"บิ๊กจา" พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ รองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย มั่นใจทัพนักกีฬาไทยจะสามารถคว้าเหรียญทอง ในกีฬาโอลิมปิก 2012 และโอลิมปิก 2016 รวมกันได้ถึง 23 เหรียญอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ต้องได้รับความร่วมมืออย่างจริงจังจากทุกสมาคม
เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2552 เวลา14.00 น.ณ รร. เรดิสัน ถนนพระรามเก้า มีการประชุมจัดแผนยุทธศาสตร์สร้างกีฬาไทยสู่ความเป็นเลิศ พ.ศ. 2553-2559(ค.ศ. 2012 - 2016) โดยมี ดร. ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธานในที่ประชุม และมีตัวแทนของสมาคม ทั้ง 64 ตบเท้าเข้าร่วมกันอย่างคับคั่ง ซึ่งวาระการประชุม เอ่ยถึงเป้าหมายสำคัญคือ การคว้าเหรียญทอง 23 เหรียญ จากโอลิมปิกปี2012 -2016 และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกีฬาของทวีปเอเชียให้จงได้ ภายใต้ในกรอบวงเงิน 24,000 ล้านบาท
โดยพล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ ในฐานะรองประธานและเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย กล่าวถึงแผนพัฒนาชุดนี้ไว้ในที่ประชุมว่า "นี่คือแผนแห่งความก้าวหน้า ทุกอย่างเป็นไปได้ หลายคนอาจมองว่า 8 เหรียญทองในกีฬาโอลิมปิกนั้นยาก แต่ถ้าดูแล้วในโอลิมปิกปี 2008 ที่ผ่านมา เราเกือบคว้าเหรียญทองมาคล้องคอมาได้จากหลายชนิดกีฬา อาทิเช่น เป้าบิน และ เทควันโด "
"ผมเชื่อว่าแผนยุทธศาสตร์ครั้งนี้ เป็นเป้าหมายแห่งความเป็นจริง ที่อยู่บนพื้นฐานในความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามต้องอาศัยความร่วมมือจากนายกฯทั้ง 64 สมาคม ต้องทำงานกันอย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่งขอยกตัวอย่างกีฬาวอลเลย์บอลหญิง ใครจะไปคิดว่าเราสามารถชนะญี่ปุ่นและจีนได้ หากเราตั้งใจทำเต็มที่ 8 เหรียญทองที่หวังไว้ในกีฬาโอลิมปิก 2012 ในอีก2 ปี ข้างหน้าและอีก 15 ทอง ในปี 2016 คงไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป"
ทั้งนี้ เป้าหมาย 8 เหรียญทองจากโอลิมปิก2012 ประกอบไปด้วย ยกน้ำหนัก และ มวยสากลสมัครเล่น(ชาย)2 เหรียญทอง, มวยสากลสมัครเล่น(หญิง), เทควันโด, ยิงปืน, และเป้าบิน อย่างละ 1 เหรียญทอง
ส่วนในปี 2016 ที่ไทยหวังคว้า 15 เหรียญทองประกอบไปด้วย มวยสากลสมัครเล่น(ชาย)3 เหรียญทอง, ยกน้ำหนัก 3 เหรียญทอง, มวยสากลสมัครเล่น(หญิง),เทควันโด, ยิงปืน, เป้าบิน, เทนนิส, แบดมินตัน, กรีฑา(กระโดดไกล)มวยปล้ำหญิง และ เรือใบ อย่างละ 1 เหรียญทอง