สะดุดพ่ายมา 2 นัดรวด ทำให้ ลิเวอร์พูล แพ้ 4 จาก 9 นัดแรก โอกาสลุ้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี เลือนลางออกไปทุกขณะ อย่างไรก็ตาม "หงส์แดง" มีจุดกลับตัวในเกม พรีเมียร์ชิป วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคมนี้ หากเปิด แอนฟิลด์ เอาชนะ "จ่าฝูง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึก "วันแดงเดือด" ได้สำเร็จก็จะกลับสู่เส้นทางอีกครั้ง
ลิเวอร์พูล พบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เวลา 21.00น.
แม้ว่าจะมีลูกบอลชายหาดเจ้ากรรมมาเป็นตัวแปร ทำให้ ลิเวอร์พูล บุกไปพ่าย ซันเดอร์แลนด์ 0-1 ในนัดล่าสุด แต่ต้องโทษลูกทีมและ ราฟาเอล เบนิเตซ ที่มีเวลาถึง 85 นาทีในการทวงประตูคืนแต่ทำไม่สำเร็จ ส่วนหนึ่งก็เพราะการขาดหายไปของ สตีเวน เจอร์ราร์ด และ เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ได้รับบาดเจ็บกลับมาจากการรับใช้ชาติ
มิหนำซ้ำในเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล เล่นในถิ่น แอนฟิลด์ พลิกพ่ายให้กับ โอลิมปิก ลียง 1-2 ต้องลุ้นหนักในการเข้ารอบน็อกเอาท์กับ 3 นัดที่เหลือ แต่ถือเป็นการแพ้ 4 นัดติดต่อกันเลวร้ายที่สุดในรอบเกือบสองทศวรรษ แถม เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตันทีมยังเจ็บซ้ำ ต้องลุ้นหนักในการลงบัญชาทัพชน แมนฯยู
เกมนี้ ลิเวอร์พูล ต้องลุ้นเพียงแค่ เจอร์ราร์ด กับ ตอร์เรส ว่าจะลงสนามได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามปีที่แล้วที่เปิด แอนฟิลด์ ชนะ แมนฯยู 2-1 ทั้งคู่ก็ออกสตาร์ทที่ม้านั่งสำรอง ส่วนสถานการณ์ของ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือชาวสแปนิช เริ่มกดดันขึ้นเรื่อยๆ เพราะถัดจากนัดนี้ยังจะต้องบุกไปเยือนรัง อาร์เซนอล สัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม
ทางฝั่ง แมนฯยูไนเต็ด แม้จะนั่งบัลลังก์จ่าฝูงหลังผ่านพ้นไป 9 นัด แต่ต้องยอมรับว่าฟอร์มของ "แชมป์เก่า" ยังไม่อยู่ในระดับที่น่าพอใจนัก โดยเฉพาะเกมรับที่อ่อนปวกเปียกอย่างเกมล่าสุดก็ถูก โบลตัน วันเดอเรอร์ส บดอย่างหนัก แต่ก็อาศัยประสบการณ์ประคองตัวเก็บชัยชนะไปได้อย่างหืดจับ 2-1 ก่อนหน้านี้ก็เสมอกับ ซันเดอร์แลนด์ 2-2
เวย์น รูนีย์ และ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ ที่เจ็บและวืดลงเล่นในเกมกับ โบลตัน พร้อมจะลงสนามในเกมนี้ หลังจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประคบประหงมมาตลอดทั้งสัปดาห์ อย่างไรก็ตามมีข่าวว่า "รูน" อาจจะไม่ลงสนามหาก คอลีน ภรรยาคลอดลูกคนแรกตามกำหนดที่หมอคาดเอาไว้ ซึ่งก็ต้องรอดูว่า ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ จะต้องเปลี่ยนคู่ขามาเป็น ไมเคิล โอเวน เด็กเก่า ลิเวอร์พูล หรือไม่
หลังเกม โบลตัน นักเตะ แมนฯยู เจ็บกันออดๆ แอดๆ ไม่ว่าจะเป็น ไรอัน กิ๊กส์, ปาทริช เอฟรา รวมถึง เนมานยา วิดิช ที่ไม่ได้ลงค้ำแนวรับ แต่เกมกับ ลิเวอร์พูล น่าจะพร้อมลงสนาม อย่างไรก็ตามเป็นห่วงในเรื่องความฟิตที่จะต้องบดกับเจ้าถิ่นตลอดทั้งเกม เหมือนปีที่แล้วที่ "ผีแดง" ยวบจนผิดพลาดเองเลยโดนอัดทั้งเหย้า-เยือน 2 นัดรวม 2-6
ความน่าจะเป็นของเกม - ลิเวอร์พูล เล่นในถิ่น แถมต้องการชัยชนะอย่างยิ่ง เพราะแพ้มา 4 นัดรวด จึงต้องโถมเกมรุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างหนัก ส่วน แมนฯยู น่าจะต้องรอดักจังหวะเพื่อนสวนกลับ น่าจะมาเยือนด้วยแท็กติกที่เตรียมาเป็นอย่างดี ถ้าเกมรับไม่พลาดง่าย ยืนข้าง "ผีแดง" น่าได้ลุ้นมากกว่าอาจบุกกำชัย 0-1
วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2552
วูล์ฟแฮมป์ตัน พบ แอสตัน วิลลา เวลา 18.45น.
วูล์ฟฯ มีเกมรุกที่ดีบุกเป็นบ้าเป็นหลัง เล่นในบ้านยิ่งน่ากลัว แต่ทว่าไม่ค่อยคม มีเพียง เควิน ดอยล์ คนเดียวที่ไว้ใจได้ ต่างกับ วิลลา ที่มีระบบการเล่นที่ดีกว่า แถมกำลังมั่นใจเพิ่งล้ม เชลซี มา นักเตะตัวหลักยังอยู่กันครบครัน น่าจะบุกไปเก็บสามคะแนนเต็มได้ถึงรัง โมลินิวซ์ สเตเดียม
วิลลา ชนะ 1-2
เบอร์มิงแฮม ซิตี พบ ซันเดอร์แลนด์ เวลา 21.00น.
เบอร์มิงแฮม ยิ่งเล่นยิ่งแย่ไม่ว่าจะในบ้านหรือนอกบ้าน นักเตะมีชื่อชั้นทั้ง เจมส์ แม็คฟาดเดน, แบร์รี เฟอร์กูสัน และ เซบาสเตียน ลาร์สสัน แต่ประสานงานกันไม่ลงตัวเกมรุกยิงประตูได้น้อยมาก ผิดกับ ซันเดอร์แลนด์ ที่กำลังมั่นใจได้แต้มจาก แมนฯยู และ ลิเวอร์พูล ทั้ง ดาร์เรน เบนท์ และ เคลวีน โจนส์ น่าจะยิงพาทีมชนะได้
แมว ขย้ำ 0-1
เบิร์นลีย์ พบ วีแกน แอธเลติก เวลา 21.00น.
เบิร์นลีย์ เล่นในรัง เทิร์ฟ มูร์ ไร้ที่ติดชนะมา 4 นัดรวด ส่วน วีแกน เริ่มดีวันดีคืน กุนซือ โรแบร์โต มาร์ติเนซ ได้นักเตะ 11 ตัวแรกที่ลงตัว แต่ว่าเล่นนอกบ้านปีนี้หวังอะไรไม่ได้เลย ต่างกับเจ้าถิ่นที่วิ่งกันแบบลืมตายแน่นอนนักเตะอย่าง ร็อบบี เบล็ค, เดวิด นูเจนท์ และ สตีเวน เฟลทเชอร์ น่าจะยิงพาทีมชนะได้
เบิร์นลีย์ นิ่ม 2-1
ฮัลล์ ซิตี พบ ปอร์ทสมัธ เวลา 21.00น.
อยู่ท้ายตารางทั้งคู่ ฮัลล์ ดูเล่นฤดูกาลนี้แล้วค่อนข้างเหนื่อยใจ แต่เกมนี้ได้ จิมมี บุลลาร์ด หายพร้อมออกสตาร์ท หลังเกมล่าสุดที่แพ้ ฟูแลม ลงมาเป็นตัวสำรอง น่าจะช่วยปั้นเกมกับ โจวานนี ให้แนวรุกหลากหลายขึ้น ส่วน ปอร์ทสมัธ เริ่มเล่นดีแต่เหมือนไม่ค่อยมีโชค เกมนี้ถ้าคมสักหน่อยน่าจะมีแต้มกลับบ้าน
เสมอ 2-2
ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ พบ สโต๊ก ซิตี เวลา 21.00น.
สเปอร์ส ปีนี้ยกระดับการเล่นขึ้นมาได้ดีแพ้แค่ 2 นัดต่อ เชลซี และ แมนฯยู เจอกับทีมระดับเดียวกันสู้ได้สบาย แต่เกมนี้จะไม่มี เจอร์เมน เดโฟ โอกาสจึงน่าจะเป็นของ ปีเตอร์ เคราช์ แถม เล็ดลีย์ คิง ไม่เจ็บเกมรับยิ่งปึ้ก ต่างกับ สโต๊ก ที่ยังไม่ชนะนอกบ้าน สุดท้ายแล้ว "ไก่เดือยทอง" ที่แนวรุกหลากหลายจะชนะได้
ไก่จิก 3-1
เชลซี พบ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เวลา 23.30น.
คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ เชลซี น่าจะรู้แล้วว่า พรีเมียร์ชิป ไม่หมูอย่างที่คิด หลังออกสตาร์ทชนะ 6 นัดรวด แต่ล่าสุดบุกไปพ่าย วิลลา 1-2 ส่วน แบล็คเบิร์น เพิ่งชนะ เบิร์นลีย์ 3-2 แต่นอกบ้านฤดูกาลนี้สุดย่ำแย่แพ้มา 3 นัดรวด ยิ่งต้องมาเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของ "สิงห์บูลส์" ในช่วงที่แพ้มาแบบนี้มีหวัง "กุหลาบไฟ" คงจะไม่รอดพ่ายไป
เชลซี กำชัย 2-0
วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม 2552
โบลตัน วันเดอเรอร์ส พบ เอฟเวอร์ตัน เวลา 20.30น.
ฤดูกาลนี้ โบลตัน เล่นในถิ่น รีบอค สเตเดียม ยังไม่พานพบกับชัยชนะ แถมนัดนี้ยังต้องมาเจอกับคู่ต่อสู้ในสไตล์ใกล้เคียงกันคือ เน้นลูกหนักและบอลยาวอย่าง เอฟเวอร์ตัน ที่ปีนี้ดูจะไม่ดีเหมือนปีที่แล้ว แถมไอเดียในการเข้าทำดูจะหายไปพอสมควร จัดเป็นคู่ที่สูสีกันมากสุดท้ายแล้วจึงน่าจะเสมอกันไป
เจ๊ากัน 1-1
แมนเชสเตอร์ ซิตี พบ ฟูแลม เวลา 22.00น.
ฟอร์มแผ่วลงไปแล้วสำหรับ แมนฯซิตี สะดุดเสมอมา 2 นัด แต่ว่าเกมนี้เล่นในบ้านยังเชื่อขนมกินได้ เพราะชนะมา 3 นัดรวด มาร์ค ฮิวจ์ส คงเน้นลูกทีมเป็นพิเศษเพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมา ส่วน ฟูแลม มีดีที่ทีมเวิร์ค แต่ฟอร์มฤดูกาลนี้ฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ เกมนี้มาเยือนอีกน่าจะไม่รอดเงื้อมมือของเจ้าถิ่น
เรือฉิ่ว 1-0
เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด พบ อาร์เซนอล เวลา 23.15น.
ลำบากเหลือเกินสำหรับ เวสต์ แฮม ชั่วโมงนี้ ไม่ชนะมา 7 นัดรวดรั้งรองบ๊วยของตาราง แถมเล่นในถิ่น อัพตัน ปาร์ค ยังไม่ชนะเลย ต้องมาเจอกับ อาร์เซนอล ที่กำลังคึกชนะมา 4 นัรวด แถมบรรดานักเตะตัวหลักเริ่มหายเจ็บทยอยกลับมาเป็นทางเลือกให้ อาร์แซน เวนเกอร์ ดูมุมไหน "ขุนค้อน" ก็ต้านยากจะแพ้คารัง
ปืน บุกสอย 0-2