สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) เตรียมเข้าสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในศึกคาร์ลิง คัพ รอบสี่ คู่ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ บาร์นสลีย์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังมีแฟนบอลลงมาป่วนเกมและร้านอาหารในสนามถูกขโมยเงินและสิ่งของไป
เมื่อวันอังคารที่ 27 ตุลาคม แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะ บาร์นสลีย์ 2-0 จนผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกคาร์ลิง คัพ แต่เกมนัดดังกล่าวมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นจากการกระทำของแฟนบอล ซึ่งปรากฎว่าแฟนบอลจำนวน 7 รายถูกจับ โดยเป็นกองเชียร์เจ้าตูบ 3 รายและกองเชียร์ผีแดง 4 รายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนสนาม
รวมถึงมีรายงานว่ามีแฟนบอลจำนวนหนึ่งบุกรื้อค้นร้านอาหารบริเวณสนาม โดยทำการจับพนักงานของร้านจำนวน 8 คนขังในล็อบบี้ พร้อมกับขโมยเอาเงินจำนวนหนึ่งและอาหารบางส่วนจากชั้นขายของไป
นอกจากนี้ยังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถูกขว้างปาอาหารจากกลุ่มกองเชียร์ในระหว่างที่มีแฟนบอลเจ้าถิ่นจำนวน 2 คนบุกเข้ามาในสนามช่วงท้ายเกม จังหวะที่ เบน ฟอสเตอร์ นายทวารแมนฯ ยูไนเต็ด กำลังจะเตะลูกออกจากเส้นประตู
ล่าสุด เอฟเอ ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าจะเข้าสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเพื่อหาคนทำผิด "ตามที่มีรายงานหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตอนนี้เอฟเอกำลังรอรายงานจากเจ้าหน้าที่ของเอฟเอซึ่งอยู่ในเกม รวมถึงรายงานจากผู้ตัดสิน คริส ฟอย นอกจากนี้เอฟเอจะประสานงานกับทั้งสองสโมสรและเจ้าหน้าที่ตำรวจเซาธ์ ยอร์คเชียร์ เพื่อร่วมมือกันสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โอ๊คเวลล์"
ส่วน บาร์นสลีย์ ทีมเจ้าบ้านก็ได้ออกแถลงการณ์ว่าพวกตนจะทำการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน แต่ก็ได้กล่าวหาแฟนบอลของแมนฯ ยูไนเต็ดว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายในสนาม