"คนเหล็ก" พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ไม่มี เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ควอเตอร์แบ็กซูเปอร์สตาร์ลงสนาม จึงบุกไปต่อเวลาพ่าย "อีกาพญายม" บัลติมอร์ เรฟเวนส์ 17-20 ในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เกมมันเดย์ไนท์ ประจำสัปดาห์ที่ 12
ที่บัลติมอร์ : เดนนิส ดิกสัน ควอเตอร์แบ็กมือ 3 พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส เกือบแจ้งเกิดได้สำเร็จ แต่ความผิดพลาดในช่วงต่อเวลาพิเศษทำให้ "แชมป์เก่า" ปราชัยเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน แถมโดน บัลติมอร์ เรฟเวนส์ แซงขึ้นที่ 2 กลุ่มเอเอฟซี (AFC) เหนือ ต้องกระเสือกกระสนในการผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟเสียแล้ว
ไมค์ ทอมลิน หัวหน้าโค้ชทีมเยือนไม่มีทางเลือก เมื่อ เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ จอมทัพมีอาการกระทบกระเทือนทางสมองลงสนามไม่ได้ เช่นเดียวกับ ชาร์ลี แบช สำรองที่ข้อมือซ้ายหัก ทำให้ เดนนิส ดิกสัน ซึ่งขว้างไปแค่หนเดียวในสองฤดูกาล ได้ออกสตาร์ทตัวจริงครั้งแรกใน NFL ซึ่งก็ทำผลงานได้ไม่เลว ขว้างไป 145 หลา รวมถึงทัชดาวน์ 33 หลา เข้ามือ ซานโตนิโอ โฮล์มส ปีกนอกตัวเก่ง นอกจากนี้ยังวิ่งโก้ยอ้าว 24 หลา เข้าเขตเอ็นด์โซนช่วยให้ สตีลเลอร์ส ขึ้นหน้า 17-14 เมื่อเข้าสู่กลางควอเตอร์ที่ 4 อย่างไรก็ตาม เจ้าถิ่นตามเสมอ 17-17 จากการซัดฟิลด์โกล 24 หลาของ บิลลี คันดิฟฟ์
หมดเวลายังไม่มีผู้ชนะ ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป ดูเหมือน "คนเหล็ก" จะได้โอกาสดีเสี่ยงเหรียญชนะได้บอลบุกก่อน ทว่าในการบุกชุดที่สอง ดิกสัน กลับขว้างเสียอินเทอร์เซปต์ให้ พอล ครูเกอร์ ตัวคุมปีกรุคกี้ จากนั้น โจ แฟล็กโก ลงมานำทีมบุก เรฟเวนส์ เขยิบทำระยะขึ้นมาตั้งให้ คันดิฟฟ์ สังหารฟิลด์โกลระยะ 29 หลา ผ่านเสาประตูเข้าไปช่วยให้ "อีกาพญายม" เพิ่มสถิติเป็นชนะ 6 แพ้ 5 เกม แซงหน้า สตีลเลอร์ส ที่สถิติเท่ากันขึ้นมารั้งอันดับ 2 เนื่องจากเฮดทูเฮดดีกว่า อย่างไรก็ตาม ยังตาม "เสือลายพาดกลอน" ซินซินเนติ เบงกอลส์ อยู่ถึง 2 เกม
ภายหลังการแข่งขัน ครูเกอร์ ซึ่งเพิ่งลงสนามเป็นเกมที่ 4 ในชีวิต ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยความตื่นเต้น "นี่ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม มันเป็นแผนออกแบบเป็นการบลิตซ์ ผมเป็นตัวรอง และก็อยู่ให้ถูกที่ถูกเวลาก็เท่านั้น"
ด้าน ทอมลิน ผิดหวังไม่น้อยกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น "เราไม่ดำเนินอะไรไปแบบค่อยเป็นค่อยไป เรากำลังรุกคืบในเกมบุกตามที่ต้องการแล้ว อย่างไรก็ตาม อย่ามาพูดกับผมเกี่ยวกับหลักอะไรในการไปสู่ชัยชนะ มันจะเป็นการไม่ให้เกียรติลูกทีมของผม เราแค่ทำงานกันไม่สำเร็จ ก็ต้องรับผิดชอบกับตรงนั้น"
ผลอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล สัปดาห์ที่ 12
ไมอามี ดอลฟินส์ แพ้ บัฟฟาโล บิลล์ส 14-31
ซีแอตเทิล ซีฮอว์กส์ ชนะ เซนต์หลุยส์ แรมส์ 27-17
วอชิงตัน เรดสกินส์ แพ้ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ 24-27
แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส แพ้ แอตแลนตา ฟอลคอนส์ 17-20
อริโซนา คาร์ดินัลส์ แพ้ เทนเนสซี ไตตันส์ 17-20
อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ชนะ ฮุสตัน เท็กแซนส์ 35-27
คลีฟแลนด์ บราวน์ส แพ้ ซินซินเนติ เบงกอลส์ 7-16
ชิคาโก แบร์ส แพ้ มินนิโซตา ไวกิงส์ 10-36
แคโรไลนา แพนเธอร์ส แพ้ นิวยอร์ก เจ็ตส์ 6-17
แคนซัส ซิตี ชีฟส์ แพ้ ซานดิเอโก ชาร์จเจอร์ส 14-43
แจ็กสันวิลล์ จากัวร์ส แพ้ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส 3-20
พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ต่อเวลาแพ้ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ 17-20
ที่บัลติมอร์ : เดนนิส ดิกสัน ควอเตอร์แบ็กมือ 3 พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส เกือบแจ้งเกิดได้สำเร็จ แต่ความผิดพลาดในช่วงต่อเวลาพิเศษทำให้ "แชมป์เก่า" ปราชัยเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน แถมโดน บัลติมอร์ เรฟเวนส์ แซงขึ้นที่ 2 กลุ่มเอเอฟซี (AFC) เหนือ ต้องกระเสือกกระสนในการผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟเสียแล้ว
ไมค์ ทอมลิน หัวหน้าโค้ชทีมเยือนไม่มีทางเลือก เมื่อ เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ จอมทัพมีอาการกระทบกระเทือนทางสมองลงสนามไม่ได้ เช่นเดียวกับ ชาร์ลี แบช สำรองที่ข้อมือซ้ายหัก ทำให้ เดนนิส ดิกสัน ซึ่งขว้างไปแค่หนเดียวในสองฤดูกาล ได้ออกสตาร์ทตัวจริงครั้งแรกใน NFL ซึ่งก็ทำผลงานได้ไม่เลว ขว้างไป 145 หลา รวมถึงทัชดาวน์ 33 หลา เข้ามือ ซานโตนิโอ โฮล์มส ปีกนอกตัวเก่ง นอกจากนี้ยังวิ่งโก้ยอ้าว 24 หลา เข้าเขตเอ็นด์โซนช่วยให้ สตีลเลอร์ส ขึ้นหน้า 17-14 เมื่อเข้าสู่กลางควอเตอร์ที่ 4 อย่างไรก็ตาม เจ้าถิ่นตามเสมอ 17-17 จากการซัดฟิลด์โกล 24 หลาของ บิลลี คันดิฟฟ์
หมดเวลายังไม่มีผู้ชนะ ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป ดูเหมือน "คนเหล็ก" จะได้โอกาสดีเสี่ยงเหรียญชนะได้บอลบุกก่อน ทว่าในการบุกชุดที่สอง ดิกสัน กลับขว้างเสียอินเทอร์เซปต์ให้ พอล ครูเกอร์ ตัวคุมปีกรุคกี้ จากนั้น โจ แฟล็กโก ลงมานำทีมบุก เรฟเวนส์ เขยิบทำระยะขึ้นมาตั้งให้ คันดิฟฟ์ สังหารฟิลด์โกลระยะ 29 หลา ผ่านเสาประตูเข้าไปช่วยให้ "อีกาพญายม" เพิ่มสถิติเป็นชนะ 6 แพ้ 5 เกม แซงหน้า สตีลเลอร์ส ที่สถิติเท่ากันขึ้นมารั้งอันดับ 2 เนื่องจากเฮดทูเฮดดีกว่า อย่างไรก็ตาม ยังตาม "เสือลายพาดกลอน" ซินซินเนติ เบงกอลส์ อยู่ถึง 2 เกม
ภายหลังการแข่งขัน ครูเกอร์ ซึ่งเพิ่งลงสนามเป็นเกมที่ 4 ในชีวิต ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยความตื่นเต้น "นี่ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม มันเป็นแผนออกแบบเป็นการบลิตซ์ ผมเป็นตัวรอง และก็อยู่ให้ถูกที่ถูกเวลาก็เท่านั้น"
ด้าน ทอมลิน ผิดหวังไม่น้อยกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น "เราไม่ดำเนินอะไรไปแบบค่อยเป็นค่อยไป เรากำลังรุกคืบในเกมบุกตามที่ต้องการแล้ว อย่างไรก็ตาม อย่ามาพูดกับผมเกี่ยวกับหลักอะไรในการไปสู่ชัยชนะ มันจะเป็นการไม่ให้เกียรติลูกทีมของผม เราแค่ทำงานกันไม่สำเร็จ ก็ต้องรับผิดชอบกับตรงนั้น"
ผลอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล สัปดาห์ที่ 12
ไมอามี ดอลฟินส์ แพ้ บัฟฟาโล บิลล์ส 14-31
ซีแอตเทิล ซีฮอว์กส์ ชนะ เซนต์หลุยส์ แรมส์ 27-17
วอชิงตัน เรดสกินส์ แพ้ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ 24-27
แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส แพ้ แอตแลนตา ฟอลคอนส์ 17-20
อริโซนา คาร์ดินัลส์ แพ้ เทนเนสซี ไตตันส์ 17-20
อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ชนะ ฮุสตัน เท็กแซนส์ 35-27
คลีฟแลนด์ บราวน์ส แพ้ ซินซินเนติ เบงกอลส์ 7-16
ชิคาโก แบร์ส แพ้ มินนิโซตา ไวกิงส์ 10-36
แคโรไลนา แพนเธอร์ส แพ้ นิวยอร์ก เจ็ตส์ 6-17
แคนซัส ซิตี ชีฟส์ แพ้ ซานดิเอโก ชาร์จเจอร์ส 14-43
แจ็กสันวิลล์ จากัวร์ส แพ้ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส 3-20
พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ต่อเวลาแพ้ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ 17-20
