ไบรอัน ร็อบสัน อดีตกองกลางทีมชาติอังกฤษ จะจรดปากกาเซ็นสัญญาคุมทัพทีมชาติไทย อย่างเป็นทางการ ในช่วงเย็นวันพุธที่ 23 กันยายนนี้ จากนั้นขอเหินฟ้ากลับไปจัดการธุระยังประเทศอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว รวมถึงกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่รับหน้าที่เป็นทูตอยู่
หลังจาก ร็อบสัน อดีตกุนซือ มิดเดิลสโบรช์ และ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน เหินฟ้าถึงประเทศไทย เมื่อวันอังคารที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดการรับงานคุมทีมชาติต่อจาก ปีเตอร์ รีด ทำให้กองทัพนักข่าวเดินทางไปที่โรงแรมเรดิสัน เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 23 ก.ย.
แต่ทว่าไม่เห็นเงาของ ร็อบสัน ปรากฏเพียง วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ออกมายืนยันว่า ร็อบสัน จะเซ็นสัญญาพร้อมเปิดใจในเวลา 6 โมงเย็นที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เรสทัวร์รองแอนด์บาร์ โรงแรมเพรสซิเด้นท์ พาเลซ สุขุมวิท 11
พร้อมกันนี้ วรวีร์ เปิดเผยอีกว่า ร็อบสัน อดีตกัปตันทีม แมนฯยูไนเต็ด ยุคทศวรรษ 80 จะเซ็นสัญญา 4 ปีคุมทีมชาติไทย แต่ไม่เปิดเผยเรื่องค่าเหนื่อย โดยคาดกันว่าจะไม่ถึง 1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 56 ล้านบาท) ต่อปี ตามที่เป็นข่าว อาจจะอยู่ที่ 600,000 ปอนด์ (ประมาณ 33.6 ล้านบาท) ต่อปี
โดย “บิ๊กยี” กล่าวว่า “เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา ผมได้ไปพบกับ ร็อบสัน มาแล้ว พร้อมได้พูดคุยในรายละเอียดสัญญากัน โดยจะมีระยะสัญญา 4 ปี ขณะที่เรื่องค่าเหนื่อยคงเปิดเผยไม่ได้ ส่วนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการนั้นวางไว้ว่า เป็นวันที่ 16 ตุลาคมนี้ ซึ่งจากนี้จะให้เขากลับอังกฤษ เพื่อจัดการธุระส่วนตัว พร้อมกับแจ้งให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทราบถึงเรื่องการตัดสินใจมาร่วมงานกับสมาคมฟุตบอลไทย”
“ส่วนสัญญาดังกล่าวจะมีเงื่อนไขพิเศษหลายประการที่บอกได้ คือ เรื่องที่ระบุว่าจะมีการประเมินผลงานกันทุก 1 ปี หากทั้ง 2 ฝ่ายพอใจก็จะร่วมงานกันต่อ แต่หากไม่เป็นอย่างที่ต้องการก็คงต้องจากกันด้วยดี เรามีประสบการณ์มาแล้ว กับการที่คนไม่มีใจเราคงไปรั้งเขาต่อไปไม่ได้” นายกลูกหนัง กล่าว
ขณะเดียวกับ ประมุขลูกหนังไทยยังเปิดเผยถึงเป้าหมายที่วางไว้ให้ “ร็อบโบ” ด้วยว่า “อันดับแรกตอนนี้ที่เขาต้องทำให้ได้ คือ พาทีมชาติไทยไปเล่นรอบสุดท้ายฟุตบอลเอเชียนคัพ 2011 ส่วนเป้าหมายถัดไปต้องนำทีมไปลุยโอลิมปิก 2012 ที่ประเทศอังกฤษ จากนั้นเป้าหมายสุดท้ายจะเป็นการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล ซึ่งเราก็ต้องการผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกเช่นกัน”