แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเฉือนชนะ โบลตัน 2-1 พร้อมกับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ขณะที่ ลิเวอร์พูล แพ้เป็นนัดที่ 4 ของฤดูกาลเมื่อบุกไปพ่ายต่อ ซันเดอร์แลนด์ 0-1 ส่วน อาร์เซนอล ไม่พลาดเอาชนะ เบอร์มิงแฮม ไปอย่างไม่ยากเย็น 3-1
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 โบลตัน
แมนฯ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีปัญหาในเกมรุกเมื่อ เวย์น รูนีย์ หอกตัวหลักบาดเจ็บน่องมาจากการช่วยชาติต้องพลาดเกมนี้ แต่ยังดีได้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เดินทางกลับมาจากบัลแกเรียจึงยืนคู่ในแดนหน้ากับ ไมเคิล โอเวน นอกจากนี้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายด่านจอมเก๋าจะลงเฝ้าเสาเป็นเกมแรกของฤดูกาล ทางฝั่ง โบลตัน ของ แกรี เม็กสัน ยังไม่มี ฌอน เดวิส กองกลาง กับ แอนดี โอไบรอัน กองหลังที่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว ส่วนที่เหลือคงยึดชุดเดิม โดยมี เควิน เดวีส์ ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า
เริ่มครึ่งแรกมา 4 นาที เป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะการต่อบอลกันขึ้นมาได้อย่างสวยงามทางริมเส้นด้านซ้ายจน เอฟรา หลุดเดี่ยวไปถึงเส้นหลัง ก่อนจะเปิดกลับเข้ากลาง โอเวน โหม่งก่อนจังหวะแรก ผสมกับมีโชคช่วยเมื่อ แซท ไนท์ กองหลังทีมเยือนสกัดไม่ดีจนกลายเป็นการทำเข้าประตูตัวเอง เจ้าถิ่นนำ 1-0
ผีแดงยังเดินหน้าต่อ มาถึงนาที 6 เบอร์บาตอฟ เล่นชิงจน กิ๊กส์ หลุดขึ้นไปถึงเส้นหลัง ก่อนที่ปีกเลือดเวลส์จะหยอดบอลไปทางเสาสอง อีแวนส์ ได้โหม่งเน้นๆหน้าประตู แต่บอลไปตรงตัว ยัสเคไลเนน ป้องกันได้อย่างหวุดหวิด หลังจากนั้นนาที 12 วาเลนเซีย ทำเกมขึ้นมาทางขวา ก่อนจะเปิดบอลเข้ากลาง เบอร์บาตอฟ เอี้ยวตัววอลเลย์ แต่บอลแฉลบ โอเวน ออกหลังไป
ด้าน โบลตัน แม้มีโอกาสบุกน้อยกว่า แต่เกือบมาได้ประตูตีเสมอในนาที 15 เมื่อ ริกเกตต์ส หยอดบอลจากด้านขวา กองหลังเจ้าถิ่นยืนตำแหน่งไม่ดีปล่อยให้ เดวีส์ ซึ่งไร้ตัวประกบได้โขกเต็มๆ แต่บอลหลุดเสาสองออกไป มาถึงนาที 23 วาเลนเซีย ได้ลองส่องไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือ ยัสเคไลเนน ทุบทิ้งออกไป
เกมผ่านครึ่งชั่วโมง เดอะทร็อตเตอร์ มีลุ้นอีกครั้งจากจังหวะการวางบอลยาวเข้ามาในเขตโทษของเจ้าถิ่น เดวีส์ พักอกย้อนกลับมาให้ เทย์เลอร์ วิ่งมายิงหลุดโคนเสานิดเดียว แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด มาคลายความกดดันด้วยการทำประตูหนีห่างออกไปในนาที 33 เมื่อ วาเลนเซีย เล่นชิงกับ เนวิลล์ ก่อนที่สุดท้ายปีกเอกวาดอร์จะซัดมุมแคบผ่านมือ ยัสเคไลเนน เข้าไปให้ทีมนำ 2-0 หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูกันอีกจนจบ 45 นาทีแรก
เกมครึ่งหลัง แชมป์เก่ายังทำเกมเหนือกว่า มาถึงนาที 50 กองหลังทีมเยือนเคลียร์บอลทิ้งไม่ดี เบอร์บาตอฟ เก็บได้ตรงหน้าเขตโทษ ก่อนจะจ่ายให้ โอเวน หลุดเข้าเขตโทษ แต่อดีตหัวหอกทีมชาติอังกฤษซัดบอลหลุดเสาสองออกไป หลังจากนั้นอีก 3 นาที หัวหอกบัลแกเรียจ่ายบอลให้ โอเวน หลุดเข้าไปลุ้นทำประตูอีกครั้ง แต่ถูก เคฮิลล์ มากดดันทำให้ยิงไม่ตรงกรอบ
มาถึงนาที 55 กิ๊กส์ โชว์ความสามารถเฉพาะตัวหลอกล่อกองหลังทีมเยือนในเขตโทษจนได้โอกาสสับไกด้วยซ้าย แต่บอลไปตรงตัว ยัสเคไลเนน รับเข้าซอง ก่อนที่ วาเลนเซีย จะทำเกมขึ้นมาทางขวาและหยอดบอลมาทางเสาสองให้ เบอร์บาตอฟ ลอยตัววอลเลย์ แต่นายด่านเลือดฟินส์โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งออกหลัง
โบลตัน ไม่สามารถหาทางเจาะแนวรับของเจ้าถิ่นไปลุ้นตีไข่แตกได้และเกือบเสียประตูอีกในนาที 67 เมื่อถูกโต้กลับเร็ว โอเวน ตวัดบอลให้ วาเลนเซีย กระชากบอลเข้าไปซัดมุมแคบในกรอบเขตโทษ แต่ ยัสเคไลเนน ยังช่วยป้องกันไม่ให้ทีมเยือนเสียประตูได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงนาที 75 กองหลังผีแดงสกัดบอลกันไม่เด็ดขาดปล่อยให้ คริส บาสแชม ผู้เล่นทีมเยือนมีโอกาสเปิดบอลจากริมเขตโทษด้านซ้ายถึงสองครั้ง จนสุดท้ายบอลมาเข้าหัว เทย์เลอร์ จัดการโหม่งผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ ช่วยให้ ทร็อตเตอร์ ได้ประตูไล่ขึ้นมาเป็น 1-2
ลูกทีมของเม็กสันกลับมาคึกคักบุกเข้าใส่อย่างหนักในช่วงท้ายเกม มาถึงนาที 79 แซท ไนท์ เกือบแก้ตัวได้เมื่อได้ซัดบอลตรงเส้นเขตโทษ บอลหลุดโคนเสาออกไปนิดเดียว หลังจากนั้น อีวาน คลาสนิก ได้ซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษแต่ไม่ตรงประตูอีก ก่อนที่ช่วงทดเจ็บ เคฮิลล์ จะได้โหม่งหน้าปากประตู แต่ไม่ผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ สุดท้ายจบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด จึงเอาชนะ 2-1 พร้อมกลับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงของตาราง
ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่น ลิเวอร์พูล พลิกล็อกบุกไปพ่ายต่อ ซันเดอร์แลนด์ 0-1 จากลูกยิงของ ดาร์เรน เบนท์ ตั้งแต่นาทีที่ 5 ขณะที่ อาร์เซนอล เอาชนะ เบอร์มิงแฮม ได้อย่างไม่ยากเย็น 3-1 ส่วน ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ยังทำผลงานดีบุกไปยัดเยียดความปราชัยนัดที่ 8 ให้ ปอร์ทสมัธ ด้วยการเฉือน 2-1
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอนนี อีแวนส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอฟรา, แกรี เนวิลล์, อันแดร์สัน, ไมเคิล คาร์ริก, ไรอัน กิ๊กส์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ไมเคิล โอเวน
โบลตัน : ยุสซี ยัสเคไลเนน, แซท ไนท์, แกรี เคฮิลล์, เจลอยด์ ซามูเอล, แซม ริกเก็ตต์ส, ริคาร์โด การ์เนอร์, ฟาบริซ มูซัมบา, ทามีร์ โคเฮน, แมทธิว เทย์เลอร์, ลี ชุง ยอง, เควิน เดวีส์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แอสตัน วิลลา ชนะ เชลซี 2-1
[0-1 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.15], [1-1 : ริชาร์ด ดันน์ น.32], [2-1 : เจมส์ คอลลินส์ น.52]
อาร์เซนอล ชนะ เบอร์มิงแฮม 3-1
[1-0 : โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์ น.16], [2-0 : อาบู ดิยาบี น.18], [2-1 : ลี โบวเยอร์ น.38], [3-1 : อังเดร อาร์ชาวิน น.84]
เอฟเวอร์ตัน เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-1
[0-1 : เควิน ดอยล์ น.76] , [1-1 : ดินิยาร์ บิลยาเลตดินอฟ น.88]
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ โบลตัน 2-1
[1-0 : แซท ไนท์ ทำเข้าประตูตัวเอง น.5], [2-0 : อันโตนิโอ วาเลนเซีย น.33], [2-1 : แมทธิว เทย์เลอร์ น.75]
ปอร์ทสมัธ แพ้ สเปอร์ส 1-2
[0-1 : เลดลีย์ คิง น.29], [0-2 : เจอร์แมน เดโฟ น.45], [1-2 : เควิน ปรินซ์ บัวเต็ง น.59]
สโต๊ค ชนะ เวสต์แฮม 2-1
[1-0 : เจมส์ บีตตี ลูกจุดโทษ น.11], [1-1 : แมทธิว อัพสัน น.34], [2-1 : เจมส์ บีตตี น.69]
ซันเดอร์แลนด์ ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0
[1-0 : ดาร์เรน เบนท์ น.5]
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 โบลตัน
แมนฯ ยูไนเต็ด ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีปัญหาในเกมรุกเมื่อ เวย์น รูนีย์ หอกตัวหลักบาดเจ็บน่องมาจากการช่วยชาติต้องพลาดเกมนี้ แต่ยังดีได้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เดินทางกลับมาจากบัลแกเรียจึงยืนคู่ในแดนหน้ากับ ไมเคิล โอเวน นอกจากนี้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ นายด่านจอมเก๋าจะลงเฝ้าเสาเป็นเกมแรกของฤดูกาล ทางฝั่ง โบลตัน ของ แกรี เม็กสัน ยังไม่มี ฌอน เดวิส กองกลาง กับ แอนดี โอไบรอัน กองหลังที่บาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว ส่วนที่เหลือคงยึดชุดเดิม โดยมี เควิน เดวีส์ ยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า
เริ่มครึ่งแรกมา 4 นาที เป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ออกนำอย่างรวดเร็วจากจังหวะการต่อบอลกันขึ้นมาได้อย่างสวยงามทางริมเส้นด้านซ้ายจน เอฟรา หลุดเดี่ยวไปถึงเส้นหลัง ก่อนจะเปิดกลับเข้ากลาง โอเวน โหม่งก่อนจังหวะแรก ผสมกับมีโชคช่วยเมื่อ แซท ไนท์ กองหลังทีมเยือนสกัดไม่ดีจนกลายเป็นการทำเข้าประตูตัวเอง เจ้าถิ่นนำ 1-0
ผีแดงยังเดินหน้าต่อ มาถึงนาที 6 เบอร์บาตอฟ เล่นชิงจน กิ๊กส์ หลุดขึ้นไปถึงเส้นหลัง ก่อนที่ปีกเลือดเวลส์จะหยอดบอลไปทางเสาสอง อีแวนส์ ได้โหม่งเน้นๆหน้าประตู แต่บอลไปตรงตัว ยัสเคไลเนน ป้องกันได้อย่างหวุดหวิด หลังจากนั้นนาที 12 วาเลนเซีย ทำเกมขึ้นมาทางขวา ก่อนจะเปิดบอลเข้ากลาง เบอร์บาตอฟ เอี้ยวตัววอลเลย์ แต่บอลแฉลบ โอเวน ออกหลังไป
ด้าน โบลตัน แม้มีโอกาสบุกน้อยกว่า แต่เกือบมาได้ประตูตีเสมอในนาที 15 เมื่อ ริกเกตต์ส หยอดบอลจากด้านขวา กองหลังเจ้าถิ่นยืนตำแหน่งไม่ดีปล่อยให้ เดวีส์ ซึ่งไร้ตัวประกบได้โขกเต็มๆ แต่บอลหลุดเสาสองออกไป มาถึงนาที 23 วาเลนเซีย ได้ลองส่องไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือ ยัสเคไลเนน ทุบทิ้งออกไป
เกมผ่านครึ่งชั่วโมง เดอะทร็อตเตอร์ มีลุ้นอีกครั้งจากจังหวะการวางบอลยาวเข้ามาในเขตโทษของเจ้าถิ่น เดวีส์ พักอกย้อนกลับมาให้ เทย์เลอร์ วิ่งมายิงหลุดโคนเสานิดเดียว แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด มาคลายความกดดันด้วยการทำประตูหนีห่างออกไปในนาที 33 เมื่อ วาเลนเซีย เล่นชิงกับ เนวิลล์ ก่อนที่สุดท้ายปีกเอกวาดอร์จะซัดมุมแคบผ่านมือ ยัสเคไลเนน เข้าไปให้ทีมนำ 2-0 หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูกันอีกจนจบ 45 นาทีแรก
เกมครึ่งหลัง แชมป์เก่ายังทำเกมเหนือกว่า มาถึงนาที 50 กองหลังทีมเยือนเคลียร์บอลทิ้งไม่ดี เบอร์บาตอฟ เก็บได้ตรงหน้าเขตโทษ ก่อนจะจ่ายให้ โอเวน หลุดเข้าเขตโทษ แต่อดีตหัวหอกทีมชาติอังกฤษซัดบอลหลุดเสาสองออกไป หลังจากนั้นอีก 3 นาที หัวหอกบัลแกเรียจ่ายบอลให้ โอเวน หลุดเข้าไปลุ้นทำประตูอีกครั้ง แต่ถูก เคฮิลล์ มากดดันทำให้ยิงไม่ตรงกรอบ
มาถึงนาที 55 กิ๊กส์ โชว์ความสามารถเฉพาะตัวหลอกล่อกองหลังทีมเยือนในเขตโทษจนได้โอกาสสับไกด้วยซ้าย แต่บอลไปตรงตัว ยัสเคไลเนน รับเข้าซอง ก่อนที่ วาเลนเซีย จะทำเกมขึ้นมาทางขวาและหยอดบอลมาทางเสาสองให้ เบอร์บาตอฟ ลอยตัววอลเลย์ แต่นายด่านเลือดฟินส์โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งออกหลัง
โบลตัน ไม่สามารถหาทางเจาะแนวรับของเจ้าถิ่นไปลุ้นตีไข่แตกได้และเกือบเสียประตูอีกในนาที 67 เมื่อถูกโต้กลับเร็ว โอเวน ตวัดบอลให้ วาเลนเซีย กระชากบอลเข้าไปซัดมุมแคบในกรอบเขตโทษ แต่ ยัสเคไลเนน ยังช่วยป้องกันไม่ให้ทีมเยือนเสียประตูได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงนาที 75 กองหลังผีแดงสกัดบอลกันไม่เด็ดขาดปล่อยให้ คริส บาสแชม ผู้เล่นทีมเยือนมีโอกาสเปิดบอลจากริมเขตโทษด้านซ้ายถึงสองครั้ง จนสุดท้ายบอลมาเข้าหัว เทย์เลอร์ จัดการโหม่งผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ ช่วยให้ ทร็อตเตอร์ ได้ประตูไล่ขึ้นมาเป็น 1-2
ลูกทีมของเม็กสันกลับมาคึกคักบุกเข้าใส่อย่างหนักในช่วงท้ายเกม มาถึงนาที 79 แซท ไนท์ เกือบแก้ตัวได้เมื่อได้ซัดบอลตรงเส้นเขตโทษ บอลหลุดโคนเสาออกไปนิดเดียว หลังจากนั้น อีวาน คลาสนิก ได้ซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษแต่ไม่ตรงประตูอีก ก่อนที่ช่วงทดเจ็บ เคฮิลล์ จะได้โหม่งหน้าปากประตู แต่ไม่ผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ สุดท้ายจบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด จึงเอาชนะ 2-1 พร้อมกลับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงของตาราง
ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่น ลิเวอร์พูล พลิกล็อกบุกไปพ่ายต่อ ซันเดอร์แลนด์ 0-1 จากลูกยิงของ ดาร์เรน เบนท์ ตั้งแต่นาทีที่ 5 ขณะที่ อาร์เซนอล เอาชนะ เบอร์มิงแฮม ได้อย่างไม่ยากเย็น 3-1 ส่วน ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ยังทำผลงานดีบุกไปยัดเยียดความปราชัยนัดที่ 8 ให้ ปอร์ทสมัธ ด้วยการเฉือน 2-1
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, จอนนี อีแวนส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอฟรา, แกรี เนวิลล์, อันแดร์สัน, ไมเคิล คาร์ริก, ไรอัน กิ๊กส์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ไมเคิล โอเวน
โบลตัน : ยุสซี ยัสเคไลเนน, แซท ไนท์, แกรี เคฮิลล์, เจลอยด์ ซามูเอล, แซม ริกเก็ตต์ส, ริคาร์โด การ์เนอร์, ฟาบริซ มูซัมบา, ทามีร์ โคเฮน, แมทธิว เทย์เลอร์, ลี ชุง ยอง, เควิน เดวีส์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แอสตัน วิลลา ชนะ เชลซี 2-1
[0-1 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา น.15], [1-1 : ริชาร์ด ดันน์ น.32], [2-1 : เจมส์ คอลลินส์ น.52]
อาร์เซนอล ชนะ เบอร์มิงแฮม 3-1
[1-0 : โรบิน ฟาน เพอร์ซีย์ น.16], [2-0 : อาบู ดิยาบี น.18], [2-1 : ลี โบวเยอร์ น.38], [3-1 : อังเดร อาร์ชาวิน น.84]
เอฟเวอร์ตัน เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-1
[0-1 : เควิน ดอยล์ น.76] , [1-1 : ดินิยาร์ บิลยาเลตดินอฟ น.88]
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ โบลตัน 2-1
[1-0 : แซท ไนท์ ทำเข้าประตูตัวเอง น.5], [2-0 : อันโตนิโอ วาเลนเซีย น.33], [2-1 : แมทธิว เทย์เลอร์ น.75]
ปอร์ทสมัธ แพ้ สเปอร์ส 1-2
[0-1 : เลดลีย์ คิง น.29], [0-2 : เจอร์แมน เดโฟ น.45], [1-2 : เควิน ปรินซ์ บัวเต็ง น.59]
สโต๊ค ชนะ เวสต์แฮม 2-1
[1-0 : เจมส์ บีตตี ลูกจุดโทษ น.11], [1-1 : แมทธิว อัพสัน น.34], [2-1 : เจมส์ บีตตี น.69]
ซันเดอร์แลนด์ ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0
[1-0 : ดาร์เรน เบนท์ น.5]