xs
xsm
sm
md
lg

หงส์ร่อแร่เจ๊า 1-1 ปืนสลุต 4-1 เข้าน็อกเอาท์ยูซีแอล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ร่อแร่หลังบุกไปโดน โอลิมปิก ลียง ตีเสมอนาทีท้าย 1-1 ด้าน “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เปิดรังสลุตชัย อาแซด อัล์คมาร์ 4-1 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อกเอาท์ 16 ทีมสุดท้ายของศึกยูฟา แชมเปียนส์ ลีก สำเร็จ

ศึกฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 กลุ่มอี
โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) 1-1 ลิเวอร์พูล (อังกฤษ
)


มากูน ไล่บี้บอลจาก เคาท์
ราฟาเอล เบนิเตซ มีความจำเป็นต้องนำทัพ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล บุกมาเฮถึงฝรั่งเศส หากต้องการต่ออายุการลุ้นเข้าสู่รอบน็อกเอาท์แชมเปียนส์ ลีก แต่นัดนี้ทีมเยือนขาดนักเตะที่บาดเจ็บหลายรายทั้ง สตีเวน เจอร์ราร์ด, เกล็น จอห์นสัน, ฟาบิโอ ออเรลิโอ หรือว่า อัลเบิร์ต ริเอรา แต่ก็เข็น เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่เจ็บโคนขาหนีบลงมาล่าตาข่ายร่วมกับ อังเดร โวโรนิน แผงรับถ่าง เจมี คาร์ราเกอร์ ยืนแบ็กขวา ด้าน โอลิมปิก ลียง ถ้าชนะนัดนี้จะได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายทันที โคลด ปูแอล จึงจัดทีมชุดใหญ่ลงสนามนำโดยตัวรุกอย่าง มิราเลม ปานิช, บาเฟติมบี โกมิส และ ลิซานโดร โลเปซ
บาสโตส คอยป่วน อินซัว
เริ่มเกมการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ดันเกมลุยก่อน แต่เป็น ลียง ได้โอกาสแรกของเกม มิเชล บาสโตส ลองสับด้วยซ้ายจากนอกกรอบบอลพุ่งกระดอนพื้นแต่ก็เข้าซอง โฆเซ เรนา นาทีที่ 12 "หงส์แดง" เกือบขึ้นนำจากการสวนขึ้นมาทางกราบซ้าย เอมิลิอาโน อินซัว เปิดหักเข้าในให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส ตวัดยิงเร็วด้วยซ้ายแต่ ฮูโก ยอริส ปฏิกิริยาเร็วใช้ขาสกัดบอลออกมาได้หวุดหวิด ผ่าน 15 นาทีแรก ผู้มาเยือนลุยขึ้นมาได้ลุ้นอีกครั้ง อินซัว เปิดเข้ามากองหลังเจ้าถิ่นสกัดไม่ขาด เดิร์ก เคาท์ ได้ดีดบอลเน้นๆ ร้อนถึง ยอริส ต้องโชว์ซูเปอร์เซฟบินปัดข้ามคาน จากนั้น "โอแอล" ต้องปรับทัพกระทันหัน อองโตนี เรเวลแยร์ บาดเจ็บต้องส่ง ลามีน กาสซามา ดาวรุ่งยืนแบ็กขวาแทน

ครึ่งทางของครึ่งแรกผ่านไป ลิเวอร์พูล ใช้จังหวะเปิดเกมให้ อังเดร โวโรนิน หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงด้วยขวาแต่ ยอริส ไวทายาทใช้ขาสกัดได้ทันก่อนบอลจะลอดเข้าไป เป็นเซฟสำคัญอีกครั้งสำหรับนายทวารมือ 1 ทีมชาติฝรั่งเศส นาทีที่ 33 แฟนๆ ทีมเยือนเกือบได้ลุ้นเมื่อ ตอร์เรส ลากหลุดเข้ากรอบโทษแต่ กาสซามา สอดขาเข้ามาแหย่บอลได้หวุดหวิด ท้ายครึ่งแรก ลียง ต้องเปลี่ยนตัวคนที่สองเมื่อ มิราเลม ปานิช บาดเจ็บต้องให้ เอเดอร์สัน ลงมาปั้นเกมแทน จบ 45 นาทีแรก ยังไม่มีฝ่ายใดทำประตูกันได้
ตอร์เรส พลิกหลบ คัลล์สตรอม
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง "เดอะ ค็อป" เสียววาบเมื่อ เอเดอร์สัน ลากตะลุยเข้าริมเขตโทษก่อนโดน อินซัว ใช้ตัวกระแทกล้มลงไป ทว่าผู้ตัดสินไม่ได้เป่านกหวีดยาวแต่อย่างใด เกมเรื่อยๆ มาเรียงๆ ลิเวอร์พูล ไม่ค่อยโหมเกมรุกมากนัก ทำให้ ลียง เดินหน้าบุกขึ้นมาบ้างและก็ได้ลูกฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลา คิม คัลล์สตรอม ปั่นด้วยซ้ายบอลลอยข้ามคาน นาทีที่ 65 "เอล ราฟา" ต้องปรับหมากใส่ ไรอัน บาเบล มาเล่นแทน โวโรนิน และทีมเยือนก็เกือบเฮนำเมื่อ ลูคัส เลวา หลุดขึ้นมาทางซ้ายยิงเน้นๆ ด้วยขวาแต่ ยอริส ปัดได้ปลายมือมาเข้าทาง เคาท์ กระโดดตีลังกายิงทว่ายังโดน อาลี ซิสโซโก เคลียร์ทิ้งจากเส้นประตูได้อีก

จากนั้นเจ้าบ้านมาได้ฟรีคิกอีกครั้งคราวนี้ไกลกว่า 35 หลา บาสโตส ปั่นบอลข้ามกำแพงแต่ยังไม่ผ่านมือ เรนา ลียง ขยับเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายใส่ ซิดนีย์ โกวู มาเติมพลังรุกแทน บาเฟติมบี โกมิส และความผิดพลาดของ โซติริออส คีร์เกียกอส ที่โหม่งบอลคืนหลังเบาเกินไป ลิซานโดร โลเปซ ฉกเข้าไปยิงแต่ติดเซฟ เรนา เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล ดันเกมขึ้นไปจนโดนสวนกลับ โลเปซ หักหลบทั้ง คีร์เกียกอส และ ดาเนียล แอ็กเกอร์ ยิงด้วยซ้ายแต่บอลโค้งไม่พอ แต่ถึงนาทีที่ 83 "หงส์แดง" มาได้ประตูนำ 1-0 จากลูกส่องไกลของ บาเบล

แต่ความหวังในการต่ออายุเข้ารอบของ ลิเวอร์พูล มาดับวูบเมื่อ โลเปซ หลุดเข้าไปยิงตีเสมอให้ ลียง 1-1 ในนาทีสุดท้าย หมดเวลา "หงส์แดง" ทำได้แค่เสมอมีเพิ่มเป็น 4 คะแนนจาก 4 นัด โอกาสเข้ารอบริบหรี่ ขณะที่ "โอแอล" ได้เข้ารอบแน่นอนแล้วจากการมี 10 แต้ม และผลงานเฮดทูเฮดก็ดีกว่า ลิเวอร์พูล ขณะที่ "ม่วงมหากาฬ" ฟิออเรนตินา รั้งอันดับ 2 ของกลุ่มมีอยู่ 9 คะแนน หลังเปิดบ้านถล่ม เดเบรเซน 5-2

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลียง : ฮูโก ยอริส , อองโตนี เรเวลแยร์ , คริส , เฌเรมี ตูลาล็อง , อาลี ซิสโซโก , ฌอง มากูน , คิม คัลล์สตรอม , มิราเลม ปานิช , มิเชล บาสโตส , บาเฟติมบี โกมิส , ลิซานโดร โลเปซ

ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , เจมี คาร์ราเกอร์ , โซติริออส คีร์เกียกอส , ดาเนียล แอ็กเกอร์ , เอมิลิอาโน อินซัว , เดิร์ก เคาท์ , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , ลูคัส เลวา , ยอสซี เบนายูน , อังเดร โวโรนิน , เฟร์นานโด ตอร์เรส
นาสรี ลากตะลุยเข้าไปส่องให้ปืนเฮ
ผลฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ประจำคืนวันพุธ

กลุ่มอี
ฟิออเรนตินา (อิตาลี) 5-2 เดเบรเซน (ฮังการี)

[1-0 : อาเดรียน มูตู (น.14) , 1-1 : เกอเกลี รูดอล์ฟ (น.38) , 2-1 : ดาริโอ ดานิเอลลี (น.52) , 3-1 : ริคคาร์โด มอนโตลิโว (น.59) , 4-1 : มาร์โก มาร์คิออนนี (น.61) , 4-2 : อดาโม คูลิบาลี (น.70) , 5-2 : อัลแบร์โต จิลาร์ดิโน (น.74)]

โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส) 1-1 ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
[0-1 : ไรอัน บาเบล (น.83) , 1-1 : ลิซานโดร โลเปซ (น.90)]

กลุ่มเอฟ
รูบิน คาซาน (รัสเซีย) 0-0 บาร์เซโลนา (สเปน)

ดินาโม เคียฟ (ยูเครน) 1-2 อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี)
[1-0 : อังเดร เชฟเชนโก (น.21) , 1-1 : ดีเอโก มิลิโต (น.86) , 1-2 : เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ (น.88)]

กลุ่มจี
เซบีญา (สเปน) 1-1 สตุดการ์ท (เยอรมนี)
[1-0 : เฆซุส นาบาส (น.14) , 1-1 : ซดราฟโก คุซมาโนวิช (น.78)]

ยูนิเรีย อูร์ซิเซนี (โรมาเนีย) 1-1 กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์)
[0-1 : ลี แม็คคัลลอช (น.78) , 1-1 : มาริอุส โอนอฟราส (น.88)]

กลุ่มเอช
อาร์เซนอล (อังกฤษ) 4-1 อาแซด อัล์คมาร์ (ฮอลแลนด์)

[1-0 : เชส ฟาเบรกาส (น.25) , 2-0 : ซาเมียร์ นาสรี (น.43) , 3-0 : เชส ฟาเบรกาส (น.52) , 4-0 : อาบู ดิยาบี (น.72) , 4-1 : เจเรเมน ล็องส์ (น.82)]

สตองดาร์ด ลีแอช (เบลเยียม) 2-0 โอลิมเปียกอส (กรีซ)
[1-0 : ดิวดอนเน เอ็มโบกานี (น.30) , 2-0 : มิลาน โยวาโนวิช (น.88)]
กำลังโหลดความคิดเห็น