กลับมาอีกครั้งสำหรับความมันในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลใหม่ 2009-10 เตรียมเปิดฉากฟาดแข้งกันในวันอังคารที่ 15 กันยายนนี้ สำนักข่าว “รอยเตอร์” จึงรวบรวมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของทั้ง 8 กลุ่มมาฝากกันก่อนเป็นการอุ่นเครื่อง
กลุ่ม เอ - บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมนี) ยูเวนตุส (อิตาลี) บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส) มัคคาบี ไฮฟา (อิสราเอล)
บาเยิร์น และ ยูเวนตุส ห่างหายจากเวที แชมเปียนส์ ลีก ก่อนจะกลับมาอีกครั้ง “เสือใต้” ชนะ 2 นัดหลังในลีกเมืองเบียร์ หลังการมาของ อาร์เยน ร็อบเบน ส่วน “ม้าลาย” ชนะ 3 นัดรวดกับนักเตะใหม่อย่าง ดิเอโก แต่ บอร์กโดซ์ ของ โลร็องต์ บลองก์ อาจจะสร้างความประหลาดใจ เพราะมีนักเตะอย่าง โยฮัน กูร์คุฟฟ์ และ มารูยาน ชามัค
กลุ่ม บี - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) เบซิคตัส (ตุรกี) โวล์ฟสบวร์ก (เยอรมนี)
แมนฯยู ไม่แพ้ใน ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 25 นัด ก่อนจะเสียท่าให้ บาร์เซโลนา ในนัดชิงเมื่อปีที่แล้ว ดูแล้วงานหนักมีแค่ 2 นัดเท่านั้น คือ การออกไปเยือน ซีเอสเคเอ มอสโก และ เบซิคตัส รวมถึงต้องเจอกับแชมป์ บุนเดสลีกา จอมเซอร์ไพรส์อย่าง โวล์ฟสบวร์ก
กลุ่ม ซี - เอซี มิลาน (อิตาลี) รีล มาดริด (สเปน) โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) เอฟซี ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์)
ต้องลุ้น รีล มาดริด อดีตแชมป์สูงสุด 9 สมัยทุ่มเม็ดเงิน 250 ล้านยูโร (ประมาณ 12,250 ล้านบาท) เสริมทัพนักเตะอย่าง กากา, คริสเตียโน โรนัลโด, คาริม เบนเซมา และ ชาบี อลอนโซ จะทวงคืนความยิ่งใหญ่ได้หรือไม่ ต้องเจอกับ มิลาน ภายใต้การคุมทัพของ เลโอนาร์โด ที่หลายคนยังไม่เชื่อฝีมือ ซึ่งก็จะมองข้าม มาร์กเซย์ ไม่ได้เด็ดขาด
กลุ่ม ดี - เชลซี (อังกฤษ) เอฟซี ปอร์โต (โปรตุเกส) แอตเลติโก มาดริด (สเปน) อาโปเอล นิโคเซีย (ไซปรัส)
คาร์โล อันเชล็อตติ กำลังลุ้นเป็นกุนซือคนที่ 2 ต่อจาก ออตมาร์ ฮิทซ์เฟลด์ ที่คว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก กับสโมสรที่แตกต่างกัน หลังพา เอซี มิลาน คว้าแชมป์ได้ในปี 2003 และ 2007 ส่วน ปอร์โต เข้ารอบแบ่งกลุ่มมาแล้ว 7 ฤดูกาลตกรอบแค่ครั้งเดียว และเคยเขี่ย แอต.มาดริด ร่วงน็อกเอาต์เมื่อปีที่แล้ว
กลุ่ม อี - ลิเวอร์พูล (อังกฤษ), โอลิมปิก ลียง (ฝรั่งเศส), ฟิออเรนตินา (อิตาลี), เดเบรเซน (ฮังการี)
ลิเวอร์พูล อดีตแชมป์จอมคัมแบ็กเมื่อปี 2005 แต่ทว่าก็จะประมาท ลียง ไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะฝากผลงานในรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาลที่ผ่านๆ มาได้อย่างโดดเด่น ส่วน ฟิออเรนตินา ก็หวังจะเข้ารอบแบ่งกลุ่มเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1999-2000 และ เดเบรเซน เป็นทีมฮังการีที่ผ่านรอบคัดเลือกเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ
กลุ่ม เอฟ - บาร์เซโลนา (สเปน), อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี), ดินาโม เคียฟ (ยูเครน), รูบิน คาซาน (ไซปรัส)
ต้องจับตาดู บาร์เซโลนา แชมป์เก่าที่ตัดสินใจสลับขั้ว ซามูเอล เอโต กับ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ทั้งที่ดาวยิงทีมชาติแคเมอรูน ยิงได้ทั้ง 2 นัดหลังสุดที่ทีมเข้าชิงแล้วคว้าแชมป์ ส่วน อินเตอร์ ไม่คว้าแชมป์ยุโรปมาตั้งแต่ปี 1965 และ อังเดร เชฟเชนโก จะลงล่าตาข่ายให้กับ ดินาโม เคียฟ ในแชมเปียนส์ ลีก ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1998-99
กลุ่ม จี - เซบีญา (สเปน) กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) สตุตการ์ท (เยอรมนี) ยูนิเรีย อูร์ซิเซนี (โรมาเนีย)
เซบีญา เข้ารอบแบ่งกลุ่ม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เป็นหนที่ 2 ต่อจากฤดูกาล 2007-08 ที่ทะลุเข้าไปแพ้ต่อ เฟเนร์บาห์เช ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เรนเจอร์ส และ สตุตการ์ท น่าจะต้องแย่งกันเข้ารอบเป็นอันดับ 2 แต่ที่น่าสนใจคือ แดน เปเตรสคู อดีตนักเตะ เชลซี จะใช้ประสบการณ์ตนเองคุม ยูนิเรีย อูร์ซิเซนี ไปได้ไกลแค่ไหน
กลุ่ม เอช - อาร์เซนอล (อังกฤษ) เอแซด อัล์คมาร์ (ฮอลแลนด์) โอลิมเปียกอส (กรีซ) สตองดาร์ ลีแอช (เบลเยียม)
อาร์เซนอล อยู่ในกลุ่มเบาที่สุดในฤดูกาลนี้ แต่จะไม่มี เอดูอาร์โด ดา ซิลวา กองหน้าโครแอต เนื่องจากติดโทษแบน 2 นัด จากการพุ่งล้มในรอบคัดเลือก อย่างไรก็ตาม จะประมาท โอลิมเปียกอส ที่เข้ารอบน็อกเอาต์ได้ถึง 11 ครั้งไม่ได้ โดยอาจจะมีตัวสอดแทรก คือ อัล์คมาร์
