ลี เวสต์วูด โปรมือ 4 ของโลกชาวอังกฤษและมือ 1 ของยุโรปคนล่าสุด ยอมรับเกือบตัดสินใจอำลาจากวงการกอล์ฟในช่วงที่ฟอร์มตกอย่างหนักเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน ดังนั้นจึงรู้สึกยินดีที่เปลี่ยนความคิดจนได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มากขึ้นและกลายมาเป็นผู้เล่นที่ดีกว่าเดิม ณ เวลานี้
เวสต์วูด คว้าแชมป์ศึกดูไบ เวิลด์ แชมเปียนชิป รายการปิดท้ายฤดูกาล ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมกับครองบัลลังก์มือ 1 ยุโรปเป็นสมัยที่ 2 แต่ย้อนกลับไปช่วงต้นทศวรรษหลังคว้ามือ 1 ยุโรป สมัยแรกเมื่อปี 2000 โปรชาวอังกฤษ ประสบปัญหาฟอร์มตกอย่างหนักจนอีก 2 ปีถัดมาอันดับโลกหล่นไปอยู่ที่ 246 ของโลก
โดย เวสต์วูด เปิดเผยถึงช่วงเวลาอันยากลำบากว่า "ผมพบหลายสิ่งหลายอย่างในช่วงเวลา 8-9 ปีที่ผ่านมา จนรู้ดีว่าอะไรคือการเล่นที่ย่ำแย่ ผมเคยเกือบจะอำลาจากการเล่นหลังตี 81 ช็อตในการแข่งรอบแรกของรายการ เกรท นอร์ธ โอเพน ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2001 และไม่ผ่านการตัดตัว จากนั้นมาผมลงแข่งรายการต่างๆด้วยความคาดหวังที่ต่ำ"
สำหรับตอนนี้โปรวัย 36 ปีรู้สึกยินดีที่เปลี่ยนแปลงความคิดดังกล่าวจนได้รับประสบการณ์เพิ่มมากขึ้นและกลับมาครองบัลลังก์มือ 1 ยุโรปอีกครั้ง "มันเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจอย่างมาก ตลอดทั้งสัปดาห์เป็นการเล่นที่ดีที่สุดของผม ผมขจัดความกดดันที่จะต้องเผชิญในช่วง 2 วันสุดท้ายจนหมด มันแสดงให้เห็นว่าผมเป็นผู้เล่นที่เติบโตขึ้นมาก ข้อบกพร่องและจุดอ่อนต่างๆน้อยลง เมื่อปี 2000 ผมยังอายุน้อยเพียงช่วง 20 ปี แต่ตอนนี้ผมอายุ 36 ปีและมีประสบการณ์มากขึ้น เมื่อคุณอายุน้อยมีแต่ความกล้า แต่เมื่ออายุมากขึ้นมันถูกแทนที่ด้วยประสบการณ์"
เวสต์วูด เปิดเผยต่อว่าฟอร์มการเล่นในปัจจุบันของตนเองเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คว้าแชมป์ได้สำเร็จในศึกดูไบ เวิลด์ แชมเปียนชิป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเอาชนะคู่แข่งอย่าง รอรีย์ แม็คอิลรอย โปรดาวรุ่งวัย 20 ปีจากไอร์แลนด์เหนือ
"ผมคิดว่าสิ่งที่คุณแสดงออกมาสามารถใช้ข่มขวัญคู่แข่งได้ แคดดี้ของผม บิลลี ฟอสเตอร์ บอกให้ผมพยายามข่มพวกเขายามอยู่ในสนามและเรียกสัญชาตญาณเดิมๆเหมือนปี 2000 กลับมา ซึ่งดูเหมือนว่าจะได้ผลจริง อย่างในวันแรกที่ออกรอบกับ รอรีย์ หลังจบวันเขาออกมากล่าวว่ายินดีที่จะไม่ต้องออกรอบกับผมอีกในวันต่อไป คุณคงไม่สามารถหาอะไรได้ดีกว่านั้นอีกแล้วเมื่อคู่แข่งไม่อยากเผชิญหน้ากับคุณ" โปรเมืองผู้ดีกล่าวปิดท้าย
เวสต์วูด คว้าแชมป์ศึกดูไบ เวิลด์ แชมเปียนชิป รายการปิดท้ายฤดูกาล ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมกับครองบัลลังก์มือ 1 ยุโรปเป็นสมัยที่ 2 แต่ย้อนกลับไปช่วงต้นทศวรรษหลังคว้ามือ 1 ยุโรป สมัยแรกเมื่อปี 2000 โปรชาวอังกฤษ ประสบปัญหาฟอร์มตกอย่างหนักจนอีก 2 ปีถัดมาอันดับโลกหล่นไปอยู่ที่ 246 ของโลก
โดย เวสต์วูด เปิดเผยถึงช่วงเวลาอันยากลำบากว่า "ผมพบหลายสิ่งหลายอย่างในช่วงเวลา 8-9 ปีที่ผ่านมา จนรู้ดีว่าอะไรคือการเล่นที่ย่ำแย่ ผมเคยเกือบจะอำลาจากการเล่นหลังตี 81 ช็อตในการแข่งรอบแรกของรายการ เกรท นอร์ธ โอเพน ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2001 และไม่ผ่านการตัดตัว จากนั้นมาผมลงแข่งรายการต่างๆด้วยความคาดหวังที่ต่ำ"
สำหรับตอนนี้โปรวัย 36 ปีรู้สึกยินดีที่เปลี่ยนแปลงความคิดดังกล่าวจนได้รับประสบการณ์เพิ่มมากขึ้นและกลับมาครองบัลลังก์มือ 1 ยุโรปอีกครั้ง "มันเป็นสิ่งที่ผมภูมิใจอย่างมาก ตลอดทั้งสัปดาห์เป็นการเล่นที่ดีที่สุดของผม ผมขจัดความกดดันที่จะต้องเผชิญในช่วง 2 วันสุดท้ายจนหมด มันแสดงให้เห็นว่าผมเป็นผู้เล่นที่เติบโตขึ้นมาก ข้อบกพร่องและจุดอ่อนต่างๆน้อยลง เมื่อปี 2000 ผมยังอายุน้อยเพียงช่วง 20 ปี แต่ตอนนี้ผมอายุ 36 ปีและมีประสบการณ์มากขึ้น เมื่อคุณอายุน้อยมีแต่ความกล้า แต่เมื่ออายุมากขึ้นมันถูกแทนที่ด้วยประสบการณ์"
เวสต์วูด เปิดเผยต่อว่าฟอร์มการเล่นในปัจจุบันของตนเองเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คว้าแชมป์ได้สำเร็จในศึกดูไบ เวิลด์ แชมเปียนชิป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเอาชนะคู่แข่งอย่าง รอรีย์ แม็คอิลรอย โปรดาวรุ่งวัย 20 ปีจากไอร์แลนด์เหนือ
"ผมคิดว่าสิ่งที่คุณแสดงออกมาสามารถใช้ข่มขวัญคู่แข่งได้ แคดดี้ของผม บิลลี ฟอสเตอร์ บอกให้ผมพยายามข่มพวกเขายามอยู่ในสนามและเรียกสัญชาตญาณเดิมๆเหมือนปี 2000 กลับมา ซึ่งดูเหมือนว่าจะได้ผลจริง อย่างในวันแรกที่ออกรอบกับ รอรีย์ หลังจบวันเขาออกมากล่าวว่ายินดีที่จะไม่ต้องออกรอบกับผมอีกในวันต่อไป คุณคงไม่สามารถหาอะไรได้ดีกว่านั้นอีกแล้วเมื่อคู่แข่งไม่อยากเผชิญหน้ากับคุณ" โปรเมืองผู้ดีกล่าวปิดท้าย
