"แอนนิภา" พ่ายหม่องคว้าเงินยกเหล็กหญิงรุ่นใหญ่

แอนนิภา มูลธาร์ คว้าเหรียญเงินเพิ่มให้ทัพนักกีฬาไทย หลังพ่ายให้แก่ ลัตต์ เซย์ เซย์ ยกเหล็กเมียนมาร์ ไปแบบได้ลุ้น ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25

เมื่อช่วงบ่ายมีการแข่งขันยกน้ำหนัก รอบชิงชนะเลิศ รุ่นน้ำหนักเกิน 69 กก.หญิง โดยไทยส่ง แอนนิภา มูลธาร์ ลงทำการแข่งขัน ปราฏกว่า ท่าสแนทช์ แอนนิภา ยกได้ถึง 117 กก. เป็นรอง ลัตต์ เซย์ เซย์ เพียงกิโลเดียว ต้องมาขับเคี่ยวกันในท่าคลีน แอนด์ เจิร์ก ซึ่งยกเหล็กหม่องฮึดยกได้ถึง 143 กก. น้ำหนักรวมเพิ่มเป็น 261 กก.

ขณะที่ แอนนิภา ยกผ่านที่น้ำหนัก 140 กก. แต่ไม่เพียงพอ ครั้งสุดท้ายต้องเรียกไปถึง 145 กก. เพื่อแซงหน้า ทว่ายกไม่ผ่าน เมื่อรวมกับท่าสแนทช์จึงได้เพียง 257 กก. คว้าเหรียญเงินไปครอง ขณะที่ ยานติ โนวี (อินโดนีเซีย) ยกได้น้ำหนักรวม 207 กก. รับเหรียญทองแดงปลอบใจ

ภายหลังการแข่งขัน แอนนิภา ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Sport ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและพยายามข่มกลั้นน้ำตาที่กำลังปริ่มออกมา "วันนี้ได้เหรียญเงินมาก็ต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจที่เชียร์ ขอบคุณคุณพ่อที่เป็นเหมือนฮีโร่ของหนู และผู้ใหญ่ในสมาคม รวมถึงทุกๆ คน และขอโทษด้วยที่คว้าเหรียญทองไม่ได้ ตอนขึ้นไปยกก็ทำเต็มที่แล้ว แม้จะมีปัญหาเจ็บหลังเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ก็พยายามไม่ให้อาการเจ็บส่งผลกระทบต่อการยก ส่วนตอนซ้อมเคยยกได้ดีที่สุด 135 กิโลกรัม ซึ่งน้ำหนักท่าคลีน แอนด์ เจิร์ก ครั้งที่ 3 ไม่เคยยกมาก่อน ทว่า สถานการณ์มันบีบคั้นให้เราต้องยกเพื่อเอาชนะ เมียนมาร์ (ลัตต์ เซย์ เซย์) ซึ่งสุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จต้องขอโทษอีกครั้งด้วยค่ะ"

จากนั้น "เจ๊บุษ" บุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมยกเหล็กไทย ก็เข้ามาปลอบใจจอมพลังสาวจากจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมทั้งกล่าวว่า "แอนนิภา ไม่เคยยก 145 กิโลกรัมมาก่อน ที่ทำได้ 140 กิโลกรัมในครั้งที่ 2 ของท่าคลีน แอนด์ เจิร์ก วันนี้ก็ถือว่าดีกว่าช่วงซ้อมแล้ว นอกจากนั้น ลัตต์ เซย์ เซย์ ก็ไม่ใช่ชาวเมียนมาร์แท้ๆ ด้วย ซึ่งเขามีสรีระและความแข็งแกร่งของร่างกายมากกว่าคนเมียนมาร์ทั่วไป"

ทั้งนี้ แอนนิภา มีผลงานคว้า 1 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ในการแข่งขันยกน้ำหนักเยาวชนชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศคาซัคสถาน เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นักยกเหล็กสาวร่างใหญ่ได้รับบาดเจ็บบริเวณหลังในรายการดังกล่าวนี้เอง