อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ ขุนพลเสื้อกล้ามพูดน้อยต่อยหนักทีมชาติไทย มั่นใจประสิทธิภาพของหมัดซ้าย-ขวาที่หนักหน่วง จะช่วยให้คว้าเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้
ทีมมวยสากลสมัครเล่นทั้งชาย-หญิง ถือเป็นความหวังเหรียญทองของไทยในกีฬาซีเกมส์แต่ละครั้ง มาคราวนี้หลังเดินทางถึงนครเวียงจันทน์ และได้ลงฝึกซ้อมบ้างแล้ว "โค้ชแซม" จ.ส.อ. กามนิตย์ นารีรักษ์ หัวหน้าโค้ช ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมของนักกีฬา "ในซีเกมส์คราวนี้เราส่งนักมวยสากลสมัครเล่นลงแข่ง 10 คน แบ่งเป็นชาย 6 หญิง 4 คน โดยครั้งนี้เราหวังไว้ 4 เหรียญทอง โดยทีมชายที่ผมดูแลอยู่นั้น ตอนนี้ทุกคนสภาพร่างกาย-จิตใจสมบูรณ์เต็มร้อย แต่ผมก็ต้องใช้จิตวิทยากระตุ้นอย่าไปเกร็ง เรื่องที่ว่าจะชกได้เหรียญหรือไม่นั้น ไม่อยากให้พะวง ต่อยไปตามเกมของเราที่เคยซ้อม ชกให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้"
สำหรับ ขุนพลเสื้อกล้ามไทย มีโอกาสเผชิญหน้านักชกจากฟิลิปปินส์ หลายๆ คน โดยรุ่น 54 กก.มีโอกาสเจอกับ ฮวน นิปปอน ขณะที่ แก้ว พงษ์ประยูร รุ่น 48 กก. แฮร์รี ทานาร์มอร์ อย่างไรก็ตาม "โค้ชแซม" เชื่อมั่นว่าทุกคนจะฟันฝ่าไปชิงเหรียญทองได้จากที่ส่งไป 6 รุ่น โดยเฉพาะ อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ ในรุ่น 69 กก. เนื่องจากนักชกรายนี้มีแววดี และก็หมัดหนักเอาเรื่อง
ซึ่ง ทีมข่าว MGR Sport ก็มีโอกาสได้คุยกับ อภิเชษฐ์ "ตอนนี้ต้องบอกว่าสภาพร่างกายของผมสมบูรณ์สุดขีด ต่อให้เจอนักชกจากฟิลิปปินส์ ก็ไม่หวั่นกลัวอะไร โดยทีเด็ดของผมคงอยู่ที่ความหนักหน่วง ไม่ว่าจะหมัดซ้ายหรือขวาก็ตาม"
ส่วนรายชื่อ 6 ขุนพลเสื้อกล้ามไทยชุดลุยศึก "เวียงจันทน์เกมส์" ประกอบด้วย แก้ว พงษ์ประยูธ (48 กก.ไลท์ฟลายเวท), อำนาจ รื่นเริง (51 กก.ฟลายเวท), ฉัตรชัย บุตรดี (54 กก.แบนตัมเวท), วุฒิชัย มาสุข (57 กก.เฟเธอร์เวท), สายลม อาดี (60 กก.ไลท์เวท) และ อภิเชษฐ์ แสนสิทธิ์ (69 กก.เวลเตอร์เวท) ขณะที่ทีมหญิง ประกอบด้วย เดือนนภา งามล้ำ (48 กก.), โสภิดา สะทุมรัมย์ (51 กก.), ทัศมาลี ทองจันทร์ (54 กก.) และ เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม (57 กก.)