xs
xsm
sm
md
lg

“คาร์ริก” กดชัย! ผีแซงชนะ 2-1, “เชลซี” เฉือนหวิว 1-0

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไมเคิล คาร์ริก ซัดประตูชัยช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาเบียดชนะ โวล์ฟสบวร์ก 2-1 ขณะที่ เชลซี บุกไปเฉือน อโปเอล นิโกเซีย แบบหวุดหวิด 1-0 จากลูกยิงของ นิโกลาส์ อเนลกา ในศึกยูฟา แชมเปียนส์ลีก เมื่อวันพุธที่ 30 กันยายน



ผลฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ลีก กลุ่มบี
แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 2-1 โวล์ฟสบวร์ก (เยอรมัน)

คาร์ริก เฮหลังซัดประตูชัย
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หมดสิทธิ์ใช้งาน ปาร์ก จี-ซอง ซึ่งป่วยไข้หวัด โดยตำแหน่งผู้รักษาประตูเป็นโอกาสของ โทมัส คุซแช็ก ลงเฝ้าเสา ขณะที่แดนหน้าให้ ไมเคิล โอเวน ลงมาล่าตาข่ายคู่กับ เวย์น รูนีย์ ทางฝั่ง โวล์ฟสบวร์ก ของเทรนเนอร์ อาร์มิน เฟห์ ทีมค่อนข้างสมบูรณ์มีสองหัวหอกตัวเก่งอย่าง กราฟิเต และ เอดิน เซโก ประจำการเหมือนเดิม
อันแดร์สัน กระดกบอลหนีคู่แข่ง
เริ่มครึ่งแรก กลายเป็น โวล์ฟสบวร์ก ที่มีโอกาสก่อนหลังเกมผ่านมา 5 นาที จากความผิดพลาดของ วิดิช โหม่งเคลียร์ไม่ขาด บอลมาตกใส่ เกนท์เนอร์ บริเวณริมเขตโทษ จากนั้นเล่นชิงกับ กราฟิเต ก่อนจะตามมาซัดด้วยซ้าย แต่ไม่ผ่าน คุซแช็ก ทีมเยือนยังทำเกมได้ดีกว่าเล็กน้อยอีก 4 นาทีต่อมาได้ลุ้นอีกครั้งเมื่อ เซโก ตัดบอลได้หน้าเขตโทษ ก่อนจะวางเท้าซัดไกล บอลหลุดเสาออกไป

แมนฯ ยูไนเต็ด มีลุ้นประตูครั้งแรกในนาที 17 จากจังหวะฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา รูนีย์ รับหน้าที่ปั่นด้วยขวา ส่งบอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว หลังจากนั้นอีก 3 นาทีอาการเจ็บโคนขาหนีบของ โอเวน กำเริบจนต้องถูกเปลี่ยนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว โดยมี ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ลงสนามมาแทน

เจ้าถิ่นเริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ ถึงนาที 25 วาเลนเซีย เบียดแย่งบอลจากคู่แข่งได้ ก่อนเล่นชิงกับ เบอร์บาตอฟ จนหลุดเข้าไปซัดในเขตโทษ บอลหลุดเสาสองออกไปเล็กน้อย หลังจากนั้นอีก 4 นาที ดาวยิงชาวบัลแกเรียเก็บบอลได้บริเวณเส้นเขตโทษ แต่ถูกกองหลังมาพัวพันจึงตัดสินใจยกบอลให้ คาร์ริก วิ่งสอดแนวรับหลุดเข้าไปซัดในเขตโทษ แต่ เบนาโย ออกมาเร็วบล็อกบอลออกหลังไป

เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แชมป์จากเยอรมนีได้ลูกเตะมุม มิซิโมวิช เปิดบอลมาเข้าหัว เกนท์เนอร์ ลอยตัวโขกเต็มๆ แต่บอลไม่ตรงกรอบอีก หลังจากนั้น กิ๊กส์ ประสานงานได้สวยกับ รูนีย์ จนปีกชาวเวลส์หลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะกระดกบอลมาทางเสาสอง เบอร์บาตอฟ วิ่งมาวอลเลย์เต็มข้อเหินข้ามคานออกไปเช่นกัน

แชมป์พรีเมียร์ลีกบุกกดดันต่อเนื่อง วาเลนเซีย ทำเกมขึ้นมาตรงหน้าเขตโทษ ก่อนจะตอกส้นให้ เบอร์บาตอฟ เล่นลูกส้นอีกครั้งให้ รูนีย์ วิ่งสอดขึ้นไปยิง แต่บอลเบาเกินไปถูก เบนาโย รับสบาย หลังจากนั้นปีกชาวเอกวาดอร์กระชากบอลขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนจะเปิดบอลมาเข้าหัว คาร์ริก พุ่งโหม่ง แต่ไปตรงตัวนายด่านทีมเยือนอีก สุดท้ายจบ 45 นาทีแรก เสมอกัน 0-0
คาร์ริก (ล่าง) ดวลกับ มิซิโมวิช
เริ่มเกมครึ่งหลังมา 2 นาที “หมาป่า” ได้ลูกเตะมุมอย่างรวดเร็ว มิซิโมวิช เปิดบอลข้ามกองหลังเจ้าถิ่นมาถึง คอสตา ได้ซัดโล่งๆ หน้าประตู แต่บอลเหินออกหลังไป หลังจากนั้น เกนท์เนอร์ ได้โอกาสสับไกจากนอกเขตโทษ แต่บอลไปแฉลบกองหลังเจ้าถิ่นลอยไปเข้ามือ คุซแช็ก รับเข้าซองอย่างไม่มีปัญหา

เกมมาถึงนาที 55 เจ้าถิ่นพลาดโอกาสทำประตูอย่างน่าเสียดาย เมื่อ รูนีย์ ทำชิงเร็วจน อันแดร์สัน หลุดเข้าไปสับไกด้วยซ้าย แต่ เบนาโย โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งออกไป หลังจากนั้นกลายเป็น โวล์ฟสบวร์ก ที่เป็นฝ่ายออกนำก่อน 1-0 เมื่อทีมทำเกมรุกขึ้นมา ก่อนที่จังหวะสุดท้าย ฮาเซเบะ จะหยอดบอลมาเข้าหัว เซโก ซึ่งลอยตัวได้สูงกว่า เอฟรา โขกบอลหนีมือ คุซแช็ก ซุกก้นตาข่าย

แต่อีก 4 นาทีถัดมา “ผีแดง” ตามตีเสมอได้อย่างรวดเร็ว เมื่อทีมได้ฟรีคิกตรงบริเวณหน้าเขตโทษ กิ๊กส์ รับหน้าที่สังหารบอลไปแฉลบกำแพงผู้เล่นทีมเยือนจนเปลี่ยนทาง เบนาโย พุ่งมาปัดไม่ทันทำให้สกอร์มาเสมอกันที่ 1-1 หลังจากนั้นเจ้าบ้านบุกต่อ ปีกจอมเก๋าชาวเวลส์เล่นลูกเตะมุมสั้นไหลบอลให้ รูนีย์ จัดการปั่นด้วยขวาตรงริมเขตโทษ บอลเลี้ยวหลุดสามเหลี่ยมออกไปนิดเดียว

ความพยายามของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในการทำประตูออกนำมาบรรลุผลในนาที 78 จากจังหวะที่ เบอร์บาตอฟ เก็บบอลได้ในเขตโทษ เมื่อหาช่องยิงไม่ได้จึงจ่ายต่อให้ กิ๊กส์ แต่จับบอลจังหวะแรกไม่ดีอีกจึงไหลย้อนมาให้ คาร์ริก จัดการซัดตรงหน้าเขตโทษ บอลเลี้ยวหนีมือ เบนาโย ตุงตาข่าย เจ้าถิ่นพลิกนำ 2-1


ช่วงท้ายเกม แชมป์พรีเมียร์ลีกมีโอกาสที่จะบวกประตูเพิ่ม แต่จังหวะสุดท้ายไม่เด็ดขาดพอจึงพลาดไป ขณะที่ โวล์ฟสบวร์ก เกือบตีเสมอได้เช่นกันจากลูกยิงแบบฉีดยาของ โชซูเอ ตรงหน้าเขตโทษ แต่บอลหลุดเสาออกไป ทั้งสองทีมไม่มีการทำประตูเพิ่มเติมอีกจบเกม 90 นาที เจ้าบ้านเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะไป

สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่น นิโกลาส์ อเนลกา ซัลโวประตูชัยนาที 18 ช่วยให้ เชลซี บุกไปเฉือนชนะ อโปเอล นิโกเซีย ที่ไซปรัส แบบหวุดหวิด 1-0 ขณะที่ คริสเตียโน โรนัลโด เหมาสองประตูพา รีล มาดริด ไล่ถล่ม โอลิมปิก มาร์เซย 3-0

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด :
โทมัส คูซแช็ก, เนมานยา วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอฟรา, จอห์น โอเชีย, อันแดร์สัน, ไมเคิล คาร์ริก, ไรอัน กิ๊กส์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิล โอเวน, เวย์น รูนีย์

โวล์ฟสบวร์ก : ดิเอโก เบนาโย, อเล็กซานเดอร์ มาดลุง, ริคาร์โด คอสตา, โชซูเอ, มาร์เซล ชาร์เนอร์, ซาสชา รีเธอร์, ซเวซดาน มิซิโมวิช, คริสเตียน เกนท์เนอร์, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, กราฟิเต, เอดิน เซโก

ผลฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
กลุ่มเอ
บาเยิร์น มิวนิก (เยอรมนี) เสมอ ยูเวนตุส (อิตาลี) 0-0
บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส) ชนะ มัคคาบี ไฮฟา (อิสราเอล) 1-0
[1-0 : มิชาเอล ซิอานี น.83]

กลุ่มบี
ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย) ชนะ เบซิกตัส (ตุรกี) 2-1
[1-0 : อลัน ซาโกเยฟ น.7], [2-0 : มิลอส คราซิช น.61], [2-1 : เอกเรม แด๊ก น.90]
แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) ชนะ โวล์ฟสบวร์ก (เยอรมนี) 2-1
[0-1 : เอดิน เซโก น.55], [1-1 : ไรอัน กิ๊กส์ น.59], [2-1 : ไมเคิล คาร์ริก น.78]

กลุ่มซี
เอซี มิลาน (อิตาลี) แพ้ เอฟซี ซูริก (สวิสฯ) 0-1
[0-1 : ฮันนู ทิฮิเนน น.10]
รีล มาดริด (สเปน) ชนะ มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) 3-0
[1-0 : คริสเตียโน โรนัลโด น.58], [2-0 : กากา ลูกจุดโทษ น.61], [3-0 : คริสเตียโน โรนัลโด น.64]

กลุ่มดี
อโปเอล นิโกเซีย (ไซปรัส) แพ้ เชลซี (อังกฤษ) 0-1
[0-1 : นิโกลาส์ อเนลกา น.18]
ปอร์โต (โปรตุเกส) ชนะ แอตเลติโก มาดริด (สเปน) 2-0
[1-0 : ราดาเมล ฟัลเกา น.75], [2-0 : โรแลนโด น.82]
กำลังโหลดความคิดเห็น