คอลัมน์ ON TRACK โดย เด็กปั๊ม
ห่างหายไป 1 สัปดาห์สำหรับคอลัมน์ ON TRACK มาวันนี้ "เด็กปั๊ม" กลับมาประจำการอีกครั้งซึ่งขณะที่นั่งร่ายตัวอักษรอยู่นี้ผมเองมาปักหลักอยู่ที่นครเวียงจันทน์ได้ 6 วันเต็มๆ หลังจากเดินทางร่วมกับทีมงาน MGR SPORT เพื่อตะลุยรายงานข่าวซีเกมส์ครั้งที่ 25 ที่สปป.ลาวรับหน้าที่เจ้าภาพเป็นครั้งแรก ซึ่งวันพรุ่งนี้แล้วครับที่พิธีเปิดอย่างเป็นทางการจะเริ่มขึ้นน่าสนใจว่า เวียงจันทน์เกมส์ 2009 จะเปิดตัวได้ม่วนหลายสมการรอคอยหรือไม่
หลังซึมซับบรรยากาศมา 5 วันรู้สึกได้เลยว่าภาษาลาว เป็นภาษาที่น่ารัก ฟังแล้วตรงๆ ใสๆ เห็นภาพกันเลยทีเดียว มิหนำซ้ำยังรู้สึกอบอุ่นมีน้ำเสียงในตัวเอง อย่างม่วนหลายที่แปลว่าสนุกมาก รวมถึงมีบางคำที่ฟังแล้วก็อดแอบขำไม่ได้ อย่างถ้าจะสั่งน้ำแข็ง ที่นี่ต้องพูดว่า น้ำก้อน ส่วนถ้าจะสั่งน้ำ 1 แก้ว ก็ต้องพูดว่าน้ำหนึ่งจอก แต่ที่โดนใจมากที่สุดก็คือการทดเวลาบาดเจ็บในฟุตบอล ที่นี่จะเรียกว่า "ทดเวลาที่สูญเสีย" แทน
นอกเหนือจากภาษาที่น่าประทับใจแล้วสาวๆที่นี่บอกตามตรงว่าน่ารักสุดๆ หลังจากที่มีโอกาสได้เข้าไปชมเกมที่เจ้าภาพลาวสนามพบพม่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สาวลาววัยใสในสีเสื้อ "ลาว สู้ สู้" เข้ามาให้กำลังใจทีมรักกันแน่นสนามกีฬาแห่งชาติหลัก 16 ทำเอาผมเองมีอันต้องเคลิ้มกับความงามอย่างลาวที่ละลานตาเช่นนี้
เพ้อเจ้อมาซะนานยังไม่เข้าเรื่องออนแทร็กเสียที ไหนๆก็มาลาวขอพูดถึงเรื่องของการใช้รถใช้ถนนของคนท้องถิ่นที่นี่เสียหน่อย รถยนต์แต่ละคันที่นี่หรูๆทั้งนั้นครับ เราจะเห็นบนท้องถนนมีรถจากค่ายโตโยตา ทั้งวีโก,วีออส,รวมถึงแคมรี นอกจากนั้นยังมีพลาโด รถตรวจการณ์หรูที่บ้านเราผู้มีอันจะกินเท่านั้นจะเลือกซื้อมาขับ ส่วนรถยุโรปหรูๆ ก็มีให้เห็นทั้งบีเอ็มดับเบิลยู ,เล็กซัส และเมอร์เซเดส-เบนซ์ แต่ที่เกลื่อนที่สุดเห็นจะเป็นฮุนได ค่ายรถจากเกาหลีใต้ที่สืบทราบมาว่าเข้ามาลงทุนในประเทศนี้อยู่มากพอควร
เห็นรถหรูๆบนท้องถนนอย่าคิดว่าคนลาวจะซิ่งแบบคนไทยนะครับ เพราะที่นี่จำกัดความเร็วที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยิ่งไปกว่านั้นในเขตเมืองยังบีบให้ขับเพียง 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้นเอง ทำให้รถแรงๆก็ต้องรักษากฎจราจรด้วยการขับตามที่กำหนด เพราะคนที่นี่รักษาความเร็วกันดีจริงๆ แต่ที่ดูจะหย่อนยานเห็นวินัยในการฝ่าฝืนไฟอำนาจ (ไฟแดง) ซึ่งมีให้เห็นอยู่ชินตาในทุกๆแยก
ก่อนหมดพื้นที่วันนี้ ของทิ้งท้ายด้วยเรื่องราวในวงการมอเตอร์สปอร์ต หลังจากไม่ได้ตามข่าวเอฟวันมาหลายวัน ล่าสุดมีการยืนยันเป็นที่แน่นอนแล้วครับว่า คิมี ไรค์โคเนน อดีตแชมป์โลกปี 2007 ก็จะเปลี่ยนไปแข่งรถทางฝุ่นในศึกแรลลีชิงแชมป์โลก (WRC)ปี 2010 กับทีมซีตรองแทน ก็ไม่แปลกใจครับที่ "ดิไอซ์แมน" จะลงเอยกับแรลลีโลก เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวหนาหูว่า คิมี ลงเอยกับซีตรองไปเรียบร้อยแล้ว
งานนี้ต้องดูว่าราชาทางเรียบจะรุ่งหรือร่วงในทางฝุ่น แต่ถ้าถามผมคิดว่าคงจะร่วงเสียมากกว่า เพราะท่าทางแกคงขับเอามันอย่างเดียว เอาเป็นว่าเวียงจันทน์ออนแทร็กจะกลับในสัปดาห์หน้า วันนี้ขอลาไปก่อนด้วยคำว่า สะบายดี
ห่างหายไป 1 สัปดาห์สำหรับคอลัมน์ ON TRACK มาวันนี้ "เด็กปั๊ม" กลับมาประจำการอีกครั้งซึ่งขณะที่นั่งร่ายตัวอักษรอยู่นี้ผมเองมาปักหลักอยู่ที่นครเวียงจันทน์ได้ 6 วันเต็มๆ หลังจากเดินทางร่วมกับทีมงาน MGR SPORT เพื่อตะลุยรายงานข่าวซีเกมส์ครั้งที่ 25 ที่สปป.ลาวรับหน้าที่เจ้าภาพเป็นครั้งแรก ซึ่งวันพรุ่งนี้แล้วครับที่พิธีเปิดอย่างเป็นทางการจะเริ่มขึ้นน่าสนใจว่า เวียงจันทน์เกมส์ 2009 จะเปิดตัวได้ม่วนหลายสมการรอคอยหรือไม่
หลังซึมซับบรรยากาศมา 5 วันรู้สึกได้เลยว่าภาษาลาว เป็นภาษาที่น่ารัก ฟังแล้วตรงๆ ใสๆ เห็นภาพกันเลยทีเดียว มิหนำซ้ำยังรู้สึกอบอุ่นมีน้ำเสียงในตัวเอง อย่างม่วนหลายที่แปลว่าสนุกมาก รวมถึงมีบางคำที่ฟังแล้วก็อดแอบขำไม่ได้ อย่างถ้าจะสั่งน้ำแข็ง ที่นี่ต้องพูดว่า น้ำก้อน ส่วนถ้าจะสั่งน้ำ 1 แก้ว ก็ต้องพูดว่าน้ำหนึ่งจอก แต่ที่โดนใจมากที่สุดก็คือการทดเวลาบาดเจ็บในฟุตบอล ที่นี่จะเรียกว่า "ทดเวลาที่สูญเสีย" แทน
นอกเหนือจากภาษาที่น่าประทับใจแล้วสาวๆที่นี่บอกตามตรงว่าน่ารักสุดๆ หลังจากที่มีโอกาสได้เข้าไปชมเกมที่เจ้าภาพลาวสนามพบพม่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สาวลาววัยใสในสีเสื้อ "ลาว สู้ สู้" เข้ามาให้กำลังใจทีมรักกันแน่นสนามกีฬาแห่งชาติหลัก 16 ทำเอาผมเองมีอันต้องเคลิ้มกับความงามอย่างลาวที่ละลานตาเช่นนี้
เพ้อเจ้อมาซะนานยังไม่เข้าเรื่องออนแทร็กเสียที ไหนๆก็มาลาวขอพูดถึงเรื่องของการใช้รถใช้ถนนของคนท้องถิ่นที่นี่เสียหน่อย รถยนต์แต่ละคันที่นี่หรูๆทั้งนั้นครับ เราจะเห็นบนท้องถนนมีรถจากค่ายโตโยตา ทั้งวีโก,วีออส,รวมถึงแคมรี นอกจากนั้นยังมีพลาโด รถตรวจการณ์หรูที่บ้านเราผู้มีอันจะกินเท่านั้นจะเลือกซื้อมาขับ ส่วนรถยุโรปหรูๆ ก็มีให้เห็นทั้งบีเอ็มดับเบิลยู ,เล็กซัส และเมอร์เซเดส-เบนซ์ แต่ที่เกลื่อนที่สุดเห็นจะเป็นฮุนได ค่ายรถจากเกาหลีใต้ที่สืบทราบมาว่าเข้ามาลงทุนในประเทศนี้อยู่มากพอควร
เห็นรถหรูๆบนท้องถนนอย่าคิดว่าคนลาวจะซิ่งแบบคนไทยนะครับ เพราะที่นี่จำกัดความเร็วที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยิ่งไปกว่านั้นในเขตเมืองยังบีบให้ขับเพียง 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้นเอง ทำให้รถแรงๆก็ต้องรักษากฎจราจรด้วยการขับตามที่กำหนด เพราะคนที่นี่รักษาความเร็วกันดีจริงๆ แต่ที่ดูจะหย่อนยานเห็นวินัยในการฝ่าฝืนไฟอำนาจ (ไฟแดง) ซึ่งมีให้เห็นอยู่ชินตาในทุกๆแยก
ก่อนหมดพื้นที่วันนี้ ของทิ้งท้ายด้วยเรื่องราวในวงการมอเตอร์สปอร์ต หลังจากไม่ได้ตามข่าวเอฟวันมาหลายวัน ล่าสุดมีการยืนยันเป็นที่แน่นอนแล้วครับว่า คิมี ไรค์โคเนน อดีตแชมป์โลกปี 2007 ก็จะเปลี่ยนไปแข่งรถทางฝุ่นในศึกแรลลีชิงแชมป์โลก (WRC)ปี 2010 กับทีมซีตรองแทน ก็ไม่แปลกใจครับที่ "ดิไอซ์แมน" จะลงเอยกับแรลลีโลก เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวหนาหูว่า คิมี ลงเอยกับซีตรองไปเรียบร้อยแล้ว
งานนี้ต้องดูว่าราชาทางเรียบจะรุ่งหรือร่วงในทางฝุ่น แต่ถ้าถามผมคิดว่าคงจะร่วงเสียมากกว่า เพราะท่าทางแกคงขับเอามันอย่างเดียว เอาเป็นว่าเวียงจันทน์ออนแทร็กจะกลับในสัปดาห์หน้า วันนี้ขอลาไปก่อนด้วยคำว่า สะบายดี
