นันทนา คำวงศ์ และ ภาคภูมิ สงวนสิน คว้าอีก 2 เหรียญทองแดง ทิ้งท้ายให้ทัพนักกีฬาเทเบิลเทนนิสในซีเกมส์ ครั้งที่ 25 หลังหยุดเส้นทางไว้ในรอบตัดเชือกด้วยน้ำมือของนักตบลูกเด้งสิงคโปร์สัญชาติจีน
การแข่งขันเทเบิลเทนนิส "เวียงจันทน์เกมส์" ดำเนินการแข่งขันมาถึงวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2552 โดยไทยลุ้นถึงเฮือกสุดท้ายในประเภทหญิงเดี่ยว และ ชายเดี่ยว รอบตัดเชือก
ช่วงเช้า นันทนา คำวงศ์ ความหวังสูงสุดของไทย เจอกับกระดูกขัดมันอย่าง เฟง เทียน เหว่ย ของสิงคโปร์ ที่โอนสัญชาติมาจากจีน ซึ่งผลเป็นไปตามคาด นักตบลูกเด้งแดนลอดช่องเก็บชัยสบายมือ 4-0 เกม 11,-5, 11-9, 11-6 และ 11-5 ได้ผ่านเข้ารอบชิงไปเจอเพื่อนร่วมชาติอย่าง หวัง หยู่ กู ส่วน นันทนา ได้เหรียญทองแดงกลับบ้านเป็นการปลอบใจ
ในขณะที่ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ ภาคภูมิ สงวนสิน พยายามฮึดสู้เต็มที่แต่สุดท้ายก็พ่ายให้ เกา หนิง 1-4 เกม 6-11, 11-7, 6-11, 5-11 และ 10-12 ทำให้ได้มาอีกหนึ่งเหรียญทองแดง ส่วนรอบชิงจะเป็นการแย่งเหรียญทองกันเองระหว่าง นักตบลูกเด้งสิงคโปร์อย่าง เกา หนิง และ หยาง ซี
ภายหลังการแข่งขัน ภาคภูมิ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Sport ที่ไปเกาะติดสถานการณ์อยู่ในห้องคอนเวนชันฮอลล์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติ "ก็เสียดายเหมือนกันสำหรับแมตช์นี้ เพราะหลายช็อตกำลังไปได้ดี แต่ขาดโชค จริงๆ แล้วในเกมผมสามารถสู้กับนักปิงปองสิงคโปร์ได้ แต่จังหวะสำคัญๆ ดันพลาดไป แต่ก็ทำเต็มที่แล้ว"
ด้าน นายวิโรจน์ จันผะกา โค้ชปิงปองไทย เผยเชิงก่น หลังจากซีเกมส์ครั้งนี้ ทีมเก็บมาได้ 2 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง "โดยรวมถือว่าน่าพอใจ นักกีฬาทุกคนทำเต็มที่แล้ว โดยประเภทที่เสียดายที่สุดคงเป็นทีมชาย แม้เราแพ้สิงคโปร์ 0-3 คู่ แต่ในเกมแล้วแต้มออกมาสูสียิ่ง แพ้ชนะกันไม่กี่แต้ม ตรงนี้ก็รู้สึกสงสารนักกีฬาที่ทุ่มเท ฝึกหนักกันมาทั้งปี แต่ต้องมาเจอกับคู่แข่งที่ไม่ใช่อาเซียนแท้ๆ"
"ในซีเกมส์หนนี้ สิงคโปร์ทีมหญิงมีนักกีฬาจีนเป็นตัวจริง 4 จาก 5 คน ส่วนทีมชายเป็นจีน 3 จาก 5 คน ตรงนี้ผมอยากเรียกร้องไปยังโอลิมปิกไทยให้ผลักดันเรื่องดังกล่าวเข้าหารือไปยังสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ น่าจะมีการจำกัดโควตาการโอนสัญชาติ อย่างเช่นให้แต่ละชาติส่งนักกีฬาโอนสัญชาติลงแข่งได้เพียงชาติละคน ก็น่าจะยุติธรรมดี นอกจากนี้ผมอยากก่นเรื่องงบประมาณสักเล็กน้อย เพราะปีๆ หนึ่งเราได้มีโอกาสแข่งแมตช์ใหญ่แค่ 5-7 แมตช์ ผิดกับทางสิงคโปร์ ที่ได้ตระเวนแข่งมาทั่วโลก" โค้ชลูกเด้งไทยทิ้งท้าย
การแข่งขันเทเบิลเทนนิส "เวียงจันทน์เกมส์" ดำเนินการแข่งขันมาถึงวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2552 โดยไทยลุ้นถึงเฮือกสุดท้ายในประเภทหญิงเดี่ยว และ ชายเดี่ยว รอบตัดเชือก
ช่วงเช้า นันทนา คำวงศ์ ความหวังสูงสุดของไทย เจอกับกระดูกขัดมันอย่าง เฟง เทียน เหว่ย ของสิงคโปร์ ที่โอนสัญชาติมาจากจีน ซึ่งผลเป็นไปตามคาด นักตบลูกเด้งแดนลอดช่องเก็บชัยสบายมือ 4-0 เกม 11,-5, 11-9, 11-6 และ 11-5 ได้ผ่านเข้ารอบชิงไปเจอเพื่อนร่วมชาติอย่าง หวัง หยู่ กู ส่วน นันทนา ได้เหรียญทองแดงกลับบ้านเป็นการปลอบใจ
ในขณะที่ประเภทชายเดี่ยว รอบรองชนะเลิศ ภาคภูมิ สงวนสิน พยายามฮึดสู้เต็มที่แต่สุดท้ายก็พ่ายให้ เกา หนิง 1-4 เกม 6-11, 11-7, 6-11, 5-11 และ 10-12 ทำให้ได้มาอีกหนึ่งเหรียญทองแดง ส่วนรอบชิงจะเป็นการแย่งเหรียญทองกันเองระหว่าง นักตบลูกเด้งสิงคโปร์อย่าง เกา หนิง และ หยาง ซี
ภายหลังการแข่งขัน ภาคภูมิ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Sport ที่ไปเกาะติดสถานการณ์อยู่ในห้องคอนเวนชันฮอลล์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติ "ก็เสียดายเหมือนกันสำหรับแมตช์นี้ เพราะหลายช็อตกำลังไปได้ดี แต่ขาดโชค จริงๆ แล้วในเกมผมสามารถสู้กับนักปิงปองสิงคโปร์ได้ แต่จังหวะสำคัญๆ ดันพลาดไป แต่ก็ทำเต็มที่แล้ว"
ด้าน นายวิโรจน์ จันผะกา โค้ชปิงปองไทย เผยเชิงก่น หลังจากซีเกมส์ครั้งนี้ ทีมเก็บมาได้ 2 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง "โดยรวมถือว่าน่าพอใจ นักกีฬาทุกคนทำเต็มที่แล้ว โดยประเภทที่เสียดายที่สุดคงเป็นทีมชาย แม้เราแพ้สิงคโปร์ 0-3 คู่ แต่ในเกมแล้วแต้มออกมาสูสียิ่ง แพ้ชนะกันไม่กี่แต้ม ตรงนี้ก็รู้สึกสงสารนักกีฬาที่ทุ่มเท ฝึกหนักกันมาทั้งปี แต่ต้องมาเจอกับคู่แข่งที่ไม่ใช่อาเซียนแท้ๆ"
"ในซีเกมส์หนนี้ สิงคโปร์ทีมหญิงมีนักกีฬาจีนเป็นตัวจริง 4 จาก 5 คน ส่วนทีมชายเป็นจีน 3 จาก 5 คน ตรงนี้ผมอยากเรียกร้องไปยังโอลิมปิกไทยให้ผลักดันเรื่องดังกล่าวเข้าหารือไปยังสหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติ น่าจะมีการจำกัดโควตาการโอนสัญชาติ อย่างเช่นให้แต่ละชาติส่งนักกีฬาโอนสัญชาติลงแข่งได้เพียงชาติละคน ก็น่าจะยุติธรรมดี นอกจากนี้ผมอยากก่นเรื่องงบประมาณสักเล็กน้อย เพราะปีๆ หนึ่งเราได้มีโอกาสแข่งแมตช์ใหญ่แค่ 5-7 แมตช์ ผิดกับทางสิงคโปร์ ที่ได้ตระเวนแข่งมาทั่วโลก" โค้ชลูกเด้งไทยทิ้งท้าย