คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
เคยได้ยินได้ฟังมาบ้างเกี่ยวกับอาถรรพ์รองแชมป์ซูเปอร์โบว์ลที่มักจะบ้อท่าในฤดูกาลถัดมา แต่เป็นของหายากมากทีเดียวที่เราจะไม่เห็น "แชมป์เก่า" หลุดรอดเข้าสู่เพลย์ออฟ แต่ซีซันนี้มันอาจเกิดขึ้นกับ "คนเหล็ก" พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส หากไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในช่วง 3 เกมสุดท้ายของฤดูกาลปกติ
โชว์ฟอร์มแกร่งทั่วแผ่นฟันฝ่าขึ้นไปเป็นแชมป์ซูเปอร์โบว์ล สมัยที่ 6 ในประวัติศาสตร์เฟรนไชส์ หลังดับซ่า "นกหัวแดง" อริโซนา คาร์ดินัลส์ 27-23 ซึ่งเริ่มซีซัน 2009/10 การออกสตาร์ทชนะ 6 แพ้ 2 เกม ไม่น่าใช่ปัญหายากที่ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส จะคว้าตั๋วเข้ารอบเพลย์ออฟ ทว่า 5 เกมหลังสุด กลายเป็นว่า "คนเหล็ก" สนิมเกรอะกรัง ปราชัยมันรวดทั้ง 5 เกม การพ่าย ซินซินเน เบงกอลส์ และ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ เพื่อนร่วมสายเอเอฟซี (AFC) เหนือ จะส่งผลในบั้นปลายหากต้องตัดสินกันด้วยผลงานเฮดทูเฮด หรือผลงานการเจอกันในดิวิชัน
แต่ที่มันน่าเขกกะโหลกลูกทีมของ ไมค์ ทอมลิน อย่างจัง คือแพ้ได้อย่างไรต่อ แคนซัส ซิตี ชีฟส์, โอคแลนด์ เรดเดอร์ส ทีมหมูตู้ประจำกลุ่มตะวันตก รวมถึง คลีฟแลนด์ บราวน์ส ซึ่งสามทีมนี้มีสถิติชนะรวมกันในซีซันนี้แค่ 9 แพ้ถึง 28 เกม แต่กลับกลายไปว่า สตีลเลอร์ส ต้องเดินออกจากสนามอย่างหมดสภาพ
สาเหตุแห่งวิกฤตการณ์ส่อแววตั้งแต่ ทรอย โพลามาลู เซฟตีผมยาวสลวยมีปัญหาที่เข่า ลงสนามไม่สม่ำเสมอทำให้แผงหลัง "คนเหล็ก" ไม่แกร่งสมชื่อ นอกจาก โพลามาลู ที่อินเทอร์เซปต์ไป 3 หนจากการลงสนาม 5 เกม มีกองหลังสตีลเลอร์ส เพียงแค่ 3 คนที่อินเทอร์เซปต์ได้และก็รวมกันแค่ 5 ครั้งเท่านั้น จึงไม่น่าแปลกใจอะไรหากเราจะเห็นคู่แข่งเลี่ยงเผชิญหน้ากับบรรดาไลน์แบ็กเกอร์ที่มี เจมส์ แฮร์ริสัน ปักหลัก แล้วขว้างลึกเล่นงาน 4 ตัวหลังที่ปราศจาก โพลามาลู คอยบัญชาเกม
อีกทั้งปัญหาฟอร์มตกของรันนิงแบ็กสตาร์อย่าง วิลลี พาร์เกอร์ ทำให้ทีมต้องผลักดัน ราชาร์ด เมนเดนฮอลล์ ขึ้นมาวิ่งแทน แม้สามารถทำระยะได้พอสมควร แต่ปัญหาฟัมเบิลและการทะลุเข้าสู่เอ็นด์โซนที่น้อยเกินไป ทำให้ สตีลเลอร์ส ต้องปรับแผนมาให้ เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ จอมทัพร่างใหญ่ต้องขว้างมากกว่าเดิม แต่มันก็ต้องแลกมาซึ่งความเจ็บปวด เมื่อคู่แข่งหมายหัว "บิ๊กเบน" เอาไว้แล้ว ไล่แซ็คไล่อัดจนควอเตอร์แบ็กซูเปอร์สตาร์เกิดอาการกระทบกระเทือนทางสมอง มิหนำซ้ำ ชาร์ลี แบทช์ มือ 2 ยังมาบาดเจ็บข้อมืออีก ทำให้ เดนนิส นิกสัน ผู้เล่นไร้ประสบการณ์ต้องมานำทีมแทน
ตอนนี้ โรธลิสเบอร์เกอร์ คืนสนามอีกครั้ง แต่ล่าสุดในเกมสัปดาห์ที่ 14 แนวไม่สามารถให้เวลาแก่ผู้นำได้ ทีมรับบราวน์ส เลยขย่มใส่ "บิ๊กเบน" ไปเบาะๆ 8 แซ็ค สตีลเลอร์ส บุกพ่าย "เจ้าตูบ" 6-13 เป็นความปราชัยหนแรกในรอบ 12 เกมหลังสุดที่มีต่อสมันน้อย และนั่นยิ่งลดทอนโอกาสเข้ารอบของพลพรรค "คนเหล็ก" เพราะตอนนี้สถิติตกเหลือชนะ 6 แพ้ 7 เกม ถึงจะมีปาฏิหาริย์กวาดชัยใส่ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส, เรฟเวนส์ และบุกไปอัด ไมอามี ดอลฟินส์ ถึงรัง แต่การจะคว้าตั๋วไวลด์การ์ดฝั่ง AFC ยากเหลือ เมื่อต้องไปวัดการเข้ารอบกับอีกหลายทีมที่สถิติดีกว่า ณ ปัจจุบัน และนี่เราอาจจะได้เห็น "แชมป์เก่า" พลาดโอกาสหลุดเข้าเพลย์ออฟเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี หลังจากที่ แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส คว้าซูเปอร์โบว์ล ในปี 2002/03 แล้วบ้อท่าในฤดูกาลถัดมา
เคยได้ยินได้ฟังมาบ้างเกี่ยวกับอาถรรพ์รองแชมป์ซูเปอร์โบว์ลที่มักจะบ้อท่าในฤดูกาลถัดมา แต่เป็นของหายากมากทีเดียวที่เราจะไม่เห็น "แชมป์เก่า" หลุดรอดเข้าสู่เพลย์ออฟ แต่ซีซันนี้มันอาจเกิดขึ้นกับ "คนเหล็ก" พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส หากไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในช่วง 3 เกมสุดท้ายของฤดูกาลปกติ
โชว์ฟอร์มแกร่งทั่วแผ่นฟันฝ่าขึ้นไปเป็นแชมป์ซูเปอร์โบว์ล สมัยที่ 6 ในประวัติศาสตร์เฟรนไชส์ หลังดับซ่า "นกหัวแดง" อริโซนา คาร์ดินัลส์ 27-23 ซึ่งเริ่มซีซัน 2009/10 การออกสตาร์ทชนะ 6 แพ้ 2 เกม ไม่น่าใช่ปัญหายากที่ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส จะคว้าตั๋วเข้ารอบเพลย์ออฟ ทว่า 5 เกมหลังสุด กลายเป็นว่า "คนเหล็ก" สนิมเกรอะกรัง ปราชัยมันรวดทั้ง 5 เกม การพ่าย ซินซินเน เบงกอลส์ และ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ เพื่อนร่วมสายเอเอฟซี (AFC) เหนือ จะส่งผลในบั้นปลายหากต้องตัดสินกันด้วยผลงานเฮดทูเฮด หรือผลงานการเจอกันในดิวิชัน
แต่ที่มันน่าเขกกะโหลกลูกทีมของ ไมค์ ทอมลิน อย่างจัง คือแพ้ได้อย่างไรต่อ แคนซัส ซิตี ชีฟส์, โอคแลนด์ เรดเดอร์ส ทีมหมูตู้ประจำกลุ่มตะวันตก รวมถึง คลีฟแลนด์ บราวน์ส ซึ่งสามทีมนี้มีสถิติชนะรวมกันในซีซันนี้แค่ 9 แพ้ถึง 28 เกม แต่กลับกลายไปว่า สตีลเลอร์ส ต้องเดินออกจากสนามอย่างหมดสภาพ
สาเหตุแห่งวิกฤตการณ์ส่อแววตั้งแต่ ทรอย โพลามาลู เซฟตีผมยาวสลวยมีปัญหาที่เข่า ลงสนามไม่สม่ำเสมอทำให้แผงหลัง "คนเหล็ก" ไม่แกร่งสมชื่อ นอกจาก โพลามาลู ที่อินเทอร์เซปต์ไป 3 หนจากการลงสนาม 5 เกม มีกองหลังสตีลเลอร์ส เพียงแค่ 3 คนที่อินเทอร์เซปต์ได้และก็รวมกันแค่ 5 ครั้งเท่านั้น จึงไม่น่าแปลกใจอะไรหากเราจะเห็นคู่แข่งเลี่ยงเผชิญหน้ากับบรรดาไลน์แบ็กเกอร์ที่มี เจมส์ แฮร์ริสัน ปักหลัก แล้วขว้างลึกเล่นงาน 4 ตัวหลังที่ปราศจาก โพลามาลู คอยบัญชาเกม
อีกทั้งปัญหาฟอร์มตกของรันนิงแบ็กสตาร์อย่าง วิลลี พาร์เกอร์ ทำให้ทีมต้องผลักดัน ราชาร์ด เมนเดนฮอลล์ ขึ้นมาวิ่งแทน แม้สามารถทำระยะได้พอสมควร แต่ปัญหาฟัมเบิลและการทะลุเข้าสู่เอ็นด์โซนที่น้อยเกินไป ทำให้ สตีลเลอร์ส ต้องปรับแผนมาให้ เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ จอมทัพร่างใหญ่ต้องขว้างมากกว่าเดิม แต่มันก็ต้องแลกมาซึ่งความเจ็บปวด เมื่อคู่แข่งหมายหัว "บิ๊กเบน" เอาไว้แล้ว ไล่แซ็คไล่อัดจนควอเตอร์แบ็กซูเปอร์สตาร์เกิดอาการกระทบกระเทือนทางสมอง มิหนำซ้ำ ชาร์ลี แบทช์ มือ 2 ยังมาบาดเจ็บข้อมืออีก ทำให้ เดนนิส นิกสัน ผู้เล่นไร้ประสบการณ์ต้องมานำทีมแทน
ตอนนี้ โรธลิสเบอร์เกอร์ คืนสนามอีกครั้ง แต่ล่าสุดในเกมสัปดาห์ที่ 14 แนวไม่สามารถให้เวลาแก่ผู้นำได้ ทีมรับบราวน์ส เลยขย่มใส่ "บิ๊กเบน" ไปเบาะๆ 8 แซ็ค สตีลเลอร์ส บุกพ่าย "เจ้าตูบ" 6-13 เป็นความปราชัยหนแรกในรอบ 12 เกมหลังสุดที่มีต่อสมันน้อย และนั่นยิ่งลดทอนโอกาสเข้ารอบของพลพรรค "คนเหล็ก" เพราะตอนนี้สถิติตกเหลือชนะ 6 แพ้ 7 เกม ถึงจะมีปาฏิหาริย์กวาดชัยใส่ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส, เรฟเวนส์ และบุกไปอัด ไมอามี ดอลฟินส์ ถึงรัง แต่การจะคว้าตั๋วไวลด์การ์ดฝั่ง AFC ยากเหลือ เมื่อต้องไปวัดการเข้ารอบกับอีกหลายทีมที่สถิติดีกว่า ณ ปัจจุบัน และนี่เราอาจจะได้เห็น "แชมป์เก่า" พลาดโอกาสหลุดเข้าเพลย์ออฟเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี หลังจากที่ แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส คว้าซูเปอร์โบว์ล ในปี 2002/03 แล้วบ้อท่าในฤดูกาลถัดมา
