เสียนักเตะไป 6 คนต่างหากที่จะเสียหาย อัฟราม แกรนท์ เพิ่งพาทีมคว้าชัยชนะ และน่าจะได้ชัยชนะต่อเนื่อง หรืออย่างน้อยก็เสมอ การสูญเสียลูกทีมไปมากถึงครึ่งทีม(ในสนาม) การฟื้นตัวจะยากขึ้น
เว้นแต่เจ้าของทีมทุ่มเงินซื้อนักเตะเก่งๆ มาช่วยลุ้นช่วง 15 เกมสุดท้าย
ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาเป็นต้นไป ปอร์ทสมัธเตะ 5 เกมกับอาร์เซนอล,ฟูแล่ม,เบอร์มิงแฮม,เวสต์แฮม และแมนฯ ซิตี้ เป็นเกมที่ขมจัด แม้ดูพอฟัดพอเหวี่ยงอย่างเบอร์มิงแฮมกับเวสต์แฮม แต่สองแฮมก็ไม่มีนักเตะกลับอัฟริกัน
เชลซีมีเกมกับ ฟูแล่ม,ฮัลล์,ซันเดอร์แลนด์,เบอร์มิงแฮม และ เบิร์นลี่ย์
ลิเวอร์พูลกับแมนฯ ยูฯ ไม่มีนักเตะไปอัฟริกัน จะอาศัยความได้เปรียบขยับขึ้นไปได้หรือไม่..
ลิเวอร์พูลมีเกมกับ วิลล่า,สเปอร์,สโต๊ก,วูล์ฟและโบลตัน ทุกทีมมีเสียนักเตะไปอัฟริกา “หงส์แดง” น่าจะฟื้นตัว
แมนฯ ยูฯ เล่นกับ ฮัลล์,วีแกน,เบอร์มิงแฮม,เบิร์นลี่ย์ และอาร์เซนอล...
แมนฯ ยูฯกับอาร์เซนอลทีมแย่งแชมป์โดยตรงสองทีมตัดแต้มกันเอง ช่วงเดือนกว่าๆ ถ้าเชลซีไม่พลาด โอกาสเป็นแชมป์ไม่ไกล
ลีกฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน อิตาลี เนเธอร์แลนด์ หยุดพักหนีหนาวกันหมด นักเตะได้พักเหนื่อย ได้ซ่อมแซมร่างกาย หรือกลับไปเยี่ยมบ้าน
สโมสรหาเงินและหาช่องทางเจรจาซื้อนักเตะใหม่มาเสริมทีมแทนนักเตะเก่าที่บาดเจ็บ นักเตะขายนักเตะถูกขึ้นป้ายขาย หรือขอขึ้นป้ายย้ายตัวเองไม่หาทีมเหมาะสมกับตัวเอง
บางทีมไล่ผู้จัดการทีม และจัดหาคนใหม่มารับผิดชอบ
นักเตะสัญชาติยุโรปอาจได้พัก ทว่านักเตะฝีเท้าดีสายเลือดแอฟริกัน แม้ลีกยุโรปจะหยุดหนีหนาว แต่พวกเขาต้องกลับไปรับใช้ชาติเล่นฟุตบอล “เดอะ แอฟริกันเนชั่นส์ คัพ” ระหว่าง 10-31 มกราคม 2553 เมื่อเทียบนักเตะเลือดแอฟริกันที่เล่นอยู่ลีกยุโรปทุกลีก พวกที่เล่นในพรีเมียร์ ลีก ของอังกฤษ กับสกอตติชพรีเมียร์ ลีก ดูจะหนักที่สุด บางคนทีมขอร้องให้อยู่จนถึง 27- 28 ธันวาคม เพื่อเล่นเกม “บ็อกซิ่ง เดย์” จากนั้นจึงอนุญาตให้กลับไปฝึกซ้อมกับทีมชาติที่สังกัด
บีบีซี.นำรายชื่อนักเตะพรีเมียร์ ลีก ที่ต้องกลับไปรับใช้ชาติ ดังนี้ ส่วนสกอตติช พรีเมียร์ ลีก ต้องขออภัยที่ไม่ได้เสาะหา
ปอร์ทสมัธ 6 คน มากที่สุด เชลซี 4 คน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับฮัลล์ ซิตี้ 3 คนเท่ากัน อาร์เซนอล,ฟูแล่ม, เอฟเวอร์ตัน และ สเปอร์สทีมละ 2 คน แอสตัน วิลล่า,สโต๊ก ซิตี้,ซันเดอร์แลนด์,โบลตัน,วีแกน,วูล์ฟแฮมตัน และเบิร์นลี่ย์ ทีมละ 1 คน
ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด,เบอร์มิงแฮม ซิตี้,ลิเวอร์พูล,เวสต์แฮม และแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ไม่มี
ระหว่างวันที่ 27 ธันวา 2552- 31 มกรา 2553 พรีเมียร์ ลีกมีโปรแกรมฟาดแข้ง 5 แมตช์ ที่มีผลได้เสียต่อทีมต่างๆ มากบ้างน้อยบ้าง
สื่อในยุโรปหรืออดีตนักเตะดังหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็น ล่าสุด ฟรองค์ เลอเบิฟ มองว่าทีมที่จะได้รับผลกระทบอย่างสูงคือเชลซีอดีตต้นสังกัดที่เสีย 4 กำลังหลัก ได้แก่ ดิดิเยร์ ดร็อกบา,มิชาเอล เอสเซียง และโซโลมอง กาลู เสียหายของเลอเบิฟหมายถึงอาจชวดตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ชิป
ผมมองจากข้างล่าง จากทีมที่ดิ้นรนหนีตกชั้นอย่างปอร์ทสมัธที่เสียนักเตะไป 6 คนต่างหากที่จะเสียหาย อัฟราม แกรนท์ เพิ่งพาทีมคว้าชัยชนะ และน่าจะได้ชัยชนะต่อเนื่อง หรืออย่างน้อยก็เสมอ การสูญเสียลูกทีมไปมากถึงครึ่งทีม(ในสนาม) การฟื้นตัวจะยากขึ้น
เว้นแต่เจ้าของทีมทุ่มเงินซื้อนักเตะเก่งๆ มาช่วยลุ้นช่วง 15 เกมสุดท้าย
ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาเป็นต้นไป ปอร์ทสมัธเตะ 5 เกมกับอาร์เซนอล,ฟูแล่ม,เบอร์มิงแฮม,เวสต์แฮม และแมนฯ ซิตี้ เป็นเกมที่ขมจัด แม้ดูพอฟัดพอเหวี่ยงอย่างเบอร์มิงแฮมกับเวสต์แฮม แต่สองแฮมก็ไม่มีนักเตะกลับอัฟริกัน
เชลซีมีเกมกับ ฟูแล่ม,ฮัลล์,ซันเดอร์แลนด์,เบอร์มิงแฮม และ เบิร์นลี่ย์
ลิเวอร์พูลกับแมนฯ ยูฯ ไม่มีนักเตะไปอัฟริกัน จะอาศัยความได้เปรียบขยับขึ้นไปได้หรือไม่..
ลิเวอร์พูลมีเกมกับ วิลล่า,สเปอร์,สโต๊ก,วูล์ฟและโบลตัน ทุกทีมมีเสียนักเตะไปอัฟริกา “หงส์แดง” น่าจะฟื้นตัว
แมนฯ ยูฯ เล่นกับ ฮัลล์,วีแกน,เบอร์มิงแฮม,เบิร์นลี่ย์ และอาร์เซนอล...
แมนฯ ยูฯกับอาร์เซนอลทีมแย่งแชมป์โดยตรงสองทีมตัดแต้มกันเอง ช่วงเดือนกว่าๆ ถ้าเชลซีไม่พลาด โอกาสเป็นแชมป์ไม่ไกล