“ปทีป” ยันอาเซียนเลนไม่ใช่ต้นเหตุอุบัติเหตุ ย้ำ ปชช.ต้องยอมเสียสละบ้าง

“ปทีป-วิเชียร” เกี่ยวก้อยเยี่ยมให้กำลังใจ ด.ต.ถูกรถขบวนอาเซียนชน แพทย์ยังคงเฝ้ารอดูอาการทางสมอง ยอมรับอาเซียนเลนอาจก่อให้เกิดปัญหาจราจรบ้าง ทั้งนี้เพื่อความสะดวกในการจราจรและการดูแลความปลอดภัยผู้นำ ชี้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มักเกิดจากการฝ่าฝืนทั้งที่ประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่แล้ว

วันนี้ (25 ต.ค.) ที่โรงพยาบาลหัวหิน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ที่ปรึกษา (สบ 10) ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะรองเสนาธิการบดี ศอร.รปภ. พล.ต.ท.ถวิล สุรเชษฐ์พงศ์ ผบก.ภ. 7 พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผบก.ภ.จว.ประจวบฯ เดินทางไปเยี่ยม ด.ต.สมจิตร์ ใจดี ผบ.หมู่งานจราจร สภ.หัวหิน ซึ่งได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่อำนวยการจราจรทางแยกอาเซียนเลน บริเวณหน้าสนามบินหัวหิน จากกรณีที่มีรถยนต์ในขบวนประชุมอาเซียนชน โดยมี นพ.นิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการ รพ.หัวหิน ต้อนรับ

นพ.นิรันดร์ ได้รายงานให้ รรท.ผบ.ตร.และคณะทราบถึงอาการบาดเจ็บของ ด.ต.สมจิตร์ ว่า ขณะนี้ ด.ต.สมจิตร์มีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ เวียนหัว เนื่องจากมีรอยผิวหนังศรีษะถลอกยาว มีอาการจำเหตุการณ์ไม่ได้ช่วงหนึ่ง ซึ่งเป็นเพราะสมองช้ำนอกจากนี้ยังบาดเจ็บที่ ฝ่ามือขวาฉีกขาด จนต้องเย็บ 6 เข็ม สะบักขวาช้ำกระดูกไม่แตก และมีฟกช้ำตามร่างกาย อย่างไรก็ตามแพทย์ยังคงเฝ้าระวังอาการทางสมอง โดยจะนำตัวไปตรวจเช็คสมองด้วยเครื่องเอกซเรย์ให้ละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม จนถึงเช้าวันเดียวกันนี้ผู้ป่วยมีอาการรู้สึกตัวดีขึ้น สามารถรับประทานอาหารเองได้ ช่วยเหลือตัวเองได้ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ปทีป ได้เยี่ยม ด.ต.สมจิตร์พร้อมให้กำลังใจว่า ให้นอนพักรักษาตัวให้หายและแข็งแรง คราวนี้น้ำหนักคงลดลงแน่ นอนพักสัก 1-2 อาทิตย์ให้หายดีก่อนค่อยกลับไปทำงาน และหายเร็วๆ จากนั้น รรท.ผบ.ตร.ได้เดินทางไปเยี่ยมศูนย์สั่งการด้านการแพทย์และการสาธารณสุข การประชุมอาเซียนซัมมิท ซึ่งตั้งอยู่ที่ ชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา โรงพยาบาลหัวหิน

ด้าน พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ตนขอขอบคุณทางศูนย์แพทย์ที่ให้ความดูแลทางการแพทย์แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่ ผอ.รพ.หัวหิน แจ้งให้ทราบนั้น ขอยืนยันว่าอาเซียนเลนไม่ได้เป็นปัญหาที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุและปัญหาเพียงล็กน้อย คือ อาเซียนเลนทำให้การจราจรติดขัด โดยเฉพาะในช่วงที่จะมีขบวนใช้เส้นทาง แต่การประชุมสุดยอดอาเซียนนี้ ถือเป็นการประชุมระดับประเทศ ดังนั้นอะไรที่จะเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้นำประเทศอื่นๆ ที่เข้าร่วมประชุมเราทุกคนก็ต้องให้บริการ ประชาชนต้องยอมเสียสละโดยเฉพาะเรื่องการจราจร

ผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ขับรถในขบวนชน ด.ต.สมจิตร์ ต้องถูกดำเนินคดีอาญาหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า เป็นเรื่องของคดีจราจร ไม่ใช่คดีอาญาซึ่งเป็นหน้าที่ของ สภ.หัวหิน ที่จะดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่า หากมีการประชุมระดับนานาชาติในคราวต่อไป จะมีการจัดช่องทางพิเศษเหมือนอาเซียนเลนอีกหรือไม่ รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า คงต้องดูสภาพการจราจรของการประชุมนั้นๆ ว่ามีความต้องการเลนพิเศษหรือไม่ เพราะถ้าจราจรไม่คับคั่งก็คงไม่จำเป็น แต่ถ้ามีหลายขบวนเหมือนครั้งนี้ก็คงมีความจำเป็น ขึ้นอยู่กับท้องที่ที่จัดงานเป็นหลัก

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นสรุปได้ว่าเกิดจากความเร็วของรถในอาเซียนเลนใช่หรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ไม่ใช่ความเร็วของรถ แต่เท่าที่มีรายงาน คือ การที่มีรถเข้ามาเลี้ยวตัดหน้ารถขบวนที่วิ่งมามากกว่า เมื่อถามว่า ในสายตาของ พล.ต.อ.ปทีป เห็นว่าการมีอาเซียนเลนนั้นดีหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ในภาพรวมถือว่าดี

ด้าน พล.ต.อ.วิเชียร เปิดเผยว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในอาเซียนเลนนั้น มีสาเหตุจากความไม่คุ้นเคยของเส้นทางทั้งของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติและประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากความฝ่าฝืนที่เกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนไปมากแล้ว และยังมีการทดลองใช้อาเซียนเลน ก่อนที่จะมีการประชุมจริงแล้วด้วย โดยมีการปรับปรุงการปฏิบัติหน้าที่ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และยังมีการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการปฏิบัติหน้าที่บริเวณอาเซียนเลนจาก 150 นายเป็น 750 นาย โดยเป็นการเพิ่มขึ้นถึงสามครั้ง เนื่องจากพบปัญหาว่ามีผู้ฝ่าฝืน อย่างไรก็ตามในการกำหนดจุดวางกรวยสีส้ม เพื่อกำหนดเขต อาเซียนเลนนั้น ผู้เชี่ยวชาญของกรมทางหลวงเป็นผู้กำหนดและตอกหมุด ทั้งๆ ที่ปกติจะต้องเป็นหน้าที่ของวิศวกรรมจราจร ซึ่งขอเรียนว่าเป็นความต้องการของกระทรวงการต่างประเทศที่จะให้มีอาเซียนเลนขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคณะผู้นำประเทศต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุม

ผู้สื่อข่าวถามว่า สรุปอุบัติเหตุจากอาเซียนเลนครั้งนี้ มีมากน้อยเพียงใด พล.ต.อ.วิเชียร กล่าวว่า มีประมาณ 4-5 ราย แต่ปกติอุบัติเหตุจากการจราจรในหัวหินก็มีพอสมควรซึ่งมีรายหนึ่งเสียชีวิต เนื่องจากเมาแล้วขับขี่ไปชนท้ายรถทหารที่จอดอยู่ข้างทาง โดยเฉพาะหน้าโรงแรมดุสิตธานีหัวหินนั้น เป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นเพราะมีอาเซียนเลนถึงมีอุบัติเหตุมาก และหากเป็นขบวนที่มีรถตำรวจนำ ก็จะมีการประสานงานกับจราจรทางวิทยุอยู่ตลอดเวลาสามารถปฏิบัติหน้าที่กันได้อย่างดี ยกเว้นถ้ามีรถเข้ามาวิ่งตัดเลน ทำให้ไม่รู้ว่าไปอย่างไรมาอย่างไร ตรงนี้ก็ลำบาก ไม่ได้เป็นเพราะว่าตำรวจไปทำความเข้าใจกับประชาชนน้อยอย่างที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์และตำรวจเองยังจะถูกบรรดาแม่ค้าในตลาดหัวหินร้องเรียนเลยว่าทำให้ค้าขายไม่ได้ เนื่องจากอาเซียนเลนนี้

ด้าน นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า ตั้งแต่ประชุมอาเซียนซัมมิท 21-25 ต.ค. ทางศูนย์ฯ ได้ดูแลด้านการแพทย์ตลอดการประชุม ซึ่งได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลต่างๆ เช่น รพ.ศิริราช, รพ.ราชวิถี, รพ.ในเขต 5 ราชบุรี ซึ่งจากการเฝ้าระวังพบว่า พบโรคตาแดงบ้างเล็กน้อยในเจ้าหน้าที่ทหารในขณะปฏิบัติงาน ซึ่งได้ให้การรักษาและให้ออกจากการปฏิบัติงานไปก่อน โรคท้องเสียพบว่ามีผู้ป่วย 5 ราย จึงได้ควบคุมโรคได้เป็นที่เรียบร้อย ส่วนกรณีที่เกิดคำถามว่าอาเซียนเลนทำให้เกิดอุบัติเหตุจำนวนมากนั้น ขอชี้แจงว่า จนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยจากเหตุการณ์อาเซียนเลน เพียง 5 รายเท่านั้น และเจ็บหนักรายเดียว คือผู้บาดเจ็บหญิงอายุ 18 ปี ขาขวาหัก เนื่องจากถูกรถนำขบวนของ รมว.กลาโหมชน ซึ่งเหตุเกิดที่หน้าร้านหัวหินทันสมัย เมื่อเวลา 13.05 น. วันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากบุคคลดังกล่าวได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในอาเซียนเลน นอกนั้นอีก 5 รายได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย จึงเทียบได้ว่าอุบัติเหตุในช่วงอาเซียนซัมมิตไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก แต่กลับลดลงเนื่องจากรถต่างๆ ถูกจำกัดความเร็ว จึงขอให้ทุกฝ่ายสบายใจ