11 ทีมในไทยพรีเมียร์ลีก นำโดย ชลบุรี เอฟซี, บางกอกกล๊าส เอฟซี, บีอีซี เทโร ศาสน พร้อมใจกันทำหนังสือคัดค้านกรณีที่สมาคมลูกหนังไทย และ บ.ไทยพรีเมียร์ลีก เตรียมออกระเบียบเพิ่มโควตาแข้งต่างชาติที่สามารถส่งรายชื่อได้ 7 คน แต่ลงสนามได้ถึง 5 คน
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ได้ออกมาแสดงความเห็นด้วยกับการเพิ่มโควตาผู้เล่นต่างชาติในการลงสนามของศึกไทยลีก 2010 จากเดิมที่ใช้โควตา 3+1 คือ ผู้เล่นจากทวีปอื่นลงได้ 3 คน และหากมีผู้เล่นทวีปเอเชียสามารถลงได้ 1 คน ต่อทีม เปลี่ยนมาเป็นส่งรายชื่อนักเตะต่างชาติได้ทีมละ 7 คน และให้ลงสนามได้ถึง 5 คน
ล่าสุด เมื่อวันอังคารที่ 22 ธันวาคม 2552 มีการรวมตัวของ 11 ทีมในไทยพรีเมียร์ลีก ประกอบด้วย ชลบุรี เอฟซี, บางกอกกล๊าส เอฟซี, บีอีซี เทโร ศาสน, โอสถสภา เอ็ม 150-สระบุรี, การท่าเรือไทย เอฟซี, ทีทีเอ็ม พิจิตร, สมุทรสงคราม เอฟซี, พัทยา ยูไนเต็ด, แบงค็อก ยูไนเต็ด, ศรีสะเกษ เอฟซี, ทหารบก พร้อมใจกันลงชื่อในหนังสือคัดค้านดังกล่าวถึง "บิ๊กหนุ่ม" กนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ในฐานะประธานจัดการแข่งขัน
สำหรับเนื้อหาในหนังสือประท้วงดังกล่าวระบุเหตุผลเอาไว้ 8 ประการ หากมีการเพิ่มโควตาดังกล่าว
1. นักฟุตบอลไทย รวมถึงเยาวชนไทยจะขาดโอกาสพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง
2. ทีมชาติไทยได้รับผลกระทบ เนื่องจากผู้เล่นชาวไทยไม่มีโอกาสลงสนาม
3. สโมสรเล็ก และสโมสรต่างจังหวัด ไม่มีงบประมาณจ้างนักเตะต่างชาติ ไม่สามารถสู้สโมสรใหญ่ๆ ได้ ทำให้เกมการแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกขาดความสนุก เพราะจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างทีมเล็กกับทีมใหญ่
4. ไทยพรีเมียร์ลีก อยู่ในช่วงกำลังพัฒนา จึงไม่สามารถใช้หลักเกณฑ์เดียวกับ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้
5. ฝีเท้าของนักเตะต่างชาติที่เล่นในไทยลีกส่วนใหญ่ ไม่ต่างจากนักเตะไทยมากนัก
6. สโมสรใหญ่มีเงินจ้างนักเตะฝีเท้าดี จึงทำให้ประโยชน์เกิดขึ้นกับกลุ่มทีมใหญ่ๆ เท่านั้น
7.เงินไหลออกนอกประเทศ
8.ขัดกับนโยบายของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ที่ใช้ระเบียบ 3+1 (ต่างชาติ 3 คน บวก นักเตะเอเชียได้ 1 คน) จนประสบความสำเร็จในการจัดการแข่งขันมาแล้ว
ทั้งนี้ "เดอะ เซนต์" อรรณพ สิงห์โตทอง ผู้จัดการทีมชลบุรี เอฟซี หนึ่งในแกนนำคัดค้านกล่าวว่า "การยื่นหนังสือครั้งนี้เกิดจากการหารือกันหลายทีมและมองถึงผลดีต่อวงการฟุตบอลไทยในภาพรวม ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ดร.วิชิต คิดอย่างไรถึงเตรียมนำระเบียบนี้ออกมาใช้"
ขณะที่ "ขาวผ่อง" ทวี อัมพรมหา ผู้จัดการทีมโอสถสภา เอ็ม 150-สระบุรี เปิดเผยว่า "ผมพอจะทราบมาว่าหากไทยพรีเมียร์ลีกยังดื้อดึงจะใช้ระเบียบข้อนี้ แฟนบอลหลายทีมจะรวมตัวกันออกมาประท้วง ขณะที่ ดร.วิชิต เปรยว่ายินดีรับฟังความคิดเห็นของทุกสโมสร ก็ควรจะปฏิบัติตามสโมสรส่วนใหญ่"
ทั้งนี้ 5 สโมสรที่ไม่ได้ร่วมลงชื่อคัดค้านประกอบด้วย เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด, ทีโอที เอฟซี, บุรีรัมย์-กฟภ., ราชนาวี ระยอง และเพื่อนตำรวจ