ศรีราชา เอฟซี สโมสรอันดับสุดท้ายในศึกไทยพรีเมียร์ลีก เอือมระอากับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินในเกมบุกไปพ่าย ทีโอที เอฟซี 0-1 ชี้เป่าได้อย่างย่ำแย่และไม่ให้ทีมได้ประโยชน์เลย พร้อมทั้งมั่นใจว่ายังสามารถรอดตกชั้นได้ในช่วง 5 นัดที่เหลือ
ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา “ฮัลโหล” เล่นเป็นเจ้าบ้านในสนามธันเดอร์โดม เมืองทองธานี เฉือน “มัจฉาสีน้ำเงิน” หวุดหวิด 1-0 จากการยิงช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ กิตติพงษ์ มูลพงศ์ ตัวสำรองที่ลงมาในครึ่งหลัง อย่างไรก็ตาม แมตช์นี้ยังมีประเด็นเรื่องการทำหน้าที่ของสิงห์เชิ้ตดำซึ่งฝ่ายหลังออกมาวิพากษ์วิจารณ์
ซึ่ง ฉัตรชัย ทิมกระจ่าง ประธานสโมสร และ วีระศักดิ์ หวังกุศล ผู้จัดการทีม “บลู มาร์ลิน” ร่วมตำหนิ อรรถกร เวชการ ผู้ตัดสินในนัดดังกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “เราลงทุนทำทีมไปหลายสิบล้าน แต่ต้องมาเจอเรื่องแย่ๆ อย่างนี้ ทั้งที่จริง ไพรัช ทับเกตุแก้ว กองหลังทีโอทีควรโดนใบแดงจากจังหวะทำฟาวล์ พิเชษฐ์ อินทร์บาง ที่กำลังหลุดเดี่ยว (นาทีที่ 43) แต่กลับให้แค่ใบเหลือง รวมทั้งหลายจังหวะที่เรากำลังได้เปรียบหรือมีลุ้นจะเข้าไปทำประตู แต่ก็มาเป่าหยุดเกมเสียก่อนจนรู้สึกเหมือนโดนกลั่นแกล้ง ถ้าจะพูดกันตามตรงก็คือทีมเล็กๆ อย่างเราไม่เคยได้ประโยชน์จากการเป่าของผู้ตัดสินเลย”
ทั้งนี้ ทันทีที่สิ้นเสียงนกหวีดจบเกม แฟนบอล “ปลากระโทงแทงสีน้ำเงิน” ต่างพากันตะโกนต่อว่าทีมผู้ตัดสินในแมตช์นี้ตั้งแต่อยู่บนอัฒจันทร์ ก่อนตามไปกดดันถึงหน้าห้องพักของเหล่าตุลาการสนาม ร้อนถึงทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและตำรวจต้องมายืนคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด กระทั่งสาวกศรีราชาถอยทัพและขึ้นรถเดินทางกลับบ้านไป
สำหรับสถานการณ์ลุ้นหนีตกชั้น สโมสรจากเมืองน้ำเค็มยังคงรั้งอันดับสุดท้ายของตาราง มีเพียง 18 คะแนน ตามหลัง ราชนาวี ระยอง ทีมอันดับ 13 ซึ่งเป็นโซนปลอดภัยอยู่ถึง 6 คะแนน กระนั้น ทรงยศ กลิ่นศรีสุข กุนซือบลู มาร์ลิน ยังคงแสดงความเชื่อมั่นว่า “ผู้เล่นทุกคนยังไม่ถอดใจ เห็นได้จากรูปเกมที่เราเหนือกว่า ทีโอที เพียงแต่ยังต้องปรับปรุงเล็กน้อยในบางจุด เช่น การจบสกอร์ หากเราเล่นดีและทุ่มเทเต็มที่เชื่อว่าโอกาสอยู่รอดก็มี 70-80 เปอร์เซ็นต์ โดย 5 นัดที่เหลือจะพยายามเก็บแต้มให้ได้มากที่สุด”
อนึ่ง ศรีราชา เอฟซี เหลือโปรแกรมลงเตะในบ้านถึง 3 นัด โดยจะพบกับ จุฬา ยูไนเต็ด ทีมร่วมชะตากรรมเดียวกันในสัปดาห์หน้า รวมถึง บีอีซี เทโรศาสน (4 ตุลาคม) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (11 ตุลาคม) ส่วนเกมเยือนจะออกไปปะทะกับ นครปฐม เอฟซี อีกทีมที่ลุ้นหนีตาย (7 ตุลาคม) ก่อนปิดซีซันด้วยการบุกถิ่น โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี (18 ตุลาคม)
ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2009 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา “ฮัลโหล” เล่นเป็นเจ้าบ้านในสนามธันเดอร์โดม เมืองทองธานี เฉือน “มัจฉาสีน้ำเงิน” หวุดหวิด 1-0 จากการยิงช่วงทดเวลาบาดเจ็บของ กิตติพงษ์ มูลพงศ์ ตัวสำรองที่ลงมาในครึ่งหลัง อย่างไรก็ตาม แมตช์นี้ยังมีประเด็นเรื่องการทำหน้าที่ของสิงห์เชิ้ตดำซึ่งฝ่ายหลังออกมาวิพากษ์วิจารณ์
ซึ่ง ฉัตรชัย ทิมกระจ่าง ประธานสโมสร และ วีระศักดิ์ หวังกุศล ผู้จัดการทีม “บลู มาร์ลิน” ร่วมตำหนิ อรรถกร เวชการ ผู้ตัดสินในนัดดังกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า “เราลงทุนทำทีมไปหลายสิบล้าน แต่ต้องมาเจอเรื่องแย่ๆ อย่างนี้ ทั้งที่จริง ไพรัช ทับเกตุแก้ว กองหลังทีโอทีควรโดนใบแดงจากจังหวะทำฟาวล์ พิเชษฐ์ อินทร์บาง ที่กำลังหลุดเดี่ยว (นาทีที่ 43) แต่กลับให้แค่ใบเหลือง รวมทั้งหลายจังหวะที่เรากำลังได้เปรียบหรือมีลุ้นจะเข้าไปทำประตู แต่ก็มาเป่าหยุดเกมเสียก่อนจนรู้สึกเหมือนโดนกลั่นแกล้ง ถ้าจะพูดกันตามตรงก็คือทีมเล็กๆ อย่างเราไม่เคยได้ประโยชน์จากการเป่าของผู้ตัดสินเลย”
ทั้งนี้ ทันทีที่สิ้นเสียงนกหวีดจบเกม แฟนบอล “ปลากระโทงแทงสีน้ำเงิน” ต่างพากันตะโกนต่อว่าทีมผู้ตัดสินในแมตช์นี้ตั้งแต่อยู่บนอัฒจันทร์ ก่อนตามไปกดดันถึงหน้าห้องพักของเหล่าตุลาการสนาม ร้อนถึงทีมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและตำรวจต้องมายืนคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด กระทั่งสาวกศรีราชาถอยทัพและขึ้นรถเดินทางกลับบ้านไป
สำหรับสถานการณ์ลุ้นหนีตกชั้น สโมสรจากเมืองน้ำเค็มยังคงรั้งอันดับสุดท้ายของตาราง มีเพียง 18 คะแนน ตามหลัง ราชนาวี ระยอง ทีมอันดับ 13 ซึ่งเป็นโซนปลอดภัยอยู่ถึง 6 คะแนน กระนั้น ทรงยศ กลิ่นศรีสุข กุนซือบลู มาร์ลิน ยังคงแสดงความเชื่อมั่นว่า “ผู้เล่นทุกคนยังไม่ถอดใจ เห็นได้จากรูปเกมที่เราเหนือกว่า ทีโอที เพียงแต่ยังต้องปรับปรุงเล็กน้อยในบางจุด เช่น การจบสกอร์ หากเราเล่นดีและทุ่มเทเต็มที่เชื่อว่าโอกาสอยู่รอดก็มี 70-80 เปอร์เซ็นต์ โดย 5 นัดที่เหลือจะพยายามเก็บแต้มให้ได้มากที่สุด”
อนึ่ง ศรีราชา เอฟซี เหลือโปรแกรมลงเตะในบ้านถึง 3 นัด โดยจะพบกับ จุฬา ยูไนเต็ด ทีมร่วมชะตากรรมเดียวกันในสัปดาห์หน้า รวมถึง บีอีซี เทโรศาสน (4 ตุลาคม) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (11 ตุลาคม) ส่วนเกมเยือนจะออกไปปะทะกับ นครปฐม เอฟซี อีกทีมที่ลุ้นหนีตาย (7 ตุลาคม) ก่อนปิดซีซันด้วยการบุกถิ่น โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี (18 ตุลาคม)