ราฟาเอล เบนิเตซ ออกโรงครวญ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ไร้โชคโดน โอลิมปิก ลียง ตีเสมอ 1-1 นาทีสุดท้าย ทำให้ทีมต้องอาศัยปาฏิหาริย์ถึงจะมีโอกาสผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายของศึกฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ประจำฤดูกาล 2009/10
ลิเวอร์พูล เป็นทีมเดียวจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งหมิ่นเหม่ต่อการตกรอบ หลังจากที่ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, “สิงห์บลูส์” เชลซี และ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ต่างคว้าตั๋วไปเล่นรอบน็อกเอาท์ของศึกลูกหนังยุโรปถ้วยใบใหญ่ โดยเมื่อคืนวันพุธ “หงส์แดง” บุกไปทำได้แค่เสมอกับ โอลิมปิก ลียง ถึงฝรั่งเศส 1-1 ทีมเยือนนำก่อนจากลูกยิงไกลอันเฉียบขาดของ ไรอัน บาเบล ปีกตัวสำรองในนาทีที่ 83 แต่นาทีสุดท้าย ลิซานโดร โลเปซ หัวหอกตัวเก่งชาวอาร์เจนไตน์ หลุดไปซัดประตูตีเจ๊าอย่างเจ็บแสบ
ภายหลังการแข่งขัน ราฟาเอล เบนิเตซ ให้สัมภาษณ์ผ่าน “สกาย สปอร์ตส” สื่อเมืองผู้ดี “โชคร้ายจริงๆ มันน่าผิดหวัง แต่ผมคิดว่านักเตะทุกคนทำงานกันได้ดีแล้ว ก่อนเกมเราประสบปัญหามากมาย ผมคิดว่าปฏิกิริยาของผู้เล่นในวันนี้ถือเป็นเรื่องในแง่บวก เราน่าจะเอาชนะได้ มีโอกาส และก็ทำงานกันอย่างหนัก แต่ก็มาเสียประตูในนาทีสุดท้าย ฟุตบอลมักมีเรื่องให้ประหลาดใจอยู่เสมอ บางครั้งคุณก็ไม่คู่ควรที่จะได้รับมัน”
นอกจากนี้ กุนซือชาวสเปนยอมรับ “หงส์แดง” คงต้องพึ่งปาฏิหาริย์ใน 2 นัดที่เหลือ “โอเค เราต้องชนะให้ได้ต่อจากนี้ และก็ต้องรอลุ้นผลระหว่าง ลียง กับ ฟิออเรนตินา ซึ่งถ้าเราเก็บชัยชนะได้ บางทีในนัดสุดท้ายอาจมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น แม้ว่าผมคิดว่ามันค่อนข้างยาก แต่ในเมื่อเรายังมีลมหายใจก็ต้องลุยกันต่อไป”
สำหรับตารางคะแนนของกลุ่มอี ลียง จ่าฝูงเข้ารอบแน่นอนแล้ว จากการเก็บไป 10 คะแนนจาก 4 นัด (เฮดทูเฮด เหนือกว่า ลิเวอร์พูล) ขณะที่ ฟิออเรนตินา จากอิตาลี รั้งที่ 2 มี 9 แต้ม ด้าน ลิเวอร์พูล เพิ่งมีเพียง 4 คะแนน ขณะที่ เดเบรเซน ของฮังการี ไม่มีแม้แต่คะแนนเดียว
โดยเกมนัดที่ 5 “หงส์แดง” ต้องบุกไปชนะ เดเบรเซน ให้ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้า ฟิออเรนตินา เปิด อาร์เตมิโอ ฟรังคี บี้เอาชนะ ลียง ได้ สำเร็จ ความหวังของ “หงส์แดง” ก็จะสลายในทันที แต่ถ้า “ม่วงมหากาฬ” ได้แค่ผลเสมอ ลูกทีมของ เบนิเตซ จะมีลุ้นขึ้นมาทันที หากนัดสุดท้ายเปิดแอนฟิลด์ชนะ ฟิออเรนตินา ได้ 3-0 หรือมากกว่านั้น เพราะจะทำให้เฮดทูเฮด ดีกว่าทันที หลังจากนัดแรก ลิเวอร์พูล บุกไปพ่ายมา 0-2
ลิเวอร์พูล เป็นทีมเดียวจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งหมิ่นเหม่ต่อการตกรอบ หลังจากที่ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, “สิงห์บลูส์” เชลซี และ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ต่างคว้าตั๋วไปเล่นรอบน็อกเอาท์ของศึกลูกหนังยุโรปถ้วยใบใหญ่ โดยเมื่อคืนวันพุธ “หงส์แดง” บุกไปทำได้แค่เสมอกับ โอลิมปิก ลียง ถึงฝรั่งเศส 1-1 ทีมเยือนนำก่อนจากลูกยิงไกลอันเฉียบขาดของ ไรอัน บาเบล ปีกตัวสำรองในนาทีที่ 83 แต่นาทีสุดท้าย ลิซานโดร โลเปซ หัวหอกตัวเก่งชาวอาร์เจนไตน์ หลุดไปซัดประตูตีเจ๊าอย่างเจ็บแสบ
ภายหลังการแข่งขัน ราฟาเอล เบนิเตซ ให้สัมภาษณ์ผ่าน “สกาย สปอร์ตส” สื่อเมืองผู้ดี “โชคร้ายจริงๆ มันน่าผิดหวัง แต่ผมคิดว่านักเตะทุกคนทำงานกันได้ดีแล้ว ก่อนเกมเราประสบปัญหามากมาย ผมคิดว่าปฏิกิริยาของผู้เล่นในวันนี้ถือเป็นเรื่องในแง่บวก เราน่าจะเอาชนะได้ มีโอกาส และก็ทำงานกันอย่างหนัก แต่ก็มาเสียประตูในนาทีสุดท้าย ฟุตบอลมักมีเรื่องให้ประหลาดใจอยู่เสมอ บางครั้งคุณก็ไม่คู่ควรที่จะได้รับมัน”
นอกจากนี้ กุนซือชาวสเปนยอมรับ “หงส์แดง” คงต้องพึ่งปาฏิหาริย์ใน 2 นัดที่เหลือ “โอเค เราต้องชนะให้ได้ต่อจากนี้ และก็ต้องรอลุ้นผลระหว่าง ลียง กับ ฟิออเรนตินา ซึ่งถ้าเราเก็บชัยชนะได้ บางทีในนัดสุดท้ายอาจมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น แม้ว่าผมคิดว่ามันค่อนข้างยาก แต่ในเมื่อเรายังมีลมหายใจก็ต้องลุยกันต่อไป”
สำหรับตารางคะแนนของกลุ่มอี ลียง จ่าฝูงเข้ารอบแน่นอนแล้ว จากการเก็บไป 10 คะแนนจาก 4 นัด (เฮดทูเฮด เหนือกว่า ลิเวอร์พูล) ขณะที่ ฟิออเรนตินา จากอิตาลี รั้งที่ 2 มี 9 แต้ม ด้าน ลิเวอร์พูล เพิ่งมีเพียง 4 คะแนน ขณะที่ เดเบรเซน ของฮังการี ไม่มีแม้แต่คะแนนเดียว
โดยเกมนัดที่ 5 “หงส์แดง” ต้องบุกไปชนะ เดเบรเซน ให้ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้า ฟิออเรนตินา เปิด อาร์เตมิโอ ฟรังคี บี้เอาชนะ ลียง ได้ สำเร็จ ความหวังของ “หงส์แดง” ก็จะสลายในทันที แต่ถ้า “ม่วงมหากาฬ” ได้แค่ผลเสมอ ลูกทีมของ เบนิเตซ จะมีลุ้นขึ้นมาทันที หากนัดสุดท้ายเปิดแอนฟิลด์ชนะ ฟิออเรนตินา ได้ 3-0 หรือมากกว่านั้น เพราะจะทำให้เฮดทูเฮด ดีกว่าทันที หลังจากนัดแรก ลิเวอร์พูล บุกไปพ่ายมา 0-2
