ASTVผู้จัดการรายวัน/รายงานพิเศษ - เมื่อนับถอยหลังสู่เวียงจันทร์เกมส์ที่จะเกิดขึ้นในอีก 37 วันข้างหน้านี้ นอกจากความพร้อมในเรื่องสนามแข่งขันที่เจ้าภาพทุ่มหวังจะใช้มหกรรมกีฬาครั้งนี้เป็นการเปิดประเทศอย่างงดงามแล้ว นักกีฬาทีมชาติลาวก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สื่อหลายชาติจับตามอง และในจำนวนนั้นมีทีมเทนนิสแห่งสปป.ลาวซึ่งส่งทีมลงแข่งกีฬาแห่งภูมิภาคมาอย่างสม่ำเสมอ แม้จะไม่ประสบความสำเร็จนักแต่จากประสบการณ์ที่ได้ทำให้นักหวดจากริมโขงมีพัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ และในซีเกมส์ครั้งที่ 25 พวกเขาเดินทางมาเก็บซุ่มซ้อมอยู่บนแผ่นดินไทยกว่า 1 เดือน เพื่อยกระดับฝีมือและเพิ่มประสบการณ์เพื่อให้ผลงานบนแผ่นดินเกิดดีกว่าซีเกมส์ครั้งที่ผ่านมา และนอกจากจะหวังผลในการแข่งขันเดือนธันวาคมนี้แล้ว ทีมลูกสักหลาดแห่งสปป.ลาวซึ่งมีสายเลือดใหม่อยู่กว่าค่อนทีมยังหวังว่าจะได้พัฒนาเกมสักหลาดของตนเองอย่างต่อเนื่องเพื่อก้าวไปสู่ระดับอาชีพในอนาคตข้างหน้า
ด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและลอนเทนนิสสมาคมของสองชาติส่งผลให้ ทีมเทนนิสลาว 10 คนประกอบด้วยโค้ช 1 คนและนักกีฬาอีก 9 คนซึ่งอยู่ในระดับสมัครเล่น เดินทางมาฝึกซ้อมที่ ศูนย์พัฒนาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน - 21 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยทางลอนเทนนิสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ได้มอบหมายให้ "มงคล ใจดี" อดีตผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาของการกีฬาแห่งประเทศไทยจัดโปรแกรมการฝึกซ้อมที่เหมาะสม ขณะที่ขั้นตอนการปฏิบัติได้ "วิทยา สำเร็จ" อดีตนักหวดทีมชาตินำทีมโค้ชติวเข้ม
หลังเป็นผู้ประเมินผลการฝึกซ้อมให้ทีมหวดลาวพัฒนาขึ้น 60 เปอร์เซนต์ "อาจารย์กุ้ง" มงคล วัย 60 ปีเผยความรู้สึกในการร่วมพัฒนาเทนนิสเพื่อนบ้านกับทีมข่าวกีฬาMGR Sport ว่า "ต้องยอมรับว่าสมัยผมยังเป็นวัยรุ่นนักเทนนิสลาวฝีมือดีมากๆ ทว่ายุคหลังเงียบเหงาไปหลังจากภัยสงครามกลางเมืองในยุค 60-70 ทำให้นักเทนนิสของเขาเดินทางออกนอกประเทศไปหมด โดยรัฐบาลลาวยุคปัจจุบันปรารถนาสร้างคลื่นลูกใหม่ขึ้นมา ซึ่งนักกีฬาดาวรุ่งที่มาซ้อมที่ไทยครั้งนี้นับว่ามีอนาคตที่สดใส พวกเขามีความทุ่มเทและมุ่งมั่นศึกษาหาความรู้ ดังนั้นโอกาสคว้าเหรียญรางวัลซีเกมส์ รวมถึงสร้างนักเทนนิสอาชีพขึ้นมาในอนาคตอันใกล้จึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้"
โดย "น้องลิ่ม" วิทยา ราชาวดี นักเทนนิสทีมชาติลาววัย 17 ปีซึ่งได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นจอมหวดยุคใหม่ที่ก้าวไปสู่ระดับอาชีพและเป็นความหวังเหรียญรางวัล "เวียงจันทน์เกมส์" ออกมากล่าวถึงประสบการณ์ในโลกเทนนิสของตนเองว่า "ผมได้รับโอกาสดีมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ได้เข้าโปรแกรมฝึกด้านพละกำลังกับโค้ชของจีน จากนั้นก็ได้มาแข่งขันและเก็บตัวที่ไทย นอกจากนี้ยังได้คุณพ่อให้การสนับสนุน ทำให้รู้สึกว่าตนเองพัฒนาฝีมือได้ต่อเนื่องและน่าจะก้าวไปเล่นอาชีพได้ในอนาคต โดยขอเริ่มจากระดับ ไอทีเอฟ เซอร์กิต"
ขณะที่ "โก้ย" สมใจ พระพิทักษ์ เด็กจากหนุ่มสะหวันนะเขตวัย 24 ปีซึ่งเคยฝึกวิชาเทนนิสที่ วิทยาลัยพละศึกษา สุโขทัย ยอมรับโอกาสเล่นอาชีพมีน้อย หากแต่ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาวงการสักหลาดบ้านเกิด "ผมมีวันนี้ได้เพราะลูกกลมๆที่มีลมข้างใน โดยไปอาศัยทำหน้าที่เด็กเก็บบอลเพื่อแลกกับการเล่นเทนนิสตั้งแต่เรียนประถม 4 มาวันนี้ต้องยอมรับว่าโอกาสเล่นอาชีพของตนเองคงมีไม่มาก ดังนั้นจึงหวังนำประสบการณ์ที่ได้รับจากไทยในครั้งนี้ไปถ่ายทอดให้กับน้องๆที่กำลังเติบโตขึ้นมา"
สำหรับ วิทยา และ สมใจ นั้นยอมรับว่าได้รับแรงบันดาลใจในการเล่นเทนนิสจาก ภราดร ศรีชาพันธุ์ แร็กเกตสัญชาติไทยซึ่งพุ่งขึ้นไปเป็นมือ 9 ของโลกมาแล้ว ขณะที่ฟากฝั่งเทนนิสหญิง "แทมมี" แทมมารีน ธนสุกาญจน์ และ แอน แก้วทะวง นักเทนนิสอังกฤษเชื้อสายลาว ถือเป็นต้นแบบของนักหวดสาวลาวหลายคน ดังคำบอกเล่าของ ดารา ณีรชัย หนึ่งในสมาชิกทีมซีเกมส์ ซึ่งกล่าวไว้ว่า "ได้มีโอกาสดูและศึกษาการเล่นของพี่แทมมีตั้งแต่ยังเด็ก รวมถึงได้เห็น แอน ซึ่งเป็นคนลาวร้อยเปอร์เซนต์เพียงแต่ถือสัญชาติอังกฤษเข้าไปติดท็อป 100 ของโลก ทำให้เราภูมิใจและอยากไปสู่จุดนั้นบ้าง แต่ก่อนอื่นเราต้องตั้งใจฝึกซ้อมและอย่าได้ท้อถอยไปเสียก่อน"
ทั้งหมดนี้คือการวางแผนชีวิตและแรงปรารถนาของดาวรุ่งทีมชาติลาว ซึ่งมีภารกิจสำคัญในการลงแข่งขันเทนนิส ซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ณ สนามเทนนิส กม. 16 กรุงเวียงจันทน์ในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อลุ้นเหรียญทองแดงเป็นอย่างน้อยตามเป้าหมาย ก่อนที่ทั้งหมดจะร่วมใจกันพัฒนาวงการสักหลาดในประเทศมุ่งหน้าสานฝันที่จะได้เห็นนักเทนนิสเลือดลาว สัญชาติลาว คนแรกขึ้นไปมีอันดับโลกอยู่ใน เอทีพี หรือ ดับเบิลยูทีเอ ทัวร์ ในวันข้างหน้า
