แม้มหกรรมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 "เวียงจันทน์เกมส์" ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวจะจบลงไปตั้งแต่วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมาทว่าเรื่องราวความขัดแย้งภายในสมาคมยิงปืนแห่งประเทศไทย ที่ยืดเยื้อยาวนานมาตั้งแต่ปี 2549 กลับไม่มีทีท่าว่าจะหาบทสรุปได้ หลังเกิดเหตุการณ์ที่กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงการกีฬาชนิดข้ามสะพานมิตรภาพจังหวัดหนองคาย เมื่อ พ.ต.อ.บูรพา ฤกษ์สังเกตุ ผู้จัดการทีมยิงปืนตัดสินใจริบบัตร "ไอดีการ์ด" พร้อมตะเพิด จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักแม่นปืนทีมชาติ ออกจากหมู่บ้านนักกีฬา ส่งผลให้ "ซูเปอร์เอ็กซ์" ที่เดินทางกลับมายังสนามแข่งในวันรุ่งขึ้นเพื่อเก็บปืนของตนเองต้องมาเปิดแถลงข่าวอย่างไม่เป็นทางการต่อสื่อมวลชนไทย ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ประเทศเจ้าภาพเชิญตัวไปสอบสวนและถูกส่งตัวกลับประเทศในวันเดียวกัน
เรื่องราวดังกล่าวหากมองผิวเผินสังคมอาจตัดสินเขาด้วยภาพลักษณ์นักกีฬาจุดเดือดต่ำ แต่ถ้าสืบค้นข้อมุลให้ลึกลงไปจะพบว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของ "ซูเปอร์เอ็กซ์" นั้นมีรายละเอียดมากกว่าการโต้เถียงระหว่างนักกีฬาและผู้จัดการทีม เพราะนับตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบนครเวียงจันทร์ จนถึงวันสุดท้ายที่เจ้าตัวถูกไล่ออกจากที่พักและตัดสิทธิ์นักกีฬากลางถึงของคืนวันอังคารที่ 15 ธันวาคม เรื่องราวทั้งหมดดูสอดรับกันระหว่างสมาคมและผู้จัดทีมเฉพาะกิจ และที่น่าสนใจไปยิ่งกว่านั้นคือคำสั่งตัดสิทธิ์จากผู้จัดการทีมเป็นคำสั่งพละกาลที่ยังไม่ได้ผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากลแห่งประเทศไทย รวมไปถึง คุณธนา ไชยประสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้านักกีฬาไทย และกว่าเอ็กซ์ จะรู้ตัวเขาก็ต้องพบกันประสบการณ์ชนิดเฉียดคุกเฉียดตารางในกรุงเวียงจันทร์
พุธที่ 16 ธันวาคม 2552 หลังจากยอดนักแม่นปืนวัย 36 ปีกลับมาถึงเมืองไทยได้เพียงหนึ่งวันทีมข่าว MGR Sport ได้มีโอกาสพูดคุยกับนักแม่นปืนทีมชาติที่เคยมีผลงานในอันดับที่ 8 จากการแข่งขันโอลิมปิกที่ปักกิ่งมาแล้ว ในห้วงเวลาที่ เอ็กซ์ กำลังเจอกับมรสุมชีวิตลูกใหญ่และเขาได้เล่าถึงเรื่องราวความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากจุดเริ่มต้น พร้อมกับเปลือยตัวตนที่แท้จริงอย่างหมดเปลือกว่าตนเองไม่ใช่คน "ก้าวร้าว" หากแต่ไม่เคยโกหกตัวเองและเพื่อนร่วมชาติเลยแม้แต่วินาทีเดียว
MGR Sport - เรื่องราวทุกอย่างนี้มีจุดเริ่มต้นอย่างไร
จักรกฤษณ์ - ความขัดแย้งทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากนักกีฬายิงปืนที่เก็บตัวอยู่ในแคมป์ไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยงจากการซ้อมร่วม 6 เดือน รวมถึงยังไม่ได้รับอุปกรณ์กีฬา ไม่ว่าจะเป็นปืนที่ใช้แข่งขัน หรือว่ากระสุนที่ต้องใช้ซ้อม ซึ่งจริงๆ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ถูกผลักออกไปเป็นตัวแทนน้องๆ เพื่อทวงถามถึงสิ่งเหล่านี้ เนื่องจากทราบว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เบิกจ่ายงบประมาณทั้งหมดให้สมาคมยิงปืนไปแล้ว และหลังจากนั้น 2 วัน เงินโผล่นักกีฬาทุกคนได้รับเงินถ้วนหน้า แต่ความซวยเริ่มจะมาตกที่ผมแล้ว เพราะจากเดิมที่เคยเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสมาคมฯ กลายเป็นว่าถูกสั่งยกเลิก แล้วจากนั้นก็มีกฎระเบียบว่าด้วยนักกีฬาต้องเป็นสมาชิกออกมาบังคับใช้ ส่งผลให้คนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกก็ไม่มีสิทธิ์ติดทีมชาติไทย ทุกอย่างเริ่มจากตรงนั้น
MGR Sport - ช่วยเล่าเหตุการที่เวียงจันทน์ให้ฟังหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น
จักรกฤษณ์ - เกิดการโต้เถียงกันในช่วงที่ประชุมทีมคืนวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม แล้วก็นำพาไปสู่การถอดถอนรายชื่อของผมออกจากทีม มันเป็นเรื่องระหว่างผม กับผู้จัดการทีมเท่านั้นเอง ผมสงสัยว่าทำไมห้วงเวลาที่นักกีฬากำลังจะแข่งขันต้องมาพูดกันเรื่องบั่นทอนกำลังใจกันว่าหากใครไม่ขึ้นรับเหรียญจะถูกตัดสิทธิ์จากทีมชาติ ผมยอมผิดอย่างลูกผู้ชายเลยว่าซีเกมส์ครั้งที่แล้วผมไม่ได้ขึ้นรับเหรียญเพราะมีธุระสำคัญจริงๆ ไม่ใช่ว่าไม่อยากรับ และผมไม่เข้าใจว่าเขาจะเก็บมาเป็นประเด็นทำไมเพราะเรื่องมันผ่านไปแล้วตั้งสองปีแล้วด้วยความข้องใจเลยไปถามเขา ก็ได้รับคำตอบว่าถ้าไม่พอใจก็ให้เก็บของออกไปเลย แต่ตอนนั้นผมไม่คิดว่าจะกลับเพราะต้องการทำผลงานเพื่อทีมชาติไทย แต่สุดท้ายแล้วเขาตัดผมออกจากทีม โดยที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าเขาไม่ได้แจ้งต่อทางโอลิมปิก หรือ คุณธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้านักกีฬาไทย ทีนี้เรื่องก็ไปถึงนักข่าวอันที่จริงแล้ววันที่เกิดเรื่องผมจะกลับไปเก็บปืนออกจากสนามเท่านั้น แต่พี่ๆนักข่าวรอกันอยู่ 40-50 คนแถมตั้งโต๊ะไว้ให้เสร็จสรรพ ถ้าผมไม่พูดอะไรเลยก็จะเป็นปัญหากันอีกทุกอย่างเลยเป็นอย่างที่เห็น
MGR Sport - หลังเปิดแถลงข่าวแล้วโดนทางการลาวควบคุมตัว ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น
จักรกฤษณ์ - อย่างที่บอกไปในข้างต้น ผมไม่ได้ตั้งใจจะตั้งโต๊ะแถลงข่าวอะไรขนาดนั้น แต่เมื่อทุกคนต้องการรู้สิ่งที่เกิดขึ้นผมก็ตอบตามความเป็นจริง ตอนที่โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจลาวมาเชิญตัวนั้น ผมไม่รู้ว่าตนเองทำผิดอะไรจนกระทั่งเขาแจ้งเราว่า ในประเทศนี้การจัดแถลงข่าวโดยไม่ได้ขออนุญาตินั้นผิดกฎหมายของบ้านเมืองเขา เวลานั้นผมเริ่มรู้ตัวแล้วว่าตอนเองจะโดนข้อหาอะไร แต่โอกาสรอดยังมีเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจลาวเขาเชิญผู้จัดการทีมเข้ามาสอบถามเรื่องราวด้วย เวลานั้นผมคิดว่าแม้จะมีเรื่องบาดหมางอย่างไร แต่ด้วยความเป็นคนไทยเหมือนกันเขาน่าจะช่วย แต่เมื่อตำรวจลาวถามเขาไปว่าจะเอาอย่างไร ผู้จัดการทีมของผมกลับบอกว่า ผมไม่ได้เป็นนักกีฬาอีกแล้วทุกอย่างให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจได้เลย มันเป็นความเจ็บปวดในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ที่ถูกทำร้ายด้วยคนไทยอีกคนหนึ่ง มันเหมือนคุณดำน้ำลงไปใต้ทะเลลึกถังออกซิเจนหมด เพื่อนที่ไปด้วยกันถึงแม้จะไม่ชอบขี้หน้ากัน แต่มันก็ควรจะช่วยกันก่อน ทำให้ผมเกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมา ทำกับผมขนาดนี้ผมยอมติดคุกก็ได้ ผมคิดอย่างนั้นเลย
MGR Sport - สุดท้ายทางการลาวปล่อยตัวคุณมาได้อย่างไร
จักรกฤษณ์ - ผมต้องเรียนไว้ตรงนี้ก่อนว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจลาวนั้นปฏิบัติต่อผมเป็นอย่างดี ไม่มีใครมาข่มขู่ หรือทำร้ายเมื่อผู้จัดการทีมไม่ช่วย เวลานั้นผมเหมือนอยู่ตัวคนเดียวเลย แต่อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเจ้าหน้าลาวฟัง ซึ่งพวกเขาก็รับฟังเป็นอย่างดีจนในที่สุดคุณธนา ไชยประสิทธิ์ เดินทางมาถึง ตอนนั้นผมเห็นพี่เขาเหมือนเทวดาเลย คำแรกที่ พี่ธนาถามผม คือ "เอ็กซ์ เป็นอย่างไรบ้าง" โหยฟังแล้วใจชื้นเพราะรู้เลยว่าเรารอดแล้ว จากนั้น คุณธนา ช่วยประสานกับทางลาวและสถานทูตไทย จนส่งตัวผมกลับมาถึงกรุงเทพฯได้ในคืนวันนั้น
MGR Sport - ถึงเวลานี้ปัญหาของคุณเริ่มบานปลายแล้ว เมื่อคุณปองพล อดิเรกสาร นายกสมาคมยิงปืนฯ ยืนยันว่าตัดชื่อ จักรกฤษณ์ และ โอภาส เรื่องปัญญาวุฒิ ออกจากสหพันธ์ยิงปืนนานาชาติแล้ว ส่งผลให้จะไม่มีรายชื่อในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ 2010 ที่ประเทศจีนด้วย รู้สึกอย่างไร
จักรกฤษณ์ - (สีหน้าเครียด) ถ้าหากสมาคมยิงปืนทำได้ก็แสดงว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย, คณะกรรมการโอลิมปิกไทย หรือ ศาลปกครองกลาง ที่เคยให้ความคุ้มครองพวกผมในการเข้าคัดตัวเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยไม่มีความหมายเลยที่ผ่านมาผมออกมาเรียกร้องการถูกเพิกถอนสิทธิ์การเป็นนักกีฬา ผมอยากจะถามสมาคมกลับเหมือนกันว่าคนที่สร้างคุณงามความดีมามากมาย แต่ทำไมต้องมาทำร้ายผมขนาดนี้ด้วย
MGR Sport - ท้อแท้บ้างหรือไม่ กับการต่อสู้ที่ผ่านมา
จักรกฤษณ์ - ผมเหมือนคนว่ายน้ำออกมาไกลจากฝั่งมากแล้ว จะให้หันหน้าว่ายกลับเข้าฝั่งคงไม่ได้ ต้องสู้ต่อไปบนวิถีทางที่ถูกต้อง แน่นอนว่ามีท้อ มีเหนื่อย เป็นธรรมดา แต่หลังจากนี้มันจะเกิดบรรทัดฐานใหม่ของการบริหารสมาคมยิงปืน จากนั้นนักกีฬารุ่นน้อง รุ่นหลังนั่นแหละที่จะได้ประโยชน์ ส่วนตัวผมเองจะทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุด บอกได้เลยว่าวันนี้ผมเดินมาไกลกว่าจะหันหลังกลับไปที่จุดเริ่มต้นแล้ว หนทางข้างหน้าแม้รู้ว่าต้องเจอกับอุปสรรคขวากหนามแค่ไหน ก็ต้องสู้ต่อไปและต้องผ่านมันไปให้ได้