ทาเคชิ โคชิโมโต้ โปรโมเตอร์มวยคู่ระหว่าง ซาไก จ๊อคกี้ยิม กับ คาสึโยชิ นิกิ ที่ดวลกำปั้นเดือด จนนักมวยไทยเสียชีวิตนั้น ยืนยันพร้อมที่จะรับผิดชอบเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการทำพิธีศพที่ญี่ปุ่น และค่าใช้จ่ายต่างๆ พร้อมจ่ายเงินชดเชยรวมแล้วด้วยเงินจำนวน 5 แสนบาท
หลังจากที่ ซาไก จ๊อคกี้ยิม นักชกวัย 20ปี ชาวอุดรธานี เดินทางไปชกนอกโปรแกรมกับ คาสึโยชิ นิกิ นักมวยเจ้าถิ่นที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วเสียชีวิตหลังดวลกำปั้นตลอด 10 ยก ด้วยอาการเลือดคั่งในสมอง เมื่อวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา
ล่าสุด ทาเคชิ โคชิโมโต้ โปรโมเตอร์มวยชาวญี่ปุ่น ซึ่งนำซาไกไปชกในนัดนี้ เปิดเผยว่า "ผมเสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวมาก เวลานี้ได้ประสานงานกับทางสถานทูตไทยในเรื่องเอกสารต่างๆเพื่อนำ ศพไปบำเพ็ญกุศลที่ประเทศไทยให้เร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าไม่เกิน 3 วันร่างของนักมวยไทยจะถูกนำกลับถึงบ้านเกิดที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป"
ขณะที่เรื่อง ค่าใช้จ่ายนั้น โปรโมเตอร์แดนอาทิตย์อุทัย ยืนยันพร้อมรับผิดชอบทุกอย่าง "ในกรณีที่มีนักชกไทยมาเสียชีวิตที่นี่ ทางสหพันธ์มวยญี่ปุ่น จะเป็นผู้ออกเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมดและจะมอบเงินให้กับทางครอบครัวเป็นจำนวนเงินประมาณ 5 แสนบาท โดยเป็นเงินประกันการชกกับค่าทำขวัญ"
ด้าน สมมาตร หงสกุล หัวหน้าผู้ดูแลนักชกไทยออกมาเผยถึงความรู้สึกว่า "เท่าที่ได้คุยกับทีมงานทางญี่ปุ่น ทราบว่าก่อนขึ้นชกยก 10 สภาพร่างกาย ของซาไก นั้น ไม่มีอาการที่ทำท่าว่าจะหมดสติให้เห็น อย่างไรก็ตามผมคิดว่าเหตุการณ์เศร้าสลดนี้ น่าจะมาจากการชกอันดุเดือดตลอดทั้ง 10 ยกของนักชกทั้ง 2 และธรรมชาติของนักมวยรายนี้ชอบที่จะมาเร่งเครื่องเอาช่วงท้ายๆ ซึ่งเป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่สุด"
สำหรับ ประวัติของ ซาไก จ๊อคกี้ยิม นั้นมีชื่อจริงว่า สมบูรณ์ เวียงชัย เป็นชาวบ้านโนนทรายฟอง อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี อายุ 20 ปี เคยชกมวยไทยมาก่อน อยู่ในสังกัดของ สมมาตร หงสกุล ก่อนจะเบนเข็มมาชกมวยสากลได้ 22 ครั้ง ชนะ 15 แพ้ 7 ผลงานโดดเด่นที่สุดคือการชนะน๊อค โจอิชิโร่ ทัตสึโยชิ อดีตแชมป์โลกซูเปอร์สตาร์ ของญี่ปุ่น ยกที่ 7 เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา ที่เวทีราชดำเนิน
จากนั้นได้โอกาสชกชิงแชมป์ราชดำเนินในรุ่นแบนตั้มเวต แต่ก็แพ้ น็อคให้ ก้าวหน้า ชูวัฒนะ ในยกที่ 4 เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา จากนั้น ก็ได้รับการทาบทามให้ไปชกญี่ปุ่น ในครั้งนี้ เพราะว่าชื่อขายได้ จากการเป็นผู้พิชิตซูเปอร์สตาร์ ทัตสึโยชิ ของญี่ปุ่นนั่นเอง
